subah
รุ่งฤดี รุ่งฤดี หลังยาหน่าย

อนุทินล่าสุด


subah
เขียนเมื่อ

วันหยุด

เป็นอีกวันที่ได้พัก เดินทางกลับบ้าน รอบนี้ลองเปลี่ยนจากทางเดิมๆ มาเป็นอีกเส้นทาง ที่พาเรากลับบ้านได้เหมือนกัน รอบนี้มาโดยรถบัสโดยสารต้องมาขึ้นที่ขนส่งโดยนั่งรถสองแถวมาสิบบาท จากรพ เดินเข้ามานั่งรอรถโดยไม่รู้ว่ารถจะมาตอนไหน มาถึงจุดจอดรถ ไม่มีผูโดยสารสักคน รถประจำทางยังไม่มาจอดรอ หรือเพิ่งจะออกไปก็ไม่รู้แน่ ใกล้กันเป็นจุดจอดรถของนครศรีธรรมราช ไม่มีผูโดยสารมารอ แต่มีรถเข้ามาจอดแล้ว

ก่อนมาขึ้นรถตั้งใจไว้แล้ว ว่าจะไม่รีบร้อนกลับบ้าน รอเรื่อยๆได้ เพราะไม่อยากไปขึ้นที่สถานีรถตู้ตลาดเกษตรซึ่งใช้เวลานั่งรถผ่านในตัวเมือง ประมาณ 40 นาทีกว่าจะถึง แล้วต้องเดินข้ามถนนไปอีกไกล และต้องรอรถอยู่ดี ไม่ค่อยแตกต่างกันมากนัก

หึนมองนาฬิกา บอกเบลา ตอนนี้ เก้าโมงเช้า กว่าจะถึงบ้านก็ประมาณเที่ยงนะ กลับถึงบ้านไม่มีใครอยูดี ทุกคนต่างไปทำหน้าที่ของตัวเอง กลับมาคงเย็นๆ

วันนี้ตื่นจากที่นอนเพราะเสียงโทรศัพท์ปลุกจากลูก กีอนไปโรงเรียน คงคิดถึงนะเพราะไม่ได้เจอกันหลายวันแล้ว ไม่เป็นไรนะลูกรอบนี้ ได้หยุดสองวัน กรอนจะเข้างานรอบใหม่ คงได้มีกิจกรรมทำด้วยกันนะ

ช่วงสองสามวันนี้ ฝนตกทำให้คลายร้อนลงไปได้บ้าง อย่างตอนนี้อากาศกำลังดี ไม่ร้อนไม่มีแดด ท้องฟัาอึมครึม ไปไหนช่วงนี้ต้องพกร่มติดตัวไว้ตลอด ฝนจะมาแบบไม่ส่งสัญญาณเลย

สถานีขนส่งเปิดเพลงบรรเลง น่าฟังไปอีกแบบ เย็นๆ สบายหู สบายใจ ทำให้ไม่อึดอัดกับการนั่งรอคอย

ถ้าเรามองแต่ตัวเราว่าสุขทุกข์อย่างไร โดยไม่มองไปที่คนอื่นๆ เราอาจรู้สึกว่าเราช่างเหนื่อย เหลือเกิน ท้อเหลือเกิน ทำให้หมดกำลังใจ แต่ถ้ามองไปทางอื่นบ้างจะพบว่า ที่นี่ยังมีอีกหลายชีวิต ที่ต้องดิ้นรนทำงานเพื่อความอยู่รอด บางคนลำบากกว่าเราด้วยซ้ำไป มีคนรอการกลับบ้านของคนที่รัก ขอให้ทุกคนเดินทางโดยสวัสดิภาพค่ะ

ชีวิตคือการเดินทาง อย่าประมาทกับการใช้ชีวิต แล้วเราจะถึงเป้าหมายโดยสวัสดิภาพ แม้จะช้าไปกว่าคนอื่นๆบ้างก็ไม่เป็นไร

subah

สถานีขนส่งหาดใหญ่ 09.25น 7/7/58




ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
subah
เขียนเมื่อ

ผ่านมาหลายปี ที่จากที่นี่ไป นานๆจะกลับเข้ามาอ่าน ครั้งนี้เหมือนกัน ยามที่รู้สึกไม่มีใคร รู้สึกเหงา ที่นี่จะเป็นที่พึ่งของเราได้เสมอ

ทุกเรื่องราวที่ได้เขียนเล่า บอก หรือบางครั้งเหมือนได้ระบาย เมื่อกลับมาอ่านทำให้ได้คิด ไม่มีอะไรแน่นอน ยั่งยืน เราเคยมีความสุข ความทุกข์ มันไม่ตลอดไป มันจะแปรเปลี่ยนไปตลอด เราอย่าไปยึดติดกับมัน ช่วงที่เราสุข ตักตวงให้มากที่สุด ช่วงไหนทุกข์กลับไปหากำลังใจจากตรงนั้น ที่ที่เคยผ่านมา

จริงอยู่เราย้อนอดีตไม่ได้ แต่การหันกลับไปหาอดีต บางครั้งทำให้เรารู้ว่าทำไม อนาคตจึงไม่เป็นไปตามที่เราหวัง แก้อดีตไม่ได้ เอาความผิดพลาดบทเรียนมาเป็นทางนำให้เราจะได้ไม่หลงทางไปสู่จุดที่มืดบอดอีก

ขอให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ เราจะต้องผ่านมันไปได้ ขอกำลังใจจากคนที่รักเราและคนที่เรารัก ให้เราผ่านไปได้ด้วยดีนะ ที่สำคัญกำลังใจจากตัวเองนั้นสำคัญที่สุด. สู้ต่อไป ใช่ว่าไม่มีใครแต่เราอาจมองไม่เห็นเองต่างหาก

จำไว้นะ ทำเพื่อคนที่รักเรา และคนที่เรารัก. เราต้องทำได้ สู้สู้ค่ะ





ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
subah
เขียนเมื่อ

นานมากที่ห่างหายจากที่นี่ นึกถึงตลอดแต่ไม่มีโอกาสเข้ามา วันนี้มีเวลาตื่นเช้าเพราะต้องไปทำงาน วันนี้ตื่นมาจากความรู้สึกมึนๆ ง่วงๆ เสียงนาฬิกาปลุกบวกกับเสียงคนข้างๆบอกตื่นได้แล้ว อย่าดื้อ เดี๋ยวไปทำงานสาย อิดออดอยู่เล็กน้อยรีบพรวดออกจากเตียงอาบน้ำแต่งตัว เดินออกมารอรถ มองนาฬิกาเกือบสาย ตีห้ายี่สิบใช่อีกไม่กี่นาทีรถก็มาแล้ว ระหว่่างรอรถเจอเพื่อนบ้านคนนึงมายืนรอรถ จุดหมายต่างกันจุดประสงค์เดียวกัน ทำงานหาเลี้ยงครอบครัวเหมือนกัน คุยกันเล็กน้อยเรื่องราวประสาคนทำมาหากินเหมือนกัน รถจอดสองคนต่างวัยต่างขึ้นรถเพื่อไปทำหน้าที่ของตนเอง ขณะที่อีกหลายชีวิตยังหลับไหล

 

หลังจากขึ้นรถต่างแยกย้ายหามุมของตัวเอง ระยะเวลาสองชั่วโมงมันมากพอให้เรามีเวลาอยู่กับตัวเอง เสียงเพลงเพราะๆบนรถ อากาศกำลังเย็นสบายจากแอร์ในรถ ถ้าเป็นวันอื่นๆ คงหลับสบายจนถึงจุดหมาจย แต่สำหรับวันนี้ไม่ใช่ มองสองข้างทางเต็มไปด้วยป่าหมอก คิดไปถึงคนที่อยู่บนยอดภู คงหนาวจนเหน็บ แต่ยังไงก็ตาม มันคือชีวิต คือเรื่องราวที่ทุกชีวิตต้องเผชิญกับมัน เรื่องราวที่แตกต่าง ธรรมชาติให้มาแต่ละที่ทางต่างกัน มันไม่ใช่อุปสรรคของการทำงาน    

 

 

 

เมื่ออชีวิตยังไม่สิ้นต้องดิ้นต่อไป บางครั้งเหนื่อย หลายครั้งท้อ เคยคิดว่าชีวิตเราเหนื่อยเหลือเกิน แต่มองไปรอบข้างมีคนที่หนักหนากว่าเราอีกมาก เขายังอยู๋ได้ แล้วทำไมเราจะอยู่ไม่ได้ เหนื่อยก็พักบ้าง ปล่อยไปบ้างบางอย่างอย่ายึดติด บางครั้งภาระที่เราคิดว่ามันเป็นตัวผูกเรา จริงๆมันอาจต้องการการผ่อนบ้าง อะไรที่่มันตึงเกินมันต้องมีการผ่อน ช้าๆ ไม่ต้องรีบ ชีวิตยังต้องการเวลาที่สวยงามบ้าง มองไปสองข้างทางยังมีสิางสวยงามให้เราได้มองเห็น ได้ไปสัมผัสกับมัน ให้เวลากับตัวเองนะ        

 

     

 

วันนี้ลงจากรถคันนี้ไปแล้ว ไม่ว่าต้องเจอกับอะไร จะนำความเหนื่อยล้า ยุ่งยากใจมาให้กับเราแค่ไหน เราต้องไม่ไปยุ่งยากใจไปกับมัน ปล่อยให้เป็นไปตามทาง ทุกอย่างมันมีคำตอบอยู่แล้ว ขอแค่ให้เรามีสติที่จะทำวันนี้ และทุกๆวันให้ดีที่สุดก็น่าจะเพียงพอ

 

 

 

มาได้ครึ่งทางแล้ว มองไปสองข้างทางยังสวยงามยังคงมีหมอกปกคลุม ขอให้มีความสุขกับอีกวันของชีวิต

 

 



ความเห็น (2)

เป็นกำลังใจให้นะค่ะ พวกเราชาวพยาบาล ดูแลสุขภาพกายและใจไปพร้อมกัน

ขอบคุณนะคะทุกท่าน ในเวลาที่เราเคว้งคว้าง อย่างน้อยยังมีตัวเรา และคนข้างเคียงคอยให้กำลังใจกันและกัน คิดถึงพี่กระติกเสมอนะคะ ดูแลสุขภาพนะคะ

subah
เขียนเมื่อ

วันนี้ เราทำงานในวันหยุดของคนอื่นแต่สำหรับพวกเราแล้วมันคือเวลาทำงานที่แสนจะปกติ ชินแล้วกับการทำงานแบบนี้ หยุดเวลาเขาทำงาน ทำเวลาเขาหยุด เราคิดว่า20ปีที่ผ่านมาเราได้อะไรมากมายกับงานที่ทำ เจอมามากทั้งสนุก เฮฮา เศร้าสุขเคล้ากันไป

ไม่เหนื่อยหรอกนะ ถ้าทำงานกับคนที่ทำงานจริงๆ คิดว่างานคืองาน แต่มักจะเหนื่อยใจทุกครั้งที่ร่วมงานกับคนที่ชอบเอาเปรียบ เอาน่ามันคงต้องมีบ้างคนเรามันมีหลายแบบ เราเลือกไม่ได้หรอกว่าเราต้องเจอกับอะไรบ้างในแต่ละวัน

วันนี้ดราโชคดีที่เราได้ร่วมงานกับคนที่น่ารัก มีน้ำใจช่วยเหลือกัน ขอบคุณผู้ร่วมงานที่น่ารักทุกคน ที่ทำให้วันนี้เป็นอีกวันที่เราร่วมกันทำงานเพื่อให้ผู้รับบริการของเราได้รับสิ่งที่ดี ได้รับการดูแลที่ปลอดภัย ได้มีกำลังใจในการมีชีวิตอยู่ต่อไป ในสภาวะสุขภาพที่ความเจ็บไข้ได้ป่วยกำลังคุกคามชีวิต ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน รวมทั้งครอบครัวของเขาเหล่านั้นด้วย

สำหรับครอบครัวของผู้ให้บริการอย่างเรา ต้องรอหน่อยนะคะ เพราะตอนนี้คุณแม่คนนี้กำลังนั่งอยู่ในรถประจำทาง กำลังจะกลับไปหาลูกๆแล้วล่ะ นั่งรถตั้งแต่แดดเย็นส่องมาทื่หน้าต่างตอนนี้หันมองข้างทางไม่เห็นอะไรเลย เห็นแต่เงาตัวเองในกระจกรถ

ผู้ร่วมงานหลายคนคงถึงบ้านแล้วนะ สำหรับเราคงประมาณอีกไม่เกินครึ่งชั่งโมงก็ถึง เสียงโทรศํพท์ที่ดังขึ้นมาแต่ละครั้งจะได้ยินเสียงหนุ่มน้อย หนุ่มใหญ๋ โทรมาถามว่า ฮ๊ลโหล มะอยู๋ไหนแล้ว ใกล้ถึงหรือยัง ลุกรอกินข้าว แค่นี้เราก็ไม่รู๋สึกแล้วว่า วันนี้ผ่านอะไรมาบ้าง รู้แต่ว่าเราจะได้กลับไปเจอสิ่งที่เป็นความสุข เป็นกำลังใจให้เรา แค่นี้ก็พอแล้ว



ความเห็น (1)
subah
เขียนเมื่อ


รอบนี้เรามาอยู๋เวรหลายวัน ตามตารางเวรต้องขึ้นติดกัน 6วัน ได้กลับบ้าน วันอังคารเย็น โชคดี น้องที่ทำงานมาขอแลกวันอาทิตย์เป็นเวรเช้า เลยได้กลับบ้านไปนอนหนึ่งคืน

 

การทำงานในแต่ละวัน ต้องเจอหลากหลายนะทั้งผู้ร่วมงานที่แตกต่าง และผู้รับบริการที่หลากหลาย บางครั้งรู้สึกเบื่อหน่าย บางครั้งก็คิดว่าคนเราแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราคิดแบบนี้ว่าดี หลายคนอาจคิดต่างไป เราต้องปรับตัวเองไม่ยึดติดจนเกินไป ทำอะไรต้องเผื่อใจ เราจะได้ไม่เจ็บจากการกระทำของคนอี่น

การปรับบางครั้งมันไม่ง่าย ที่พูดว่าให้ทำใจใครก็พูดได้ แต่มันยากนะ ที่จะให้มัน win-win ทั้งสองฝ่าย ในบางครั้งเราเคยเลือกที่จะให้อีกฝ่าย win โดยที่เราเคยรู้สึกว่า ไม่ยุติธรรมเลย แต่เพื่อยุติข้อขัดแย้งทั้งหลายก็คงต้องยอมบ้างในบางครั้ง มันไม่ใช่เป็นเรื่องที่น่าอายที่เราจะขอโทษอีกฝ่าย และบอกว่า ขอโทษถ้าการกระทำ หรือคำพูด หรืออะไรก็ตามทำให้เขาเข้าใจผิด ทำให้เขาเคือง

หลังจากที่เราพูดออกไปทุกอย่างก็จบ จะได้ไม่คาใจกัน คราวหลังเราจะได้เรียนรู้ว่า การพูด หรือการกระทำที่ เราไม่ทันคิด ไม่ทันระวังตัว อาจไปกระทบคนอื่นได้

เรียนรู้ไปเรื่อย ระหว่างที่เรายังใช้ชีวิตอยู๋บนโลกใบนี้ แต่อย่าลืมหาความสุขให้ตัวเองบ้าง เท่านั้นก็น่าจะพอแล้วสำหรับการทำงานของเรา



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

subah
เขียนเมื่อ

ช่วงนี้ได้หยุด 3วัน รู้สึกดีได้พักบ้างได้ทำงานบ้านบ้างไม่ได้อยู่บ้านซะหลายวัน ได้ยินเสียงลูกดีใจที่กลับมาจากโรงเรียนแล้วเจอมะ

กลับมาบ้านมีเวลาดูแลเรื่องภายในบ้านบ้าง หลังจากให้พ่อบ้านดูแลอยู่หลายวัน

ขอบคุณนะที่อยู่เคียงข้างกันมา เกือบ20ปี ผ่านมาหมดไม่ว่าเรื่องร้ายเรื่องดี แต่เราก็ประคองครอบครัวมาได้ 

หนทางข้างหน้าเป็นอย่างไรเราไม่รู้ รู้แต่ว่าเราจะต้องอดทน ต้องมีความรักความเข้าใจกันให้มากๆ ต้องไว้ใจซึ่งกันและกัน

คำว่าครอบครัวมันสำคัญนะ มันทำให้เราต้องคิดเวลาเราจะทำอะไรตามใจตัวเอง เราไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้ว ต้องคำนึงถึงคนข้างเคียงของเรา

ยังยืนยัน ว่าเรายังคงเหมือนเดิม ที่เปลี่ยนไปมันคงเป็นความผูกพันที่เรามีให้กัน  จากที่รู้สึกเฉยๆ อย่างไรก็ได้ มาเป็นความรู้สึกผูกพัน และยังพันผูกกันไว้ด้วยสามคนที่มาอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวเดียวกัน ยิ่งเพิ่มความผูกพันให้พวกเราเหนียวแน่นกันมากขึ้น  แต่ไม่ใช่ความรู้สึกที่อึดอัด มันเป็นความผูกพันที่ผ่อนคลาย แต่ละคนมีทางเดินของตัวเอง มีที่อยู่ของตัวเองที่เราจะไม่ก้าวก่ายกัน แต่มีส่วนที่เกี่ยวข้องกันทำกิจกรรมร่วมกัน ได้อย่างเต็มใจ

มีความสุขในทุกวันของชีวิตนะ ชีวิตต้องก้าวไป ไม่ว่าจะเร็วหรือช้าหรือสะดุดอะไรไปบ้าง ขอเป็นกำลังใจให้กันและกันค่ะ





ความเห็น (1)

ความสุขมีทุกวันแลัทุกที่ 


subah
เขียนเมื่อ

นานแล้วนะ ไม่ได้เข้ามาที่บ้านนี้ ยังรู้สึกว่าเวลาเราสับสนไม่รู้จะไปไหนก็จะเข้ามาระบายที่นี่ แม้จะรู้ว่าไม่มีใครมาอ่านเรื่องราวของเราแต่เราก็อดไม่ได้ที่เราจะเข้ามาเขียนอะไรๆในนี้

วันนี้เป็นอีกวันที่เราปล่อยให้ตัวเองทำตามใจอีกแล้ว  ลงเวรมาแทนที่จะหลับพักผ่อนเอาแรงกลับมานั่งทำอะไรไม่รู้. อ่านหนังสือ ฟังเพลง ทักทายเพื่อนคนนอนดึก 

เราคงมีเวลาทำแบบนี้ไม่ได้บ่อยหรอกนะ วันๆมีอะไรมากมายต้องทำ หลายสิ่งหลายอย่างทำให้เรามีเวลาให้ตัวเองน้อยลง

ไม่รู้เหมือนกันว่า แบบไหนมันจะสุขกว่ากันเอาเป็นว่า ทำอะไรก็ได้ ให้ตัวเองพอใจไม่เดือดร้อนใครนะ

ดึกๆๆกว่านี้เราคงได้นอนนะ พรุ่งนี้ต้องอยู่เวรบ่ายอีกวัน กว่าจะได้กลับบ้านคงวันอังคารเช้านะ

เด็กๆ อยู่กันได้นะคะ มันเป็นช่วงเวลาอยู่เวร เราก็ต้องอยู่นะลูก

อาทิตย์หน้าทั้งหกวัน เช้าตลอดติดกัน คงต้องปรับโหมดใหม่

แบบนี้ก็ดีนะ ชีวิตมันมีอะไรให้คิดให้ทำดี เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ มีชีวิตตามทางที่มันเป็น บางทีดีกว่าต้องไปเปลี่ยนแปลงทางเดิน

ให้ชีวิตมันวุ่นวาย เราหมายถึงไม่ต้องไปแลกเวรหรอก เวรอะไรก็ขึ้นไปตามนั้น เราค่อยปรับโหมดชีวิตเราเองดีกว่า

คนรอบข้างก็ต้องปรับตัวปรับใจให้เข้ากับงานของเรานะ หมายถึงครอบครัว เพื่อนฝูง คนรู้จัก

บางทีคนเราอยู่ใกล้ชิดกันตลอดมักจะไม่เห็นค่าของอีกคน ห่างกันบ้างน้อยๆ จะได้คิดถึงกัน.  จริงไหม

ไม่ว่าจะใกล้จะไกล เราก็เป็นคนเดิม บทบาทหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ก็แค่นั้นเอง....



ความเห็น (2)

ชีวิตพยาบาล ถ้าครอบครัวไม่เข้มแข็งก็มีความเสี่ยงได้ง่ายนะค่ะ

เป็นกำลังใจให้กันและกัน ......

สักวัน..โอกาสคงเป็นของเรา เหมือนที่พี่กระติกได้รับมาแล้ว

ดีใจที่ได้เจอค่ะ


เข้าใจความรู้สึก เป็นกำลังใจค่ะ

subah
เขียนเมื่อ


เป็นอีกวันที่ต้องออกเดินทางแต่เช้าเนื่องจากที่ทำงานจัดให้มีการอบรมภายในหน่วยงานเกี่ยวกับการดูแลการใช้เครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เข้ามาใหม่ๆ พวกเราในฐานะผู้ใช้เครื่องมือจำเป็นต้องมีความรู้ในการดูแลการใช้งานกับผูป่วยให้ถูกต้องและปลอดภัย

ทำให้วันหยุดในวันนี้ของเราต้องมีอันหายไปกับเวลาเดินทาง. แต่ไม่เป็นไรนะถือว่ามานั่งรถเที่ยวก็แล้วกันไม่เจอบรรยากาศแบบนี้มานาน

คนเราคนหนึ่งหนึ่งคนนี้ต้องมีหน้าที่รับผิดชอบหลายอย่างนะ ถ้าเราไปจมอยู่กับบทบาทใดมากหรือน้อยเกินไปชีวิตมันคงไม่มีความสุขนะ. แต่แค่ไหนถึงจะพอสำหรับบทบาทใดบทบาทหนึ่งล่ะอะไรเป็นตัวตัดสิน ไม่รู้นะสำหรับเราบางครั้งบางทีก็ใช้หัวใจเป็นตัวแยก ถ้าใจอยากทำมีความสุขจะทำก็จะทำให้เราทำสิ่งนั้นได้ดี 

เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยสิ่งดีีดีกันนะ ขอบคุณสำหรับสิ่งดีดีที่เข้ามาในชีวิตเรา

                                        Subah

8.20น. บนรถประจำทางเดินทางสู่หาดใหญ่ไปทำสิ่งที่ใจควรทำ





ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

subah
เขียนเมื่อ

ช่วงนี้เรารู้สึกเหนื่อยใจจังนะ มันเป็นยังไงบอกไม่ถูกหรือเป็นเพราะเราทำงานมากไป. งานของเราเป็นงานที่ต้องอาศัยกำลังกายกำลังใจมากพอควร ถ้ารู้สึกเหนื่อยใจขึ้นมามันจะยิ่งทำให้ทำงานไม่ไหว

เราต้องทำใจใหม่แล้วนะ   สร้างพลังใจให้ตัวเอง อีกวนเดียวเราจะได้หยุดแล้ว. หยุดวันเดียวก็ยังดีนะ  อย่างน้องมีเวลาเหลือหลายชั่วโมงกว่าจะไปทำงาน

คิดถึงมะจังนะถ้าเป็นเมื่อก่อนอย่างน้อยได้กลับมาปรับทุกข์เล่าให้มะฟังว่าเราต้องเจอกับอะไรบ้าง แม้ช่วยอะไรไม่ได้อย่างน้อยรับฟังเราก็ยังดีนะ

คิดถึงนะมะ. คิดถึงทุกคนที่ไม่ได้อยู่กับเราแล้ว. พ่อแม่พี่สาวพี่เขย อย่างน้อยเราก็รู้ว่าเขาจากเราไปแล้วจริงๆ ไม่ได้เจอกันอีกแล้วในชีวิตนี้

แต่ยังมี ที่ยังมีชีวิตมีลมหายใจอยู่ในโลกนี้ก็เหมือนจากกัน. จากกันทั้งที่ยังมีลมหายใจมันเจ็บปวดและสะเทือนอารมณ์ทุกครั้งที่คิดถึงเขาเหล่านั้น. ใจแข็งมากนะ จากแล้วจากเลย ข่าวคราวไม่เคยส่งถึงกัน ไม่น่าเชื่ือว่าแม้เราจะสายเลือดเดียวกัน แต่เราไม่มีเยื่อใยความผูกพันเหลือถึงกันเลย. คนอื่นกลับดีกว่า.....

ไม่เป็นไรนะ เราต้องอยู่ได้  ชีวิตเราต้องดำเนินต่อไปให้ได้. เรายังต้องรับผิดชอบอีกหลายชีวิต

แม้วันนี้หรือวันไหน มีเรื่องอะไรมากระทบจิตใจเราทำให้เราเซไปบ้าง แต่เราต้องอดทนนะ ต้องผ่านเรื่องต่างๆไปให้ได้ 

แม้บางครั้งจะไม่มีใครเข้าใจเราอย่างน้องมีตัวเราเองที่เข้าใจตัวเอง เเละจะเป็นกำลังใจให้ตัวเองอยู่เสมอนะ


22.36น 16/2/56

Subah




ความเห็น (1)
subah
เขียนเมื่อ

วันนี้จะเป็นวันทำงานวันแรกของเราในรอบนี้ หลังจากหยุดมา5วัน เป็นธรรมดาที่เราต้องเจอกับสิ่งที่อาจทำให้หงุดหงิดหรือเหนื่อยกายเหนื่อยใจบ้าง เพราะเราต้องไปดูแลคนที่มีความต้องการการดูแลที่เป็นพิเศษ อันเนื่องมาจากโรคภัยไข้เจ็บที่มารุมเร้า อาจต้องเจอกับอะไรก็แล้วแต่ ที่แม้จะชินชากับสิ่งที่เห็นแต่ไม่เคยสักครั้งที่จะไม่หวั่นไหวเมื่อได้พบเจอกับภาพเสมือนที่เราและพี่สาวได้ดูแลแม่ ณ สถานที่เดียวกันกับสิ่งที่พบเจอ มันกระตุกที่ใจทุกครั้ง เหมือนมีอะไรมาจุกที่ลำคอ บางครั้งก็จะหยุด ณจุดนั้น เพื่อให้ใจได้ซึมซับกับบางอย่างที่เป็นความประทับใจที่เห็น. บางภาพ ผู้เฒ่าชราสองคนประคองกันเดินพากันไปขึ้นรถ บางภาพลูกสาวเข็นรถเข็นพาแม่ผู้ชราซึ่งมีทีท่าอ่อนเพลียไปรับการตรวจจากแพทย์ ..... อีกหลายเรื่องราวที่เจอ มันตอกย้ำเราตลอดเวลาว่าที่ผ่านมาเราดูแลบุพการีของเราได้แค่ไหน ดีแล้วยัง

คำตอบที่ได้รับคือไม่ยังไม่ดีพอ แต่มันสายเกินไปแล้วนะ ตอนนี้มีใครให้เราต้องดูแล ท่านไม่อยู่แล้ว ....

คงอีกนานนะกว่าเราจะผ่านจุดนี้ไปได้ แต่เราจะพยายามจะคิดถึงสิ่งดีดีที่เราได้ทำแม้ในช่วงเวลาสั้นๆ

งานที่เราทำมีความสำคัญ เราคิดอย่างนั้นมาตลอดไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถทำงานนี้มาได้ตลอดเวลา 20ปีที่ผ่านมา

เราไม่เคยคิดว่าสิ่งที่เราทำจะดีที่สุด. แต่เราคิดว่าเราจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่ศักยภาพเราจะทำได้ เพื่อให้ผู้รับบริการของเราปลอดภัยที่สุดเมื่ออยู่กับเรา 

เอาล่ะ อีกไม่กี่ชั่วโมงเราจะออกเดินทางนะ สองชั่วโมงจากบ้านถึงที่ทำงาน คงได้พบเจออะไรอีกเยอะ พลังที่สะสมมาห้าวันเอามาใช้นะเพื่อชีวิตอีกหลายชีวิต

วันนี้ลูกดูแลตัวเองนะ พรุุ่งนี้ปะก็กลับมาแล้ว อีกสองวันเราคงได้อยู่พร้อมหน้ากันนะคะ

Subah. 9.35น 7กพ56





ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

subah
เขียนเมื่อ


หมดเวลาสำหรับการอยู่แบบไม่มีงานเข้ามาในหัวแล้ว ห้าวันรอบนี้คิดว่าเพียงพอสำหรับตัวเองและลูกสามคน สำหรับตัวเองได้ทำได้คิดได้อยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบ  อ่านหนังสือท่องเที่ยว.  ท่องไปในเวปไซต์ดูสถานที่ท่องเที่ยวที่เราอยากไป  เปิดFacebook คุยกับคนรอบข้างบ้างเพื่อให้รู้ข่าวคราวของกันและกัน ดูทีวีดูข่าวรายการที่ชอบ ดูหนังดูละคร เข้ามาในgotoknow. อ่านเรื่องราวของตัวเองที่เขียนไว้ในช่วงเวลาต่างๆทำให้รู้ตัวเองว่าเป็นอย่างไรรู้สึกอย่างไรในตอนนั้น ก็ดีนะบางครามันนำสิ่งเหล่านั้นมาเป็นแรงบันดาลใจให้ตัวเองเวลาที่เกิดอาการเหนื่อยทั้งกายและใจ คิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาชีวิตเราผ่านอะไรมามากมาย หลายอย่างเป็นเรื่องที่ดีควรจดจำ แต่มีบ้างที่เป็น เรื่องราวที่ทำให้สะเทือนใจ แต่ทุกสิ่งอยางมันเป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นมาให้เราต้องเผชิญกับมัน ให้เราได้ฝึกจิตใจให้ต้องรับกับมัน

ชีวิตเราที่เหลือมีไม่กี่คนที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราขาดเขาไม่ได้.  เราต้องทำใจเมื่อเวลานั้นมาถึง...ผ่านมา เราต้องเจอกับการจากกันแบบที่ไม่ได้เจอกันอีกแล้วชั่วชีวิตมาหลายครั้ง ทำให้เรียนรู้ได้ว่าอะไรที่เราอยากทำสิ่งดีดีให้ใครให้รีบทำอย่ารอโอกาส เพราะบางครั้งเราจะไม่มีโอกาสที่จะได้ทำในสิ่งเหล่านั้น จะเรียกตะโกนให้ดังแค่ไหนเขาก็ไม่ได้ยิน ไม่รับรู้สิ่งที่่เรารู้สึกหรอกนะ

สำหรับลูกสามคนเราคิดว่าที่ผ่านมาห้าวันเราได้อยู่ใกล้ชิดกันมากมากจนรู้สึกได้ว่า นี่เองคือสิ่งที่ลูกต้องการจากเรา. นั่นคือ

เวลาที่เขาสามารถเอาจากเราได้ตลอดเวลา กินอิ่มนอนหลับได้เล่น ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบโดยอิสระในขอบเขตที่ตกลงกันไว้พรุ่งนี่มะต้องไปทำงานนะลูก หมดเวลาพักของมะแล้ว ยังมีหน้าที่อื่นที่ต้องทำมันก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันนะลูก

ชีวิตเราก็ต้องเป็นแบบนี้นะมีสังคมที่ในบ้านในครอบครัว สังคมเพื่อน สังคมผู้ร่วมงาน มีงานที่ต้องทำ ในเมื่อเราเลือกแล้วเราต้องทำให้ดีที่สุด

ห้าวันที่ผ่านไป อย่างน้อยทำให้ครอบครัวของเราได้เจอกับสิ่งที่ดีดี แม้ว่าเราห้าคนพ่อแม่ลูกจะไม่ได้อยู่ร่วมกันในบ้านของเราแต่เราได้รู้ว่าเวลาที่เราไม่ได้เจอกัน ไม่ได้กินข้าวเย็นร่วมกัน. ไม่ได้ตื่นนอนมาพร้อมกันตอนเช้า. ดูทีวีด้วยกันตอนกลางคืน ทำให้เราคิดถึงกัน. อย่างน้อยการได้คุยกันแม้แค่ได้ยินเสียงก็ทำให้เราหายคิดถึงกันได้. การจากกันช่วงสั้นๆทำให้เรารู้ว่าครอบครัวเรายังต้องการกันและกัน. รู้แล้วว่าความรักไม่ใช่การครอบครอง ไม่ใช่ต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา แต่มันคืออิสรภาพที่เราให้กับเขาต่างหาก อิสรภาพจะทำให้ครอบครัวเรามีความแน่นแฟ้นกันมากขึ้น ยิ่งเราให้เวลาเราจะยิ่งได้เวลานั้นกลับคืนมา.  ปะไปอบรมที่นครนายก ได้ยินลูกบอกครั้งแรกรู้สึกว่าไม่อยากให้ไป อยากมีส่วนร่วมทุกที่ที่เขาทำ แต่ตอนนี้รู้แล้วว่า มันคือสิ่งที่ดีสำหรับเขาอย่างน้อยได้ไปเปิดหูเปิดตา ได้มีเวลาที่เป็นส่วนตัวบ้างไม้ต้องกระเตงลูกไปตลอดทาง มีเวลาให้กันและกันแม้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน วันนี้ปะคงเตรียมตัวกลับแล้วสินะ หายเหนื่อยหรือยัง เก็บพลังได้เต็มที่แล้วยัง พร้อมรับมือกับสามเสือแล้วใช่มั๊ย. พรุ่งนี้มะไปทำงานนะอีกสองวันเจอกัน

                                                                                                                   บันทึกช่วยจำยามห่างไกลกัน

                                                                                                                            6 กุมภาพันธ์ 56 เวลา12.08น

                                



ความเห็น (1)
subah
เขียนเมื่อ


วันนี้เป็นอีกวันที่เราอยู่กับตัวเองมากที่สุดมากจนบางครั้งได้ยินเสียงภายในใจของตัวเอง. มันบอกไม่ถูกรู้แต่ว่า มันเหงาลึกข้างใน

มันเป็นการหยุดที่ทำให้เราได้อะไรหลายอย่างมาก ได้รู้ว่าตัวเองคิดอะไร ทำอะไร อยากคิดอะไรอยากทำอะไร. รู้อะไรอยากรู้อะไร หนีอะไรกำลังตามหาอะไร. ไมรู้สินะ. มันอยู่ในใจทุกเรื่องราวแบบนี้เขาเรียกว่าฟุ้งซ่านหรือเปล่านะ คงเกือบแล้วนะ


อีกไม่นานลูกๆคงกลับมาจากโรงเรียนแล้วนะคราวนี้เราคงจะอยู่อย่างสงบไม่ได้แล้วเราต้องใช้พลังที่สะสมมาทั้งวันวันนี้ไปทำใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นจำไว้อย่าใช้อารมณ์เด็กก็คือเด็ก โดยเฉาะเด็กสามคนนี้เป็นลูกเรา ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรเราต้องยอมรับเขาให้ได้ในสิ่งที่เขาเป็นนะ 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

subah
เขียนเมื่อ

ตื่นตีสี่ย่ำรุ่ง

 ลุกมาอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานขณะที่คนอื่นยังหลับสบาย 

ออกจากบ้านเดินทางมารอรถเมล์ท่ามกลางฝนที่ตกกระหน่ำลงมาจนรองเท้าเปียกปอน

ตีห้ากว่าๆ มองไปทางไหนก็มืด มีเพียงแสงไฟบนถนนเท่านั้น

ตีห้าครึ่งวิ่งขึ้นรถ นั่งมองวิวมืดข้างทางผ่านสายฝน

สองชั่วโมงครึ่งจากบ้านถึงที่ทำงาน

จากเคยนั่งดูวิถีชีวิตจากผู้คนรอบข้าง

ผ่านไป5ปี นั่งหลับจนเกือบถึงที่หมาย

รีบๆๆวิ่งไปให้ทันเวลางาน จนเกือบไม่ได้ทักทายคนรอบข้าง

ถึงที่ทำงาน เริ่มงาน ทำงาน ดูแลผ้ป่วย อายุ รุ่นราวคราวเดียวกับพ่อแม่ปู่ย่าตายายเรา ซึ่งเราไม่มีโอกาสดูแล

เวลาผ่านไปถึงห้าโมงเย็นเลิกงาน. รีบวิ่งวิ่งไปขึ้นรถกลับบ้าน

สองชั่วโมงครึ่งจากที่ทำงานไปถึงบ้าน

นั่งหลับไปตลอดทาง

ถึงบ้านแล้ว ยังคงมืดเหมือนเดิมกับเวลาที่มา ตีห้ากับหนึ่งทุ่มเกือบทุกวัน.   มา5ปี

กับความสุขที่เราเลือกเอง

แต่ตอนนี้ ต่างกันที่ไม่มีโทรศัพท์จากบ้าน เสียงของแม่ที่คอยถามว่าตอนนี้ถึงที่ไหนแล้ว ได้ขึ้นรถแล้วหรือยัง

จากที่เคยรำคาญ มาตอนนี้กลับถวิลหาสิ่งที่ไม่มีวันกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว

ความสุขของครอบครัว บางครั้งมันคือความสุขของเราหรือเปล่า บางครั้งเคยคิด

ให้คำตอบกับตัวเองที่ทำได้อยู่ทุกวันมันคือความสุขที่เราเลือกแล้ว......



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

subah
เขียนเมื่อ

ถ้าแม่เรายังอยู่ ท่านคงบอกให้เราอย่าไปใส่ใจกับสิ่งที่ไร้สาระ และบั่นทอนกำลังใจของเรา เราตั้งใจทำงานในหน้าทีให้ดีที่สุดก็พอ. อย่าเก็บเรื่ิองงานมาไว้ที่บ้าน เอาเวลามาดูแลคนในครอบครัวดีกว่า นะลูก



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

subah
เขียนเมื่อ

วันนี้ได้ระบายสิ่งที่อยู่ในใจให้ใครได้รู้ทำให้สบายใจขึ้นนะ ไม่น่าจะเกิดความรู้สึกแบบนี้ขึ้นมาเลย มันทำให้เบื่องานไปอีกระยะ กว่าจะปรับตัวปรับใจได้.  ตอนนี้ขออยู่ในระยะทำใจไปสักพักนะ ใจเรา ใจเขา เราต้องเข้าใจนะ 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

subah
เขียนเมื่อ

วันนี้เป็นวันทีี่หมอนัดมะ เพื่อทำToce ครั้งที่2 มะดูมีกำลังใจมาก หลายคนบอกว่าเราไม่ควรเลือกการรักษานี้ให้มะ แต่เราว่ามันน่าจะเป็นการรักษาที่ช่วยประคับประคองให้มะหายปวดได้อย่างน้อยทำให้ไม่แน่นอืดท้องมากนัก กินได้มากขึ้น อีกอย่างมะเป็นคนตัดสินใจที่จะรับการรักษาด้วยวิธีนี้ ตอนนี้เรานั่งรอมะอยู่หน้าห้องทำการรักษา ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดีนะมะ ลูกๆหลานๆจะคอยเป็นกำลังใจให้ค่ะ



ความเห็น (1)

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เวลาไม่นาน ไม่คิดว่าจะรวดเร็วมากมายขนาดนี้ ไม่คิดว่าเวลาที่เหลือ

ของเราที่อยู่ด้วยกันมันสั้น

เกินไป มันสายเกินไปที่เราจะทำอะไรให้คนที่เรารัก และรักเราที่สุดได้รู้สึกดี

ความคิดที่ว่าไม่เป็นไร รอก่อนนะ. บางครั้งคนรอรอไม่ได้ แต่เราไม่รู้. คำพูดสุดท้ายที่ได้ยินบอกว่า ผิดหวังกับคำขอสุดท้ายมาก. คำขอครั้งสุดท้ายที่เราให้ไม่ได้ ขอโทษนะม๊ะ. ความรู้สึกผิดนี้คงอยู่กับลูกไปตลอดชีวิต....

subah
เขียนเมื่อ

สิ่งที่อยู่ในใจ วันนี้มันมีมากมายเหลือเกินรู้สึกเริ่มชาชินกับสิ่งที่ได้รับ มันเจ็บนะ นี่แหละผลของความคาดหวังเราไม่จำซะที แม่เราคงเจ็บไม่แพ้กัน เข้าใจความรู้สึกของท่านแล้วล่ะ วันนี้มันแค่เริ่มต้นนะ ต้องเจออีกมากมาย เราต้องอดทน ขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีนะ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

subah
เขียนเมื่อ

ในบางวัน ทำไมเราต้องทำให้เวลามันหมดไปเร็วนัก อย่างวันนี้ใกล้ค่ำอีกแล้วเหลืออีกไม่กี่วันเราต้องกลับไปทำงานแล้วนะ ช่วยทำอะไรให้มีสาระหน่อยสิ....แต่ในความไม่มีสาระบางทีมันได้ทำให้เราได้หยุดนะ. หยุดคิดอะไรหนักๆ ปล่อยมันไปบ้าง ให้มันเป็นไป...ตามทางที่มันควรจะเป็น. ทางออกมีอยู่....เราจะหามันเจอจนได้สักวัน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

subah
เขียนเมื่อ

วันนี้ เช้า วันจันทร์ มาทำงาน มาถึงหาดใหญ่ ตั้งแต่หกโมงครึ่ง อากาศตอนเช้าสดชื่นมาก ขอบคุณ คนขับรถตู้คันนั้น ที่รับเราจากหน้าบ้าน มาส่งถึงที่ทำงานอย่างปลอดภัย แถมค่าโดยสารถูกกว่าปกติด้วย ขอบคุณค่ะ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

subah
เขียนเมื่อ

วันนี้ เป็นอีกวันที่เรามีความสุขมาก คำว่าเราหมายถึงครอบครัวของเรา ที่มีการรวมรุ่นกันทั้งวัยดึกและวัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน แม้ต่างวัยแต่เราก็สามารถมาร่วมสร้างความสุขให้กันและกันได้ แม้เรื่องเล็กน้อย ขอบคุณนะคะ พี่สาวที่แสนดี



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

subah
เขียนเมื่อ

ช่วงนี้ รู้สึกว่า เราทำงานหนักไปหรือเปล่านะ แต่มันก็ต้องเป็นแบบนี้ แหละนะ เพราะงานของเรามันหยุดไม่ได้ ต้องดูแลผู้ป่วย

แต่ไม่เป็นไรนะ อีกไม่นาน ไม่กี่วัน ก็จะได้หยุดแล้ว ถึงตอนนั้น เราอาจจะรู้สึกว่า เราว่างเกินไปด้วยซ้ำไปนะ

แม้ตอนที่เราคิดว่า เราเหนื่อยที่สุด แย่ที่สุด ลำบากที่สุด เราอาจดีกว่าอีกหลายๆคนบนโลกใบนี้ก็ได้

ขอให้กำลังใจตัวเองนะ

ขอขอบคุณคนใกล้ตัว ที่เข้าใจนะคะ แม้บางครั้งเราจะหงุดหงิดใส่กันบ้าง แต่ก็เป็นธรรมดานะคะ  เพราะยังไงก็แล้วแต่ กำลังใจจากตรงนี้ สำคัญที่สุดสำหรับเรา

รักมากมายนะคะ

จากม๊ะค่ะ

16/7/54



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

subah
เขียนเมื่อ

อ่านบันทึก วันนี้คุณกอดตัวเองแล้วหรือยัง ของคุณปริมแล้ว อดหันมาถามตัวเองไม่ได้ ว่า วันนี้ รู้สึกอย่างไรบ้าง สบายดีไหม

สุข หรือทุกข์ใจ เรื่องอะไรบ้าง

ได้คำตอบมากมาย และเมื่อตอบตัวเองได้ เราก็รู้สึกตัวเบา สบายขึ้นมาก อย่างน้อยก็มี 1 คน ที่เป็นกำลังใจให้ เรา... คนในกระจก นั่นเอง เป็นเพื่อนที่ดีที่สุด ของเราในทุกโมงยาม.. ไม่ว่าสุข หรือทุกข์ .. ยิ้มไว้นะ.. หรือบางครั้งจะร้องไห้กับตัวเองบ้าง...ก็ไม่เป็นไร

พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว มันไม่มืดไปตลอดหรอกนะ บอกตัวเองอย่างนั้น

ขอบคุณค่ะ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

subah
เขียนเมื่อ

สวัสดีค่ะ

นานแล้วนะที่ไม่ได้เข้ามาในนี้เลย คำว่า ไกลห่าง กับห่างไกล มันคงต่างกันนะ

ไกลห่างคงเป็นความรู้สึก ไกล... แล้วห่างกันไป 

 แต่ห่างไกล อาจจะอยู่ใกล้กัน แต่มันมีความรู้สึก..... ห่างกันไป เหมือนกับคำว่า ห่างใกล้ หรือเปล่า ไม่รู้นะ

ไม่ว่า จะห่างไกล หรือไกลห่าง เราก็ยังคิดถึง ความรู้สึกดีดี ที่เรามี ในพื้นที่

แห่งนี้เสมอมา และตลอดไป พื้นที่ที่ให้เราได้ รู้สึก ให้เราได้คิด หรือแม้แต่

เขียนความรู้สึกของเราได้อย่างอิสระ โดยไม่ทำร้ายใคร หรือแม้แต่ตัวเอง

ขอบคุณ gotoknow



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

subah
เขียนเมื่อ

วันนี้ มีเรื่องหงุดหงิดใจแต่เช้า เลยนะ ทำไมเราต้องเอาใจเราเป็นที่ตั้งนะ ใครเขาก็มีเหตุผลของเขา เราไม่มีสิทธ์ไปก้าวก่ายในบางเรื่องที่เรา ไม่ได้รับอนุญาตให้รู้ แม้คนๆ นั้นจะเป็นคนที่เสมือนคนๆ เดียวกันกับเรา

เราเข้าใจผิดแล้วนะ คนเรามีเรื่องส่วนตัวที่จะบอกหรือไม่บอกใครก็ได้ ถ้าเรื่องนั้นไม่ใชเรื่อง คอขาดบาดตาย เราไม่จำป็นต้องรู้ก็ได้ นี่นา

ลดบทบาทตัวเองลงมาบ้างเถอะ ปล่อยให้ใครเขาทำตาม ความคิดของเขาไป มันคงไม่หนักหนานะ ถึงเวลา บทบาทของเราก็จะมาเอง ปล่อยมันไปตามธรรมชาติ เถอะนะ

ตอนนี้ คิดได้ แล้ว ทำหน้าที่เราให้ ดีที่สุด อย่าโมโห อย่าหงุดหงิด อย่าคิดมาก ค่อยๆปล่อยมัน ลงไป แล้ววางไว้ในที่ๆ มันควรอยู่ เข้าใจแล้วนะ เรื่องนิดเดียว อย่าให้บานปลาย เข้าใจแล้ว ต้องทำให้ได้นะ วันนี้ และวันต่อไป จะเป็นวันที่เรา ใช้เหตุผล เหนืออารมณ์ แต่ไม่ว่า อย่างไร ต้องภายใต้ ใจที่ไม่รุ่มร้อน และทำแล้วใจจะเป็นสุขด้วย ... นะคะ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

subah
เขียนเมื่อ

2 วันนี้ เรามาอบรมวิจัยนะ มันทำให้ได้ อะไรหลายอย่าง อย่างนึงที่เรารู้คือ เรานิ่ง มานานมากนะ นิ่งมาหลายปี เคยคิดจะเดินให้เร็วขึ้นนะ แต่ใจมันบอกว่า อยู่อย่างนี้ก็ดีแล้วนะ มีความสุขดีแล้วนี่นะ

แต่ไม่แนะนำให้ใครทำตาม คนเราควรมีความคิดที่ต้องทำงานให้ตัวเอง มีความก้าวหน้าในวิชาชีพนะ มันคนละเรื่องกันกับการที่อยู่เฉยๆ เพื่อหนีปัญหา หรืออะไรบางอย่างที่เราไม่อยากเผชิญหน้า...

สักวัน..เราคงคิดจะเดินไปข้างหน้า หยุดได้นะ ..แต่อย่านานนัก

ถึงตอนนั้น เราอาจจะพบว่าตัวเอง กำลังเดินอยู่คนเดียว ในความมืด

และหาทางออกไม่ได้ ..ใครจะรู้ ..นอกจากตัวเอง



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท