วันนี้ผมขอเล่าประสบการณ์ในการสอนงาน โดยการถ่ายทอดประสบการณ์ จากนักส่งเสริมที่มีประสบการณ์สู่นักส่งเสริมการเกษตรที่บรรจุใหม่ (มือใหม่) ของสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร โดยยกเนื้อหาและรายละเอียดกิจกรรมที่ได้ดำเนินการในวันที่ 17 พฤศจิกายน 48 ที่ผ่านมา ที่ได้เคยเขียนบันทึกและนำเสนอผ่านทางโฮมเพจของสำนักงานมาแล้ว เพื่อให้เพื่อนนักส่งเสริมจังหวัดอื่นๆ ที่สนใจได้นำไปปรับใช้ในการพัฒนาองค์กรของพวกเราต่อไปนะครับ
การสอนงานนักส่งเสริมการเกษตรมือใหม่
นักส่งเสริมการเกษตร ที่มีความสามารถในการส่งเสริมเกษตรกรให้มีอาชีพที่มั่นคงและพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนนั้น จะต้องมีขีดความสามารถในการจัดกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ดังนั้น เพื่อพัฒนานักส่งเสริมการเกษตรที่เริ่มเข้ามาทำงานใหม่ ๆ ได้รับการพัฒนาและเรียนรู้วิธีการทำงานขององค์กรที่มีอยู่แล้ว การสอนงานจึงเป็นอีกกระบวนการหนึ่งของสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร ที่จะถ่ายทอดประสบการณ์จากนักส่งเสริมการเกษตรที่มีประสบการณ์ ให้แก่นักส่งเสริมการเกษตรรุ่นใหม่ได้เรียนรู้และพัฒนาตนเอง
สำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร จึงจัดกิจกรรมการสอนงานให้แก่นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรบรรจุใหม่ (มือใหม่) โดยกิจกรรมแยกเป็น 2 ประเภท คือ
1. กิจกรรมการถ่ายทอดความรู้ที่เป็นหลักวิชาการที่มีอยู่แล้ว และการเล่าวิธีการทำงานจากนักส่งเสริมการเกษตรที่มีประสบการณ์ มีความสำเร็จในการทำงานมาแล้ว
2. กิจกรรมการฝึกปฏิบัติการจริงในการเป็นวิทยากรกระบวนการ และการจัดกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในภาคสนาม
ทั้ง 2 กิจกรรม กำหนดให้นักส่งเสริมการเกษตรมือใหม่ ร่วมเรียนรู้ เดือนละ 1 ครั้ง ๆ ละ 2 วัน โดยกิจกรรมที่ 1 ใช้สถานที่ ณ ห้องประชุมของสำนักงานเกษตรจังหวัด ใช้เวลา 1 วัน ส่วนกิจกรรมที่ 2 เป็นการฝึกปฏิบัติงานจริงในภาคสนาม ที่มีกิจกรรมที่สอดคล้องกับเนื้อหากับกิจกรรมที่ 1 อีก 1 วัน
การถ่ายทอดความรู้ที่เป็นหลักวิชาการและประสบการณ์ ที่เกี่ยวข้องครั้งนี้ กำหนดขึ้นหลังจากการนำนักส่งเสริมการเกษตรมือใหม่ ลงฝึกปฏิบัติภาคสนามแล้ว 1 ครั้ง ในวันที่ 21 กันยายน เนื่องทีมงานพิจารณาแล้วพบว่า น่าจะมีการเพิ่มความรู้วิชาการ หรือตำราวิชาการที่เกี่ยวข้องกับหลักการส่งเสริมการเกษตร ที่สอดคล้องกับการลงฝึกปฏิบัติภาคสนาม และการเล่าประสบการณ์ของรุ่นพี่ๆ ที่ทำงานสำเร็จมาแล้วในพื้นที่ จะทำให้เกิดการเรียนรู้ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่าการฝึกภาคสนามเพียงอย่างเดียว
กิจกรรมการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ ครั้งที่ 1
"ผู้ฟัง" รายชื่อนักส่งเสริมการเกษตรมือใหม่ที่ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้
1. นายจุ้น ขัดเกลา นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร สนง.เกษตรกิ่งอำเภอบึงสามัคคี
2. นายพินิจ พินิจผล นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร 3 สนง.เกษตรอำเภอลานกระบือ
3. น.ส ชุรีพร วัฒนจินดารัตน์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร 3 สนง.เกษตรอำเภอปางศิลาทอง
4. น.ส นิตยา บังคมเนตร นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร 3 สนง.เกษตรอำเภอไทรงาม
5. น.ส วันวิสาข์ จันเพชร นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร สนง.เกษตรอำเภอคลองขลุง
”ผู้เล่า” นักส่งเสริมการเกษตรที่ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ ประกอบด้วย คุณสายัณห์ ปิกวงค์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร 7 ว (ประสบความสำเร็จในการทำงาน เป็นเกษตรตำบลดีเด่นคนแรกของจังหวัดกำแพงเพชร และมีโอกาสเดินทางไปศึกษาดูงานด้านการส่งเสริมการเกษตรที่ประเทศอินโดนีเซีย) คุณสมเดช สิทธิยศ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร 7 ว (มีประสบการณ์ในการจัดการเรียนรู้ตามกระบวนการโรงเรียนเกษตรกร) และคุณวีรยุทธ สมป่าสัก นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร 6 ว (ทำหน้าที่ในการบันทึกเรื่องเล่าเพื่อนำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้) <p>
กิจกรรมและประสบการณ์ที่แบ่งบัน</p><p>
· 1) เริ่มต้นด้วยเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร นายสุรพล เถาว์โท พบปะพูดคุยให้เห็นความจำเป็นในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อพัฒนานักส่งเสริมการเกษตรมือใหม่ สู่มืออาชีพ</p><p>
· 2) การปรับเปลี่ยนแนวคิด การเล่าประสบการณ์การทำงานในอาชีพนักส่งเสริมการเกษตร 24 ปี ได้ทำอะไร ทำอย่างไร และเรียนรู้อะไรบ้าง อะไรคือความรู้และทักษะที่จำเป็นต่ออาชีพนี้ สร้างทัศนคติที่ดีต่อการพัฒนาตนเองของนักส่งเสริมการเกษตร โดยคุณสายัณห์ ปิกวงค์ สรุปว่านักส่งเสริมการเกษตรต้องเป็นคุณอำนวยหรือวิทยากรกระบวนการ โดยต้อง
o จัดกระบวนการเป็น
o ฟังเป็น ฟังแล้วคิด ก่อนโต้ตอบ
o ตั้งคำถามเป็น
o จับประเด็นเป็น
o สรุปประเด็น</p><p>
· 3) การจัดทำแฟ้มสะสมงานของนักส่งเสริมการเกษตรทุกคน เพื่อเก็บผลงาน และวัดสมรรถนะของแต่ละคน โดยนายวีรยุทธ สมป่าสัก
o มีความคิดเห็นที่ถูกต้องกับอาชีพนักส่งเสริมการเกษตร ว่าเป็นนักพัฒนา ที่ต้องพัฒนาตน เองสู่ความเป็นมืออาชีพ
o ที่ต้องเรียนรู้และพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา
o ต้องมีการบันทึกและการจัดเก็บเป็นแฟ้มสะสมงาน</p><p>
· 4) การเขียนบันทึกและการรายงานผลการปฏิบัติงาน การถอดบทเรียนจากการปฏิบัติงานทุกครั้ง เพื่อประเมินสมรรถนะพื้นฐานของนักส่งเสริมการเกษตร โดย นายวีรยุทธ สมป่าสัก และนายสายัณห์ ปิกวงค์ โดยบันทึกในสิ่งที่ได้ทำอย่างต่อเนื่อง ประชาสัมพันธ์และเก็บเข้าแฟ้มสะสมงาน การเขียนมีข้อดีเพราะ
o การเขียนเป็นการบันทึกผลงาน
o เป็นการพัฒนาตนเอง
o เป็นการบันทึกความรู้ทั้งที่เป็นวิธีการ(กระบวนการ) และวิชาการ
o เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์</p><p>
· 5) ข้อห้ามและข้อควรปฏิบัติ จากประสบการณ์ โดยสายัณห์ ปิกวงค์ นายสมเดช สิทธิยศ และนายวีรยุทธ สมป่าสัก ได้แนะนำมือใหม่ให้ถือปฏิบัติ เช่น</p><p> - ต้องศึกษาวิชาการหรือศาสตร์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับการทำงานเพิ่มเติม</p><p> - ควรลงพื้นทีปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีศิลป์ในการทำงาน</p><p> - เกาะติดกับกลุ่มหรืองานอยู่ตลอดเวลา บางครั้งไม่จำเป็นต้องรองบประมาณก็ต้องลงพื้นที่</p><p> - ต้องเป็นนักส่งเสริมรุ่นให่ที่มีการบันทึกผลการทำงาน /เก็บภาพที่ปฏิบัติงานตั้งแต่บัดนี้</p><p>
· 6) การสะท้อนความคิดเห็นของนักส่งเสริมการเกษตรมือใหม่ (ประเมินผล) ดังนี้
o ดี และเห็นด้วยเพราะเป็นทางลัดของมือใหม่ แต่เนื่องจากเป็นเรื่องใหม่ต้องลงมือทำด้วยจึงจะค่อยๆ เห็นภาพชัดเจน
o เริ่มทำงานมีทั้งคนที่รู้สึกโดดเดี่ยว แต่มีบางคนที่รุ่นพี่คอยแนะนำ หากได้มีการให้ความรู้และฝึกก่อนลงพื้นที่ จะทำให้มีความมั่นใจ และน่าจะทำงานในพื้นที่ได้ดียิ่งขึ้น
o อยากเรียนรู้การถ่ายทอดความรู้ตามกระบวนการโรงเรียนเกษตรกร ยินดีที่จะไปฝึกรับความรู้
o ควรวางแผนการพัฒนาไว้ล่วงหน้าในระยะยาว</p> · 7) ข้อตกลงของมือใหม่
o ต้องจัดทำแฟ้มสะสมงานทุกคนนับตั้งแต่วันนี้
o ร่วมเรียนรู้วิชาการ/ถ่ายทอดประสบการณ์ เดือนละ 1 วัน
o ลงฝึกปฏิบัติงานภาคสนามร่วมกัน เดือนละ 1 วัน
o บันทึกประสบการณ์และถอดบทเรียนจากการฝึกปฏิบัติงานภาคสนามทุกครั้ง <p>
สรุปบทเรียน
จากการจัดการถ่ายทอดความรู้วิชาการและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ครั้งนี้ ทีมงานได้เรียนรู้และได้รับประสบการณ์ของทีมงาน และหากจะดำเนินการในลักษณะนี้ในครั้งต่อๆไปต้องปรับปรุง ดังนี้
1. ต้องมีการวางแผนและกำหนดเวลาไว้ล่วงหน้านานๆ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ได้เตรียมตัวและวางแผนการปฏิบัติงานให้สอดคล้อง ซึ่งในครั้งนี้มีการนัดหมายกระชั้นชิด ทำให้นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรอำเภอเมือง ไม่สามารถมาร่วมเรียนรู้ได้ 3 ท่าน เพราะติดราชการ (ได้จัดเอกสารให้อ่านเพิ่มเติม)
2. เอกสารวิชาการหรือตัวอย่างเอกสาร ควรจัดทำให้เป็นรูปเล่ม เพื่อสะดวกในการหยิบใช้และจัดเก็บ
3. ควรเชิญนักส่งเสริมการเกษตรในระดับอำเภอที่มีประสบการณ์ในเนื้อหาที่ถ่ายทอด มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพิ่มเติมหลายๆท่านด้วยในครั้งต่อๆไป
4. ควรจัดเวลาให้นักส่งเสริมการเกษตรมือใหม่ได้ร่วมกันสรุปบทเรียนในระหว่างกลุ่มมือใหม่ด้วยกัน เพื่อทบทวนสิ่งที่ได้เรียนรู้ และฝึกการสรุปบทเรียนด้วยทุกครั้ง
นี่เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์หรือองค์ความรู้หนึ่งของทีมงานและองค์กรของสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร ที่ได้เรียนรู้จากการปฏิบัติ ซึ่งพอจะสรุปได้ว่าหน่วยงานที่ปฏิบัติงานด้านการส่งเสริมการเกษตร ก่อนที่จะลงทำงานในพื้นที่ องค์กรจะต้องพัฒนาคนที่จะลงไปทำงานให้มีความเข้าใจ มีความรู้ความสามารถและมีทักษะพื้นฐาน เป็นเบื้องต้น จะทำให้องค์กรทำงานให้ประสบความสำเร็จ และส่งผลสู่เป้าหมายคือเกษตรกรได้รับการพัฒนาไปในทิศทางที่ถูกต้อง อย่างยั่งยืน องค์กรใดจะนำไปใช้ก็สามารถถอดประสบการณ์หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชรนะครับ ( 055-711060,หรือที่ http://kamphaengphet.doae.go.th)
วีรยุทธ สมป่าสัก
</p>
ไม่มีความเห็น