BM.chaiwut
พระมหาชัยวุธ โภชนุกูล ฉายา ฐานุตฺตโม

เมื่อ monitor.gotoknow ใช้ไม่ได้ ความรู้สึกขาดหายบางอย่างก็เกิดขึ้น


http://monitor.gotoknow.org

บทสวดมนต์ทำวัตร์เช้ามีตอนหนึ่งที่กินใจว่า

  • อัปปิเยหิ สัมปะโยโค ทุกโข การประสบกับสิ่งไม่เป็นที่รักที่พอใจเป็นทุกข์
  • ปิเยหิ วิปปะโยโค ทุกโข การพลัดพรากจากสิ่งที่รักที่พอใจเป็นทุกข์
  • ยัมปิจฉัง นะ ละภะติ ตัมปิ ทุกขัง มีปรารถาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้น ก็เป็นทุกข์

 

ตอนบ่ายวันนี้ เมื่อเปิดเวบ http://monitor.gotoknow.org ปรากฎว่าเข้าไม่ได้... ในครั้งแรก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่เมื่อครั้งที่สองที่สามก็ยังเข้าไม่ได้ ทำให้ผู้เขียนระลึกไปว่าคุณโยม Conductor ซึ่งเป็นผู้ดูแลจุดนี้ไม่อยู่ จึงน่าจะต้องรอให้คุณโยมกลับมาก่อน...

โดยปกติ เมื่อเปิดเครื่องต่อเน็ต ผู้เขียนก็จะเปิด monitor.gotoknow เสมอ... ว่างๆ ก็เปิดดูว่ามีบันทึกใหม่หรือมีความเห็นใหม่ๆ อะไรบ้างที่น่าสนใจ ก็จะเปิดเข้าไปอ่าน... แต่เมื่อวันนี้ใช้ไม่ได้ ก็ต้องกลับไปใช้วิธีเก่าก็คือ เปิดไปยังหน้าแรกของ GoToKnow เพื่อดูบันทึกใหม่ ความเห็นใหม่... การที่วงจรการใช้งานเปลี่ยนไปเพราะมีบางสิ่งที่ขาดหายไป ทำให้รู้สึกว่า ชีวิตเรามีบางอย่างที่ขาดหายไป... ซึ่งปกติเมื่อเกิดความรู้สึกทำนองนี้ บทสวดมนต์ทำวัตรเช้าข้างต้น มักจะแล่นเข้ามายังคลองความคิดของผู้เขียนเสมอ...

 

หวลระลึกย้อนหลังไปยังตอนที่เข้ามาใช้ GoToKnow ในระยะแรกๆ ซึ่งตอนนั้น monitor.gotoknow ก็ยังไม่มี ผู้เขียนก็เปิดหน้าแรกอยู่ปกติ... ต่อมาเมื่อมีการนำ monitor.gotoknow  มาใช้เพื่อลดภาระหน้าแรกให้ทำงานน้อยลง... จำได้ว่า สองสามวันแรกก็ค่อนข้างจะไม่ได้ดังใจเหมือนกัน เพราะวงจรการใช้งานเปลี่ยนไป คล้ายๆ กับมีบางอย่างที่เราปรารถนาขาดหายไป และมีบางอย่างที่เราไม่ปรารถนาเข้ามาแทนที่.... แต่พอคุ้นเคยแล้ว หน้าแรกกับผู้เขียนก็ค่อยๆ ห่างเหิน ซึ่งบางครั้งนับเป็นสัปดาห์ที่ผู้เขียนไม่เคยเข้าไปยังหน้าแรกเลย....

สรุปว่า ความรู้สึกของวันนี้ก็คล้ายๆ กับการที่ต้องจากหน้าแรกมาในอดีตนั้นเอง....

..............

อันที่จริงความรู้สึกขาดหายหรือสูญเสียบางอย่างในชีวิตประจำวันอย่างหนึ่ง และการประสบหรือเพิ่มเข้ามาของบางอย่างในชีวิตประจำวันอีกอย่างหนึ่ง... สองประการนี้ จะทำให้วงจรชีวิตประจำวันของคนเราแตกต่างไปจากเดิม (จะมากหรือน้อยก็แล้วแต่กรณี) ความรู้สึกที่แปลกไปจากเดิมทำนองนี้ ถ้าเป็นสิ่งที่พึงพอใจก็เรียกว่าความสุข แต่ถ้าเป็นสิ่งที่ไม่พึงพอใจก็เรียกว่าความทุกข์ ดังนั้น สุขหรือทุกข์จึงขึ้นอยู่กับความรู้สึกนี้เอง...

ผู้เขียนบวชมานาน คราวใดที่พระ-เณรที่คุ้นเคยชอบพอกัน ได้ลาสิกขาไป ก็รู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างขาดหายไป ซึ่งมักจะเป็นอย่างนี้ทุกครั้ง... แต่พอผ่านไปปีแล้วปีเล่า มีความรู้สึกว่า อ๋อ ! เรื่องนี้ธรรมดา ไม่มีอะไรมาก สักพักเราก็ลืม...

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงออกพรรษา มีน้องหลวงหรือน้องเณรบางรูป ที่มาบวชเข้าพรรษา ซึ่งก็ใช้เวลาอยู่ในวัดอย่างน้อยสุดก็ ๓-๔ เดือน.. บางคนเมื่อจำเป็นต้องลาสิกขาไป รู้สึกอาลัยอาวรณ์ต่อหลวงพี่หรือหลวงน้าที่ตนมาอยู่ด้วย... รู้สึกกังวลว่า  ต่อไปหลวงพี่หลวงน้าซึ่งอยู่ร่วมกับตนอยู่นั้น จะอยู่กับใคร ? ... ผู้เขียนก็อธิบายให้ฟังว่า อ๋อ ! ท่านบวชมานานแล้ว แรกๆ ท่านก็รู้สึกเหงาๆ ขาดๆ ไปบ้าง แต่ไม่นานนัก ท่านปรับตัวได้ ท่านก็ลืมคุณ... ประมาณนี้

monitor.gotoknow ก็เช่นเดียวกัน วันนี้เราใช้ไม่ได้ จำเป็นต้องไปใช้หน้าแรก จึงรู้สึกขาดหายอะไรไปบ้าง... แต่ถ้าเราจำเป็นต้องเปิดหน้าแรกไปสัก ๒-๓ วัน... ต่อไปเราก็ปรับสภาพได้ และเราก็คงจะลืม monitor.gotoknow ... ทำนองกับพระบวชนาน ลืมอดีตพระที่สึกไปในเวลาไม่นานนัก...

..........

หนุ่มหรือสาวบางคน เมื่อคู่รักบอกเลิก รู้สึกว่าบางอย่างขาดหายไป ชีวิตนี้ไม่อาจอยู่คนเดียว หรือหาสิ่งอื่นมาแทนได้... บางคนก็อาจสิ้นหวังถึงกับต้องกระโดดตึก...

พวกเราชาว GoToKnow ก็ทำนองเดียวกัน... เมื่อ monitor.gotoknow ใช้ไม่ได้ ก็อย่างเพิ่งสิ้นหวังถึงกับไปโดดตึกเลย เปิดหน้าแรกเอาก็ได้... คงไม่นานนัก หวังว่าอีก ๒-๓ วัน  monitor.gotoknow ก็น่าจะใช้ได้... และหรือ แม้ว่าใช้ไม่ได้ก็อาจมิใช่สิ่งจำเป็น เพราะเราเริ่มคุ้นเคยกับหน้าแรกของGoToKnow อีกครั้งแล้ว... 

  •  หมายเหตุ : พอเขียนบันทึกนี้เสร็จ monitor.gotoknow ก็ใช้ได้อีกครั้ง

 

คำสำคัญ (Tags): #monitor.gotoknow
หมายเลขบันทึก: 172392เขียนเมื่อ 22 มีนาคม 2008 21:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

นมัสการพระอาจารย์ ครับ

นมัสการค่ะ Sasinanda

แม้แต่เวลาไปเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัดและพักอยู่กับเขา3-4 วันเวลาลากลับมาบ้านแล้ว ยังรู้สึกเหงาๆเลยค่ะ ต้องอีก2-3 วันก็จะชิน เป็นอย่างนี้ทุกคนค่ะ 

กราบ 3 หนค่ะ

P

Sasinanda

 

เห็นด้วยกับคุณโยม...

อันที่จริงเรื่องทำนองนี้ เป็นความรู้สึกเหมือนๆ กัน เพียงแต่เรื่องใหญ่เรื่องเล็กเท่านั้น... ถ้าใครรู้เท่าทันและทำใจได้ โอกาสที่จะให้สิ่งเหล่านี้ครอบงำจิตใจเราก็จะมีน้อยลง....

เจริญพร

 

คือว่าผมก็ไม่ได้ร่ำเรียนมาทางไสยศาสตร์ด้วยซินะครับ แต่ผมก็คงเป็นอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงอยู่บ้าง ขนาดอาจารย์ธวัชชัยยังมาขอให้ช่วยเสกเลยครับ

monitor.gotoknow.org สิงสถิตย์อยู่บนคอมพิวเตอร์ที่ทำงานบริการสังคมหลายอย่างครับ ปัญหาเป็นเรื่องเทคนิค คือกองกลางของหน่วยความจำหมด (dynamic memory pool depleted) เพราะว่า hardware ทำงานมาตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคมเมื่อปีที่แล้วเป็นเวลา 209 วัน โดยไม่ได้ปิดเครื่องเลย

ดังนั้นบ่ายวันนี้ เจ้าหน้าที่ก็ restart ระบบเมื่อมีผู้แจ้งว่า hardware ของ monitor ใช้ไม่ได้ครับ -- ในขณะนี้ได้นำเอา monitor ใส่เข้าไปในระบบเฝ้าระวังแล้ว ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่รู้ตัวทันทีที่ระบบใช้ไม่ได้ โดยไม่ต้องรอให้ใครมาแจ้งก่อน 

เมื่อ restart แล้ว ระบบก็ทำงานต่อตามปกติครับ

hardware ของ monitor นี้ เคยทำงานได้ 466 วัน ก่อนที่จะต้อง restart และเป็นระบบเสริมสำหรับการเผยแพร่ภาพจากงานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี อัลบั้มภาพ ๘๐ ปีเฉลิมพระเกียรติ และประมวลภาพพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา จากสำนักพระราชวังด้วยครับ

นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่าอย่ารอจนเกิดปัญหาเสียก่อน

P

Conductor

 

พอเขียนเสร็จจะโพสต์ก็ลองเข้าใหม่อีกครั้ง ปรากฎว่าเข้าได้... จะลบบันทึกนี้ทิ้งก็เสียดาย จึงได้หมายเหตุไว้...

ตี่ต่างว่า่ monitor.gotoknow ใช้ไม่ได้สัก ๒-๓ วันจริงๆ บันทึกนี้อาจโดนใจ...

แต่ก็ไม่เป็นไร ประวัติศาสตร์อาจซ้ำรอยได้... เมื่อมีโอกาสอาจได้อ้างถึงกระทู้นี้อีกครั้ง...

เจริญพร

นมัสการ พระอาจารย์ BM.chaiwut

ตามมาจาก ครูณัฐ ขอรับ

กระผมเคยลงไปอยู่ที่เทพา สงขลาครับ ตอนนั้นมีลูกอายุ 5 ขวบ กับ 1 ขวบ รู้สึกเหงา คิดถึงลูกมาก ๆ "โฮมซิค" โทร.กลับมาบ้านต้องกลั้นน้ำตาทุกครั้ง ตอนนี้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาแล้วครับ แต่อีกไม่นานเด็กๆ คงจากไปอีกครั้ง ด้วยภาระกิจด้านการเรียนหนังสือ คงปล่อยสองตายาย นั่ง "กั้งโกบ" (แปลว่า เอามือยกขึ้นเหนือคิ้วเพื่อป้องแสง)มองทาง ว่าเมื่อไหร่จะเห็นลูกเดินกลับมาเสียทีนะ...

ทุกข์นี้คิดว่าคงละไม่ลงขอรับ...

นมัสการ ขอรับ

P

หมอเล็ก

 

โรคโฮมซิค คิดถึงบ้าน ถ้าใครไม่เคยเจอกับตนเอง คงจะเข้าไม่ถึง... ตอนที่อาตมาไปเรียนที่เชียงใหม่ เมื่อ ๔-๕ ปีก่อน...

ก็ได้ MP3 มาแผ่นหนึ่ง รวมเพลงปักษ์ใต้ไว้... ฟังๆ ไป ก็เริ่มเศร้า (ช่วงนั้นก็คิดถึงบ้านอยู่แล้ว) พอมาถึงเพลงของใครก็จำไม่ได้ ซึ่งลงเสียงหนักแน่นสำเนียงปักษ์ใต้บ้านเราว่า...

  • คิดถึงบ้านมั้งหม้าย โอ โอ้ ปักษ์ใต้บ้านเรา !
  • คิดถึงบ้านมั้งหม้าย โอ โอ้ ปักษ์ใต้บ้านเรา !
  • คิดถึงบ้านมั้งหม้าย โอ โอ้ ปักษ์ใต้บ้านเรา !
  • .....

 

เพลงก็ซ้ำอยู่ตรงนี้แหละ หลายครั้ง... อาตมารู้สึกตื้นตันในใจ น้ำตาทำท่าจะไหล... จึงปิดเสียง ลุกขึ้น พลางหัวเราะ แล้วก็พูดออกมากับตัวเองว่า เออ ! กูทำท่าจะบ้าแล้ว 5 5 5... (และตั้งแต่วันนั้น ไม่ค่อยเปิดฟังเลย ฟังแล้วคิดถึงบ้าน)

ต่ออีกนิด... ก็มาเล่าให้น้องหลวงน้องเณรปักษ์ใต้บ้านเราในวัดที่อยู่ด้วยกันฟัง... น้องหลวงรูปหนึ่ง ซึ่งขึ้นไปอยู่เชียงใหม่ก่อนอาตมาหลายปี เล่าว่า เขาเคยเป็นขนาดหนัก จึงตัดสินใจนั่งรถจากเชียงใหม่กลับกระบี่ ไปจำวัดที่บ้าน ๒ คืน แล้วก็กลับขึ้นมาเรียนต่อ...

อีกอย่างหนึ่ง เพลงปักษ์ใต้นี้ก็แปลก เท่าที่ฟังมา ตอนอยู่เชียงใหม่... ยังไม่เคยเจอเพลงว่า  เป็นอยู่ปักษ์ใต้ลำบาก ต้องบากหน้าเข้ามาหางานทำกรุงเทพฯ เลย... มีแต่เพลงชวนให้กลับบ้านทั้งนั้น (5 5 5...)

เจริญพร

 

นมัสการพระอาจารย์ BM.chaiwut มายิ้มๆกับบันทึกนี้ค่ะ 5 เดือนผ่านไปเท่านั้นเองนะคะ ประวัติศาสตร์ก็ซ้ำรอยจริงๆด้วย

P โอ๋-อโณ

 

ยังไม่ได้ดูเลยว่าผ่านไปกิ่เดือน... แต่การหายไปครั้งนี้ ไม่มีความรู้สึกดังเขียนบันทึกนี้ เพราะช่วงนี้ เปิดอ่านโกทูโนน้อยลงกว่าช่วงนั้นเยอะ...

อนึ่ง แม้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย แต่สาเหตุที่ซ้ำรอยนั้น แตกต่างกัน (5 5 5...)

เจริญพร

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท