คำตอบ


นิพพานสูญ

เทพบุตร

ดร. มนัส โกมลฑา
เขียนเมื่อ
คำตอบ

สำหรับคุณณัฐรดา

ที่คุณยกข้อมูลมานั้น เป็นพระปริยัติ ท่านไม่ได้ปฏิบัติธรรมเป็นหลัก ส่วนวิชาธรรมกายและพระไตรปิฎกที่ตอบคุณกาลเวลานั้น แสดงว่านิพพานมีอยู่จริง ไม่ใช่สภาวะธรรม

คุณควรจะหักล้างพระสูตรเหล่านั้นให้ได้ด้วย

นิพพานสูญ

เทพบุตร

ดร. มนัส โกมลฑา
เขียนเมื่อ
คำตอบ

สำหรับคุณกาลเวลาที่กล่าวว่า "นิพพาน เป็นสภาวธรรม ที่พ้นไปจากตัณหาเครื่องร้อยรัด ไม่ใช่สถานที่ใด เป็นเพียงสภาวธรรม"

ถ้าคุณจะเชื่ออย่างนั้น ก็ตามแต่ใจของคุณ แต่ถ้าอยากจะถกกันเพื่อความรู้ ช่วยหาหลักฐานมาแย้งด้วยว่า พระสูตรด้านล่างนี้ ไม่จริงอย่างไร เพราะ ทุกพระสูตรแสดงว่า นิพพานเป็นอายตนะ ไม่ใช่สภาวะธรรม

ต่อไปเป็นหลักฐานจากพระไตรปิฎก

1) นิพพานสูตร
นิพพานสูตรที่ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อายตนะนั้นมีอยู่ ดิน น้ำ ไฟ ลม อากาสานัญจายตนะวิญญาณัญจายตนะ อากิญจัญญายตนะ เนวสัญญานาสัญญายตนะ โลกนี้ โลกหน้า พระจันทร์และพระอาทิตย์ทั้งสอง ย่อมไม่มีในอายตนะนั้น


ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่กล่าวซึ่งอายตนะนั้นว่า เป็นการมา เป็นการไป เป็นการตั้งอยู่ เป็นการจุติ เป็นการอุปบัติ อายตนะนั้นหาที่ตั้งอาศัยมิได้ มิได้เป็นไป หาอารมณ์มิได้นี้แลเป็นที่สุดแห่งทุกข์ ฯ จบสูตรที่ ๑

นิพพานสูตรที่ ๒
ฐานะที่บุคคลเห็นได้ยาก ชื่อว่านิพพาน ไม่มีตัณหา นิพพานนั้นเป็นธรรมจริงแท้ ไม่เห็นได้โดยง่ายเลย ตัณหาอันบุคคลแทงตลอดแล้ว กิเลสเครื่องกังวลย่อมไม่มีแก่บุคคล ผู้รู้ ผู้เห็นอยู่ ฯ จบสูตรที่ ๒

๓. นิพพานสูตรที่ ๓
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมชาติไม่เกิดแล้ว ไม่เป็นแล้ว อันปัจจัยกระทำไม่ได้แล้ว ปรุงแต่งไม่ได้แล้ว มีอยู่

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าธรรมชาติอันไม่เกิดแล้ว ไม่เป็นแล้วอันปัจจัยกระทำไม่ได้แล้ว ปรุงแต่งไม่ได้แล้ว จักไม่ได้มีแล้วไซร้ การสลัดออกซึ่งธรรมชาติที่เกิดแล้ว เป็นแล้ว อันปัจจัยกระทำแล้ว ปรุงแต่งแล้ว จะไม่พึงปรากฏในโลกนี้เลย

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เพราะธรรมชาติอันไม่เกิดแล้ว ไม่เป็นแล้ว อันปัจจัยกระทำไม่ได้แล้ว ปรุงแต่งไม่ได้แล้ว มีอยู่ ฉะนั้น การสลัดออกซึ่งธรรมชาติที่เกิดแล้ว เป็นแล้ว อันปัจจัยกระทำแล้ว ปรุงแต่งแล้วจึงปรากฏ ฯ จบสูตรที่ ๓

2) นิพพุตสูตร
ดูกรพราหมณ์บุคคลผู้กำหนัด อัน ราคะ/โทสะ/โมหะ ครอบงำ มีจิตอันราคะกลุ้มรุมแล้ว ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียนคนอื่นบ้าง ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียนตนเองและคนอื่นทั้งสองฝ่ายบ้าง ย่อมเสวยทุกข์โทมนัสที่เป็นไปทางจิตบ้าง เมื่อละราคะ/โทสะ/โมหะได้เด็ดขาดแล้ว ย่อมไม่คิดแม้เพื่อจะเบียดเบียนตนเอง ย่อมไม่คิดแม้เพื่อจะเบียดเบียนคนอื่น ย่อมไม่คิดแม้เพื่อจะเบียดเบียนตนเองและคนอื่นทั้งสองฝ่ายย่อมไม่เสวยทุกข์โทมนัสที่เป็นไปทางจิต

ดูกรพราหมณ์ แม้ด้วยเหตุดังกล่าวมาฉะนี้แล นิพพานย่อมเป็นคุณชาติอันผู้ได้บรรลุจะพึงเห็นเอง

นิพพานสูญ

เทพบุตร

ดร. มนัส โกมลฑา
เขียนเมื่อ
คำตอบ

เรียน คุณเทพบุตร

คำถามของคุณมีคำตอบดังนี้

1.) ถ้านิพพานมีจริงแล้ว พระพุทธเจ้าจะถามพระสารีบุตรทำไม ในเมื่อนิพพานมีอยู่ แล้วผมก็คิดว่าพระอรหันต์ที่มีฤทธิ์ ก็คงขึ้นไปนิพพานอยู่เป็นปรกติ

คำตอบ
คุณเทพบุตรสงสัยว่า "นิพพาน" ไม่มีด้วยข้อมูลแค่นี้ ผมก็เริ่มงงๆ กับระบบคิดของคุณเทพบุตรแล้ว เพราะ พระสูตรที่ว่านิพพานมีอยู่ มีอยู่มาก

ทำไมสงสัยด้วยข้อมูลแค่นี้

นอกจากนั้น มันต้องกล่าวถึงที่มาที่ไปของพระสูตรด้วย พิมพ์มาแค่นี้ ผมยังไม่มีเวลาไปค้นพระสูตรที่ว่า ก็จึงตอบได้แค่นี้

2.) บทบาลีที่ว่านี้มีจริงหรือไม่ คือว่าถ้านิพพานไม่สูญจริง บาลีนี้อาจถูกแต่งเสริมขึ้นมา

ตอบไปแล้วว่า ผมไม่รู้เหมือนกันว่า "ข้อความที่ว่า" มีจริงหรือไม่ ถ้าอ้างเล่มพระสูตร หน้า ชื่อพระสูตรด้วย ยังค้นได้บ้าง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท