เกิดที่ชลบุรี โตที่ชลบุรี และแก่อยู่ทีชลบุรีนี่แหละ เป็นลูกชาวนา,ชาวไร่,ชาวสวนโดยกำเนิด เป็นคนสุดท้อง มีพี่ 6 คน พี่สาว 3 พี่ชาย 3 คนโตสุดเป็นหญิงปีนี้อายุได้ 79 ขวบ
การศึกษาเบี้องต้นจากจังหวัดบ้านเกิด ครั้งสุดท้ายขณะเรียนอยู่ประสานมิตร ปี 3 ก็เกิดเหตุ(14 ตุลา 16) จำได้ว่าวันนั้นกำลังไปฝึก รด.ปี 5 อยู่ที่ตึกกลม คณะวิทยาศาสตร์มหิดล และผลสุดท้ายก็ได้เป็นคนสุดท้ายจริงๆ ที่สามารถหลุดรอดออกมาจากธรรมศาสตร์ได้โดยปลอดภัย จึงนับได้ว่าเป็น " คนเดือนตุลา " อย่างแท้จริง
กลับบ้านมาบวชอยู่ 4 พรรษา ได้ความรู้ทั้งภาษาบาลี และขอมอยู่ในขั้นพออ่านออกเขียนได้ (สามารถอ่านเขียนยันต์-ลงยันต์ได้) สอนนักธรรมตรีอยู่ 2 ปี จึงสึกออกมาและสอบเข้ารับราชการกรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรฯ แล้วย้ายมาอยู่กรมอุทยานฯ กระทรวงทรัพยากรฯ ช่วงท้ายไปทำงานในโครงการตามพระราชดำริ จนเกษียณอายุราชการ
มีความรู้ "พิเศษ" ในเรื่องที่เกี่ยวกับต้นไม้ทั้งหลายแหล่ เช่นว่าน สมุนไพร ไม้ดอกไม้ประดับ จนกระทั่งพันธุ์ไม้ในป่าเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่อง"ว่าน" จัดได้ว่าเป็นกระบี่มืออันดับ 6 ของปัจจุบันเลยทีเดียว (อันดับ 1-5 เสียชีวิตหมดแล้ว อิอิ)
จังหวัดชลบุรี มีการละเล่นที่นิยมอยู่อย่างหนึ่ง เรามักเรียกกันว่าการ "ทายโจ๊ก" หรือชื่อที่รู้จักกันโดยทั่วๆไปคือ ผะหมี โคลงทาย ปริศนาคำประพันธ์ หรือปริศนาร้อยกรองนั่นเอง นัยว่าในเมืองไทยมีการละเล่นชนิดนี้ มาตั้งแต่ปลายสมัยรัชกาลที่ 4 โน่น แล้วมาเฟื่องฟูที่สุดในสมัยรัชกาลที่ 6 จากนั้นก็ค่อยๆ เลือนหายไป จนกระทั่งในปัจจุบันแทบจะไม่มีใครได้รู้จัก แต่ที่ชลบุรีนั้นมีการเล่นทายโจ๊กกันมาตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2451- 2452 และเป็นที่น่ายินดีที่การละเล่นชนิดนี้ไม่เคยขาดหายไปจากชลบุรีเลย นับถึงปัจจุบันก็ 100 กว่าปีมาแล้ว
ข้าพเจ้าจึงรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มีส่วนร่วมในการช่วยกันอนุรักษ์ของดีๆ เหล่านี้ไว้ และพยายามที่จะถ่ายทอดและเผยแพร่เพื่อให้คงอยู่เป็นมรดกแก่ลูกหลานเหลนไทยสืบไป