ที่น่าสนใจอีกอันหนึ่ง สะดุดตามาก ใครเห็นก็ต้องรี่เข้าไปดู คือกระดูกบางส่วนของหัวและเขี้ยว(ส่วนที่เป็นสีดำในภาพ)ของเสือเขี้ยวดาบที่สูญพันธุ์ไปแล้ว
จุดที่น่าสนใจก็คือเทคนิคการนำเสนอ เขาใช้แผ่นอะคีลิกใสประกบหน้าหลัง แล้ววาดส่วนที่ขาดหายไปด้วยลายเส้นสีแดง ตรงนี้ผมคิดต่อเอาเองว่า น่าจะวางปากกาแบบเขียนแล้วลบได้ให้คนที่คิดว่ารูปร่างของสัตว์นี้น่าจะเป็นอย่างอื่นวาดเพิ่มเข้าไปตามจินตนาการอิสระของตัวเอง เป็นกิจกรรมให้ผู้ชมมีส่วนร่วม ผมเองพอเห็นแล้วยังคันมืออยากวาดเพิ่มเติมรายละเอียดตามจินตนาการของผมแล้วถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก
ผมว่าเรื่องการให้ผู้ชมเป็นผู้เล่น เป็นผู้ play active role เป็น active learner ไม่ passive ในการเรียนรู้มีความสำคัญมาก มันเป็นอะไรที่จะติดตรึงอยู่ในความทรงจำของเราไปตลอดชีวิต กระตุ้นให้เราเกิดจินตนาการ(ทีสำคัญกว่าความรู้ - ไอสไตน์)ต่อไปอย่างไม่มีขีดจำกัด
เรื่องต่อเนื่องจากเรื่องนี้ในตอนต่อไป จึงเป็นเรื่องที่ผมจะเล่าสิ่งที่ผมประทับใจกับข้อความ Please touch ... กรุณาจับกรุณาสัมผัส อันนั้นอันนี้ แทนที่จะเป็น "ห้ามจับ" อย่างในพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง และเขาทำอย่างไรให้คนจับได้โดยไม่ต้องกลัวว่าวัตถุที่แสดงจะเสียหาย วันนี้ดึกแล้วผมต้องเข้านอนก่อน ราตรีสวัสดิ์ครับ
ไม่มีความเห็น