อนุทินล่าสุด


krunuch
เขียนเมื่อ

เนื้อเพลง รอยจูบบนฝ่าเท้า ศิลปิน หลง ลงลาย

เมื่อครั้งเยาว์วัย ใครขับกล่อมเจ้า บรรจงจูบเบาๆ ตรงฝ่าเท้าน้อยๆ เฝ้าเลี้ยงดูแลตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย เทใจเฝ้าคอย วันที่เจ้าเติบโต จะเป็นอย่างไรเมื่อเจ้าเติบใหญ่ขึ้นมา ดีชั่วเก่งกล้ามีการศึกษาสวยโก้ ลืมตัวโบยบินเมื่อมั่งมีใหญ่โต โอหัง ยโส คุยโวโอ้อวดดี.. จะเป็นอย่างไร ใครก็ไม่อาจห้ามเจ้า พอเพื่อนหนุ่มสาวผู้ได้ฟังเพลงนี้

ก้มลงมองตรงฝ่าเท้าก่อนคิดจะทำชั่วดีสองตีน ของเจ้านี้ แหละที่พ่อแม่เคยจูบมัน

ยังจำได้ไหมใครเคยพร่ำสอน ยามเจ้าจะนอน ใครกล่อมให้หลับฝัน ใครคอยห่วงใยเจ้าได้ทุกวี่วัน ใครคนร้าวราน เมื่อเจ้านั้นเสียน้ำตา เจ้าเป็นเด็กดี พ่อแม่ก็ภูมิใจ ถ้าเจ้าเป็นผู้ร้ายคงไม่มีใครปรารถนา

รอยจูบบนฝ่าเท้า…… เพราะรักเจ้าเกินกว่าฟ้า…. แล้วสิ่งใดเล่าหนาเจ้าจะหา มาตอบแทน http://www.youtube.com/watch?v=jIf-oq0G3bk



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krunuch
เขียนเมื่อ

http://www.youtube.com/watch?v=O9CbQyL9AiA

ศิลปิน: เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์

อัลบั้ม: Smile Club
ฉันยังจำเสมอที่เธอเคยบอกกับฉัน คิดแล้วยังตื้นตันเกินอธิบาย
นึกถึงคำๆนั้นทุกวันที่ห่างกันไป เหมือนมันเป็นโยงใยที่ส่งถึงกัน
ไม่ว่าเราจะโชคดี หรือบางทีที่ร้องไห้ ต่างคนสนใจจะฟัง
เพราะว่าในชีวิตเรื่องจริงมันต่างจากฝัน ฝันไม่เคยมีวันที่เจ็บช้ำใจ
มีผู้คนอยู่รอบกาย เหมือนไม่มีไม่เห็นใคร แต่ใจๆฉันยังมีเธอ

คืนที่ไร้แสงไฟ วันที่ใจมัวหม่น ขอเพียงใครสักคนห่วงใยกัน
วันที่เสียน้ำตา วันที่ฟ้าเปลี่ยนผัน เธอก็ยังมีฉันอยู่ทั้งคน

ฝนที่ตกทางโน้น หนาวถึงคนทางนี้ ยังอยากได้ยินทุกเรื่องราว
ยังนอนดึกอยู่ใช่ไหม เธอผอมไปหรือเปล่า อย่าลืมเล่าสู่กันฟัง

คืนที่ไร้แสงไฟ วันที่ใจมัวหม่น ขอเพียงใครสักคนห่วงใยกัน
วันที่เสียน้ำตา วันที่ฟ้าเปลี่ยนผัน เธอก็ยังมีฉันอยู่ทั้งคน

(เพราะ)ฝนที่ตก(อยู่)ทางโน้น หนาวถึงคนทางนี้ ยังอยากได้ยินทุกเรื่องราว
เธอลำบากอะไรไหม เธอสู้ไหวหรือเปล่า อย่าลืมเล่าสู่กันฟัง

(เพราะ)ฝนที่ตก(อยู่)ทางโน้น หนาวถึงคนทางนี้ ยังอยากได้ยินทุกเรื่องราว
เธอลำบากอะไรไหม เธอสู้ไหวหรือเปล่า อย่าลืมเล่าสู่กันฟัง

เธอยังขาดอะไรไหม เธอสู้ไหวหรือเปล่า
อย่าลืมเล่าสู่กันฟัง เธอยังมีฉันอยู่ทั้งคน

 '''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''

ยังอยากได้ยินทุกเรื่องราว

อย่าลืมเล่าสู่กันฟัง

'''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krunuch
เขียนเมื่อ

 ฝนตกพรำๆติดต่อกันตลอดสัปดาห์  ด้วยภาระ หน้าที่

 ต้องออกบ้านแต่เช้าทุกวัน บางอารมณ์ ก็คิดอยากเกเรบ้าง

เห็นใจเด็กๆที่บ่นว่าไม่อยากไปโรงเรียนขึ้นมาทันที

ผู้ใหญ่อย่างเรายังมีอารมณ์อยากเกเรไม่ทำงานบ้างเลย

แต่ค้วยภาระ หน้าที่ ที่ต้องทำให้ดีที่สุด ก็ต้องทำ

และคิดว่า ทำภาระ ให้เป็น ฉันทะ ทำภาระหน้าที่ทุกอย่างด้วยใจรักแล้วเราก็สุขใจ

ดูแลอบรมสั่งสอน  ให้เด็กๆอยู่รอดปลอดภัย

อ่านออก เขียนได้ มีสติยั้งคิด สุขภาพอนามัยดี

ไม่ติดเชื้อโรคร้ายแรง ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน

อยู่ในสังคม อย่างมีความสุข ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์ เหนื่อย แต่ก็ สุขใจ

          พ่อแม่รักลูกแม้น     ดวงตา

     ยังส่งลูกรักมา             มอบให้

     ลูกเราสิรักษา              ดีสุด  ใจเฮย

     ของที่รับฝากไว้           จักต้อง  ทวีคูณ

หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล

............................................................



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krunuch
เขียนเมื่อ

 วันนี้แนะนำนักเรียนให้นำศีลห้าขึ้นมาเป็นบทนำ และเป็นโครงเรื่องในการเขียนเรียงความ ในหัวข้องดเหล้าเข้าพรรษา เพียงแค่ไม่ผิดศีลข้อห้าเพียงข้อเดียว ก็ง่ายที่จะรักษาศีลข้ออื่นๆได้เป็นอย่างดี

 1.ปาณาติปาตา เวรมณี (สิกฺขาปทํสมาทิยามิ) - เว้นจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตทั้งปวง รวมถึงการทำร้ายสัตว์ หรือมนุษย์ด้วย แม้แต่คิด หรือวางแผน ก็ถือว่าผิดศีลข้อนี้แล้ว

2.อทินฺนาทานา เวรมณี (สิกฺขาปทํสมาทิยามิ) - เว้นจากการลักทรัพย์ เอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้ รวมถึงการเบียดบัง ฉ้อราษฎร์บังหลวง เอาเปรียบคนอื่นด้วย แม้แต่คิด หรือวางแผน ก็ถือว่าผิดศีลข้อนี้แล้ว

3.กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี (สิกฺขาปทํสมาทิยามิ) - เว้นจากการประพฤติผิดในกามทั้งหลาย ข้อนี้เพียงแค่คิดก็ผิดแล้ว

4.มุสาวาทา เวรมณี (สิกฺขาปทํสมาทิยามิ) - เว้นจากการพูดเท็จ คำหยาบ หรือพูดส่อเสียด รวมถึงการพูดให้คนแตกสามัคคีกันด้วย

5.สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา เวรมณี (สิกฺขาปทํสมาทิยามิ) - เว้นจากการดื่มน้ำเมา อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท

..................

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krunuch
เขียนเมื่อ

ลูกหิน คาราบาว

หรีดหริ่งเรไรร้องระงมมา
ชมแสงจันทราว่าเพลานอน
ราตรีนี้มีเราเพียงสองคน
ผ่านความทุกข์ทนตรากตรําทํางาน
นอนเถิดลูกรัก พักผ่อนให้สบาย
จงเก็บเรี่ยวแรง ไว้ต่อสู้ต่อไป
ยุงเหลือบริ้นไร ไต่ตอมให้ทนเอาหน่อย
จงอย่าน้อยใจว่าเรายากจน
เอาความทุกข์ทนนี้เป็นบทเรียน
กว่าลูกจะโตหนทางยังไกล
ไม่ต้องเสียใจถึงใครนินทา
มารดาเจ้าไปดี มีความสุขสบาย
มีพ่อเพียงคนเดียว อย่าไปนึกเสียใจ
มีลูกเพียงคนเดียว พ่อจะไม่มีแม่ใหม่

เรียนเข้าไปลูก ถึงลูกจะเรียนโรงเรียนวัด
พ่อไม่มีเงินยัดลูกไปโรงเรียนดีดี
ลุยเข้าไปลูก เรียนเข้าไปให้มันได้เสีย
ไม่ต้องมีแป๊ะเจี๊ยะไม่ต้องเสียใจหรอก

เรียนเข้าไปลูก ถึงลูกจะเรียนโรงเรียนวัด
พ่อไม่มีเงินยัดลูกไปโรงเรียนดีดี
ลุยเข้าไปลูก เรียนเข้าไปให้มันได้เสีย
ไม่ต้องมีแป๊ะเจี๊ยะไม่ต้องเสียใจหรอก

เรียนเข้าไปลูก ถึงลูกจะเรียนโรงเรียนวัด
พ่อไม่มีเงินยัดลูกไปโรงเรียนดีดี
ลุยเข้าไปลูก เรียนเข้าไปให้มันได้เสีย
ไม่ต้องมีแป๊ะเจี๊ยะไม่ต้องเสียใจหรอก

จงภาคภูมิใจในความยากจน
พ่อไม่ใช่คนขี้โกงขี้กิน
คนเรามีค่าใช่เพียงทรัพย์สิน
เราเกิดบนดินควรทดแทนคุณ
ใฝ่คุณธรรม ทําแต่ความดี
มีอิ่มมีพอ ขออย่าสะสม
ช่วยเหลือผู้ทุกข์ตรม สมหวังดังพ่อตั้งจิต



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krunuch
เขียนเมื่อ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krunuch
เขียนเมื่อ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krunuch
เขียนเมื่อ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krunuch
เขียนเมื่อ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krunuch
เขียนเมื่อ

เขาย่อมเปรียบเทียบความว่ายามรัก

แต่น้ำผักต้มขมชมว่าหวาน

ครั้นรักจางห่างเหินไปเนิ่นนาน

แต่น้ำตาลว่าเปรี้ยวไม่เหลียวแล

(กลอนสุนทรภู่ บางตอนจาก "พระอภัยมณี")



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krunuch
เขียนเมื่อ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krunuch
เขียนเมื่อ

http://idealanna.igetweb.com/article/art_259663.jpghttp://idealanna.igetweb.com/article/art_259663.jpg" alt="" width="340" height="227" />

http://idealanna.igetweb.com/index.php?mo=3&art=259663

"ยำผักเฮือด และ แกงผักเฮือด"

"ผัก เฮือด" นั้น คนเหนือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ผักเฮือก และ ผักฮี แถวโคราชเรียกว่า โพไทร กรุงเทพฯเรียกว่า ผักไกร ภาคกลางส่วนใหญ่เรียกว่า ผักเลียบ หรือ ผักเลือด เพชรบุรีเรียกว่า ผักไฮ คนประจวบคีรีขันธ์เรียกว่า ไทรเลียบ

ผักเฮือด เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ และเป็นไม้ผลัดใบ อยู่ในเครือเดียวกับมะเดื่อลักษณะคล้ายต้นไทร สูง 8-15 เมตร ช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม จะทิ้งใบหมด และจะผลิใบใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ยอดผักเฮือดจะมีรสเปรี้ยว และมัน

หมอ พื้นบ้านทางภาคเหนือใช้เปลือกของต้นผักเฮือด ประมาณครึ่งถึงหนึ่งฝ่ามือสับเป็นชิ้นเล็กๆ ต้มดื่มแก้ปวดท้อง และมีข้อห้ามว่า หญิงแม่ลูกอ่อนที่มีอาการไอ ห้ามกินผักเฮือดจะทำให้โรคกำเริบขึ้น

การ กินผักเฮือดที่นิยมกันมี 2 วิธี วิธีแรก ใช้ยอดอ่อนของผักเฮือดกินสดๆ หรือนำไปลวก นึ่ง ลวกกับน้ำกะทิ ผักจิ้มกับน้ำพริก วิธีที่สอง นำยอดอ่อนใบอ่อนไปปรุงเป็นอาหารพื้นเมือง ชาวเหนือนิยมนำไปแกงกับซี่โครงหมู แกงกับปลา หรือยำผักเฮือด แกงเผ็ด แกงกะทิ หรือต้มกะทิปลาเค็ม ส่วนชาวอีสานบางท้องที่นำไปแกง

ท่าน ที่มีโอกาสขึ้นไปทางเหนือ ลองหาเมนูที่ทำจากผักเฮือดลิ้มลองกันดู เพราะเป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และถ้าอยากจะทำยำและแกงผักเฮือดกิน มีสูตรง่ายๆ ให้ลองทำกันดังนี้ 
ยำผักเฮือด 
มีส่วนผสมของผักเฮือด ปลาช่อนขนาดเล็ก หอมแดง กระเทียม พริกแห้ง กะปิ ปลาร้า ถั่วเน่า น้ำมันพืช เป็นต้น นำเครื่องปรุงน้ำพริกทั้งหมดโขลกรวมกันให้ละเอียด ต้มปลาช่อนในน้ำเดือดให้สุก แกะเอาเฉพาะเนื้อปลา และนำเนื้อปลามาตำรวมกับน้ำพริกให้เข้ากันดี ส่วนน้ำต้มปลาเก็บไว้ ลวกผักเฮือดให้สุกและหั่นฝอย เอาน้ำมันตั้งในกระทะ ผสมกับน้ำต้มปลาและยกลงจากเตาใส่น้ำพริกผักเฮือด คลุกเคล้าให้เข้ากัน ซอยหอมแดงเป็นฝอยๆ โรยหน้า

แกง ผักเฮือดกับซี่โครงหมู 
เครื่องปรุงประกอบด้วย ซี่โครงหมู ยอดผักเฮือด มะเขือส้ม น้ำมะขามเปียก น้ำปลา พริกแห้ง หอมแดง กระเทียม ตะไคร้ เกลือป่น และกะปิ เป็นต้น นำเครื่องแกงทั้งหมดโขลกรวมกันให้ละเอียด ล้างซี่โครงหมู และผักเฮือดให้สะอาด และพักไว้ เอาน้ำใส่หม้อตั้งไฟ พอเดือดใส่ซี่โครงหมู เคี่ยวให้เปื่อย ใส่เครื่องแกงลงหม้อที่กำลังเดือด พอเดือดอีกครั้งใส่ผักเฮือด พอผักเฮือดนุ่ม ใส่มะเขือส้มที่ล้างสะอาดแล้ว จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา ปรุงรสตามชอบแล้วยกลง

ที่มา : คม ชัด ลึก
http://www.komchadluek.net/news/2006/04-08/fsun--18299.html



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krunuch
เขียนเมื่อ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krunuch
เขียนเมื่อ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krunuch
เขียนเมื่อ

ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krunuch
เขียนเมื่อ

โลแกน และโลแกน ( เยาวพา เดชะคุปต์. 2528 : 40 ; อ้างอิงมาจาก Logan and Logan.1974:207) ได้แบ่งพัฒนาการทางภาษาออกเป็น 7 ขั้นดังนี้

1. ระยะเปะปะ อายุแรกเกิดถึง 6 เดือน ในระยะนี้เด็กจะเปล่งเสียงดังๆ ที่ยังไม่มีความหมายการเปล่งเสียงของเด็กเพื่อบอกความต้องการของเขา

2. ระยะแยกแยะ อายุ 6 เดือนถึง 1 ปี เด็กจะเริ่มเข้าสู่ระยะที่สอง ซึ่งเด็กสามารถแยกแยะเสียงต่างๆที่เราได้ยิน แล้วเด็กจะรู้สึกพอใจที่ส่งเสียงถ้าเสียงใดที่เขาเปล่งออกมาได้รับการตอบสนองในทางบวก เขาก็จะเปล่งเสียงนั้นซ้ำอีก ในบางครั้งเด็กจะเลียนเสียงสูงๆต่ำๆที่มีคนพูดคุยกับเขา

3. ระยะเลียนแบบ อายุ 1-2 ปี ในระยะนี้เด็กจะเริ่มเลียนเสียงต่างๆที่เขาได้ยิน เช่นเสียงของพ่อแม่ ผู้ใหญ่ใกล้ชิด เสียงที่เปล่งออกมาอย่างไม่มีความหมายจะค่อยๆหายไป และเด็กจะเริ่มฟังเสียงที่ได้รับการตอบสนองซึ่งนับว่าพัฒนาการทางภาษาจะเริ่มต้นอย่างแท้จริงในระยะนี้

4. ระยะขยาย อายุ 2-4 ขวบ ในระยะนี้เด็กจะหัดพูด โดยเริ่มจากการหัดเรียกชื่อ คน สัตว์ และสิ่งของที่อยู่ใกล้ตัว เขาจะเริ่มเข้าใจถึงกาใช้สัญลักษณ์ในการสื่อความหมาย ซึ่งเป็นการสื่อความหมายในโลกของผู้ใหญ่ การพูดของเด็กในระยะแรกๆจะเป็นการออกเสียงในคำนามต่างๆเป็นส่วนใหญ่ เช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง ฯลฯ และคำคุณศัพท์ต่างๆที่เขาเห็น รู้สึก ได้ยิน

5. ระยะโครงสร้าง อายุ 4-5 ขวบ ในระยะนี้เด็กจะพัฒนาความสามารถในการรับรู้และการสังเกต เด็กจะเริ่มเล่นสนุกกับคำและรู้จักคิดคำและประโยคของตนเอง โดยอาศัยการผูกคำวลี และประโยคที่เขาได้ยินคนอื่นพูด เด็กจะเริ่มคิดกฎเกณฑ์ การประสมคำและหาความหมายของคำและวลี โดยเด็กจะเริ่มรู้สึกสนุกกับการเปล่งเสียงโดยเขาจะเล่นเป็นเกมกับเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัว

6. ระยะตอบสนอง อายุ 5-6 ขวบ ในระยะนี้ความสามารถในการคิดและพัฒนาการทางภาษาของเด็กจะสูงขึ้น เขาจะเริ่มพัฒนาภาษาไปสู่ภาษาที่เป็นแบบแผนมากขึ้น และการใช้ภาษานั้นกับสิ่งต่างๆรอบตัว พัฒนาการทางภาษาของเด็กวัยนี้จะเริ่มต้นเมื่อเข้าเรียนในชั้นอนุบาล โดยเด็กจะเริ่มใช้ไวยากรณ์อย่างง่ายได้ รู้จักใช้คำเกี่ยวข้องกับบ้านและโรงเรียน ภาษาที่เด็กใช้ในการสื่อความหมายในระยะนี้จะเกิดจากสิ่งที่เขามองเห็นและรับรู้

7. ระยะสร้างสรรค์ อายุ 6 ปีขึ้นไป ในระยะนี้ได้แก่ระยะเด็กเริ่มเข้าสู่โรงเรียน เด็กจะเล่นสนุกกับคำ และหาวิธีสื่อความหมายด้วยตัวเลข เด็กในระยะนี้จะพัฒนา วิเคราะห์ และ สร้างสรรค์ ทักษะการสื่อความหมายโดยใช้ถ้อยคำสำนวนเปรียบเทียบ และภาษาที่พูดเป็นนามธรรมมากขึ้น และเขารู้สึกสนุกกับการแสดงความคิดเห็นโดยการพูดและการเขียน

 

     ส่วนหนึ่งของ รายงานการวิจัยในชั้นเรียน นายชาญประพน  สวัสดิ์เดช  ผู้วิจัยกลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทยโรงเรียนเซนต์หลุยส์ จังหวัด ฉะเชิงเทรา

 

 



ความเห็น (2)

น่าสนใจดีนะคะ และยิ่งดีมากที่ใส่ที่มาไว้ด้วยค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ ที่แนะนำ

krunuch
เขียนเมื่อ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krunuch
เขียนเมื่อ

พระพุทธเจ้า ทรงแสดงความเชื่อที่ประกอบด้วยปัญญาไว้ ๔ ประการ คือ.-

  • ๑.กัมมสัทธา คือ เชื่อกรรม
  •  ๒.วิปากสัทธา คือ เชื่อผลของกรรม 
  • ๓.กัมมัสสกตาสัทธา คือ เชื่อว่าสัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว 
  • ๔.ตถาคตโพธิสัทธา คือ เชื่อปัญญาการตรัสรู้ของพระตถาคตเจ้า (พระพุทธเจ้า)

กัมมสัทธา คือความเชื่อกรรม ได้แก่ ความเชื่อการกระทำของตนเอง ที่แสดงออกได้ทางกาย วาจา และใจ ว่าการแสดงออกทางกาย วาจา ใจนั้น เมื่อทำแล้ว เป็นอันทำ ไม่ใช่ทำแล้วไม่เป็นอันทำ                                                                หมายความว่า

  • การกระทำทางกาย เรียกว่า กายกรรม
  • การกระทำทางวาจา เรียกว่า วจีกรรม
  •  การกระทำทางใจ เรียกว่า มโนกรรม
  • กรรม เป็นคำกลาง ๆ ไม่ดี ไม่ชั่ว ได้แก่กิริยาอาการ เช่น ยืน เดือน นั่ง นอน เป็นต้นกรรมจะดีหรือชั่วได้นั้น ก็ขึ้นอยู่กับเจตนาของผู้กระทำ

 

  •  กายกรรม คือ กรรมที่ทำด้วยกาย ๓ อย่าง ได้แก่

๑. ปาณาติปาตา เวรมณี เว้นจากทำลายชีวิต 
๒. อทินนาทานา เวรมณี เว้นจากถือเอาของที่เขามิได้ให้ 
๓. กาเมสุมิจฉาจารา เวรมณี เว้นจากประพฤติผิดในกาม

  • วจีกรรม คือกรรมที่ทำด้วยวาจา ๔ อย่าง ได้แก่

๔. มุสาวาทา เวรมณี เว้นจากพูดเท็จ 
๕. ปิสุณายวาจาย เวรมณี เว้นจากพูดส่อเสียด 
๖. ผรุสาย วาจาย เวรมณี เว้นจาก พูดคำหยาบ 
๗. สัมผัปปลาปา เวรมณี เว้นจากพูดเพ้อเจ้อ
.

  • มโนกรรม กรรมที่ทำด้วยใจ ๓ อย่าง ได้แก่

๘. อนภิชฌา ไม่โลภคอยจ้องอยากได้ของเขา 
๙. อพยาบาท ไม่คิดร้ายเบียดเบียนเขา 
๑๐.สัมมาทิฏฐิ เห็นชอบตามคลองธรรม



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krunuch
เขียนเมื่อ

http://www.youtube.com/watch?v=GKeFSyOfZb0&feature=related

one day my papa said,
Son, I'm proud (of) the way you've grown
Make it on your own
I'll be O.K. alone."

 

  •                                 


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krunuch
เขียนเมื่อ
  •       จิตที่คิดจะให้นั้น มันสูงกว่า จิตที่คิดจะเอา      ท่านพุทธทาสภิกขุ

https://fbcdn-sphotos-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash2/35979_136765739693696_100000808131829_167143_1430800_n.jpg



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krunuch
เขียนเมื่อ

                            เงินซื้อสุนัขได้ แต่ซื้อการกระดิกหางของมันไม่ได้




ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krunuch
เขียนเมื่อ

Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.

“ใช้ชีวิตให้เสมือนว่าพรุ่งนี้ท่านจะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว เรียนรู้ให้เสมือนว่าท่านจะอยู่ในโลกนี้ตลอดไปไม่มีวันสิ้นสุด” วาทะ มหาตมคานที

http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRR_L6DPikX-VCwu3fs_Y4fCUMkqokE1TKb3T7d1filHmiG0CNT



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krunuch
เขียนเมื่อ

                     

....ไม่ต้องเป็นห่วงคนอื่นที่ไม่เข้าใจเรา แต่ต้องเป็นห่วงว่าเรา ไม่เข้าใจคนอื่น....ขงจื้อ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krunuch
เขียนเมื่อ

http://www.youtube.com/watch?v=i0y0LWuMu7o&feature=related๏

๏สียสินสงวนศักดิ์ไว้ วงศ์หงส์

เสียศักดิ์สู้ประสงค์ สิ่งรู้

เสียรู้เร่งดำรง ความสัตย์ ไว้นา

เสียสัตย์อย่าเสียสู้ ชีพม้วยมรณา

๏ ความรู้ดูยิ่งล้ำ สินทรัพย์

คิดค่าควรเมืองนับ ยิ่งไซร้

เพราะเหตุจักอยู่กับ กายอาต มานา

โจรจักเบียนบ่ได้ เร่งรู้เรียนเอา

๏ เว้นวิจารณ์ว่างเว้น สดับฟัง

เว้นที่ถามอันยัง ไป่รู้

เว้นเล่าลิขิตสัง- เกตว่าง เว้นนา

เว้นดั่งกล่าวว่าผู้ ปราชญ์ได้ฤามี



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krunuch
เขียนเมื่อ

http://www.youtube.com/watch?v=KQqDhkPCUOY&feature=related

 

บทอาขยาน กาเหว่า

เจ้านกกาเหว่าเอย
ไข่ไว้ให้แม่กาฟัก
แม่กาก็หลงรัก
คิดว่าลูกในอุทร

คาบเอาข้าวมาเผื่อ
ไปคาบเอาเหยื่อมาป้อน
ถนอมไว้ในรังนอน
ซ่อนเหยื่อมาให้กิน

ปีกเจ้ายังอ่อนคลอแคล
ท้อแท้จะสอนบิน
แม่กาพาไปกิน
ที่ปากน้ำพระคงคา

ตีนเจ้าเหยียบสาหร่าย
ปากก็ไซ้หาปลา 

กินกุ้งแลกินกั้ง
กินหอยกระพังแมงดา
กินแล้วก็โผมา
จับที่ต้นหว้าโพธิ์ทอง

ยังมีนายพราน
เที่ยวเยี่ยมเยี่ยมมองมอง
ยกปืนขึ้นส่อง
จ้องเอาแม่กาดำ 

ตัวหนึ่งว่าจะต้ม
อีกตัวหนึ่งว่าจะยำ
กินนางแม่กาดำ
ค่ำวันนี้อุแม่นา

http://www.youtube.com/watch?v=KQqDhkPCUOY&feature=related



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท