ขนมตาล


บุหงา

พี่หนูรี วันนี้ทำขนมตาลตามสูตรไม่ผ่านค่ะ ใช้กะทิถุงแป้งข้นมากไม่เหลว ตากแดด4ชั่วโมงไม่มีฟอง เลยใส่ยีสต์วางใกล้เตาไฟที่อุ่นกับข้าวไม่ฟู เพื่อให้แป้งอุ่น แล้วใส่ผงฟู ต้มน้ำเดือดนึ่งถ้วยจนร้อน ยกถ้วยออกมาหยอดแต่ปิดฝารังถึง เนื่องจากแป้งข้น นึ่งนาน15นาที ไฟแรง ผลออกมาไม่ฟู ทำมัยคนอื่นทำฟูดีแต่ของเค้ามีกลิ่นลูกตาลนิดเดียว เราใส่ลูกตาลเข้มข้นยังทำไม่ได้ แต่จะฝึกต่ออยากให้ขนมไทยอยู่กับเรานานๆ..สู้ๆ^^



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น


คำตอบ (1)

หนูรี
เขียนเมื่อ

หากเราต้องการขนมอะไรก็ตาม เมื่อเปิดสูตรทำ อย่าเพิ่งไปปรับสูตร ก่อนที่ยังไม่ได้ลองครั้งที่หนึ่ง สำหรับตัวเองนั้นจะต้องทำตามสูตรเดิมก่อน ทุกขั้นตอนทั้งปริมาณส่วนผสมและวิธีปรุง ...

สำหรับขนมตาลที่ถามวันนี้

มีหลายปัจจัยที่มำให้ขนมนั้นไม่ฟู จากที่เล่ามา น่าจะเกิดจาก

  • ความเข้มของกะทิ เนื่องจากมีไขมันมากกว่าน้ำ ทำให้ขนมนั้นหนัก ให้ลองนึกถึง หากการผสมแป้งกับน้ำ กับการผสมแป้งกับครีมหรือนม ความข้นจะต่างใช่ไหม? นี่ก้เป็นประเด็นหนึ่งที่ทำให้แป้งข้น
  • แม้จะใส่ยีสต์ลงไปก็ขึ้นไม่ไหว อย่างที่บอกคือไขมันสูง 
  • ลูกตาลไม่มีกลิ่นก็เพราะ ลูกตาลยังสุกไม่เต็มที่ หากว่าลูกกตาลนั้นสุกดี จะนิ่มมากเมื่อปอกเปลือกดำๆออก เพียงใช้มือบี้ๆเนื้อตาลก็ออกมาง่ายๆ แบบนี้คือลูกตาลที่เหมาะกับการทำขนมตาล ขณะที่เราเตรียมเนื้อตาลจะมีฟองเกิดขึ้น นั่นคือเชื้อยีสต์จากธรรมชาติ ตัวนี้ด้วยที่ช่วยเพิ่มกลิ่น... กลิ่นจะหอมมาก ใส่ตามสูตรก็จะหอม เนื้อตาลเมื่อผสมกับแป้งก็มีสีส้มเข้ม 
  • รายละเอียดในการทำขนมไทยโบราณนั้นค่อนข้างเยอะ ต้องอาศัยการฝึฝนและการช่างสังเกตุ  หากไปปรับสูตรมั่วๆแบบไม่มีหลักการไม่เป็นผล แถมจะต้องเสียทิ้งกว่าได้ตามต้องการ 
  • ปกติกะทิถุงจะเป็นหัวกะทิซึ่งจะข้นมากๆ ควรผสมน้ำ 1: 1
  • การตวงแป้งก็อาจจะมีผล มือหนักมือเบาลองใช้สูตรแบบชั่งน้ำหนักดู 
  • แป้งข้าวเจ้าแห้ง 200 กรัม

    น้ำกะทิ 340 กรัม

    น้ำตาลทราย 225 กรัม

    เนื้อตาล 200 กรัม

    ...

  • เป็นกำลังใจให้นะคะ 
  • ....


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท