ภาคบ่ายของการประชุมวันแรก หลังจากพูดคุยกันเรื่อง peer assist จากประสบการณ์จริงผ่านพ้นไปแล้ว ตัวแทนของกลุ่มดอกไม้กลุ่มละ 2 คน ที่เดินออกไปคุยกับคุณธวัชก็กลับเข้ามาในห้องประชุม สรุปประเด็นหลัก ของการดูแลผู้ป่วยเบาหวานที่รวบรวมจากการแลกเปลี่ยนเมื่อตอนเช้า คั้นออกมาเป็นแก่นความรู้ ได้ 9 ประเด็นคือ
แต่ละกลุ่มได้รับมอบหมายประเด็นประจำกลุ่มให้มาช่วยกันคิดสร้าง เกณฑ์ระดับแห่งความสำเร็จ เช่น คะแนน 1 กิจกรรมดังกล่าวควรจะมีอะไรบ้าง จนสูงสุดคือ คะแนน 5 หมายถึงทำได้สุดยอดของประเด็นนั้นๆแล้ว กลุ่มดอกกุหลาบของผมได้รับ ประเด็นการสร้างแรงจูงใจ เท่าที่ผมสังเกตในฐานะ facilitator ประจำกลุ่ม ทุกคนในกลุ่มเสนอความคิดเห็นอย่างตั้งอกตั้งใจ จนในที่สุดกลุ่มเราก็สรุปเกณฑ์ระดับความสำเร็จได้เรียบร้อย ผมได้รับฟังเกณฑ์ระดับแห่งความสำเร็จของแก่นความรู้ทั้ง 9 แก่น โดยเฉพาะตรงที่คะแนนสูงสุด 5 คะแนนนั่น ผมว่าเป็นเป้าหมายของคนที่ทำงานกับโรคเบาหวานเลยนะครับ เพียงแต่ว่าถ้าคิดเองคนเดียว มันคงไม่ออกมาได้ครบถ้วนสมบูรณ์เช่นนี้ นี่คงเป็นพลังส่วนหนึ่งของการจัดการความรู้อย่างเป็นระบบ ชักจะเห็นประโยชน์ของการจัดการความรู้ ชัดขึ้นเรื่อยๆแล้วครับ
หลังจากนั้นแต่ละโรงพยาบาลทำการประเมินตนเอง ตามหัวข้อของแก่นความรู้ ว่าในแต่ละแก่นนั้นตนเองปัจจุบันอยู่ที่ระดับใดและมุ่งหวังจะไปถึงระดับไหน ถึงตอนนี้เราก็จะรู้แล้วครับว่า ทีมเรายังมีจุดอ่อนในด้านใดและมีความปรารถนาจะพัฒนามากน้อยแค่ไหน (ถ้าต้องการพัฒนามาก เรียกว่าเราเป็น"ผู้ใฝ่รู้") แต่ถ้าทีมเรามีจุดแข็งในด้านใด เรียกว่าเราเป็น" ผู้พร้อมให้" ในด้านนั้นๆครับ
ถึงเวลารับประทานอาหารเย็น อาหารอร่อยเช่นเคย ในที่สุดผมก็ลืมปริมาณแคลอรี่ที่ผมควรจะได้รับอีกครั้งแล้วครับ การประชุมวันแรกจบลงด้วย การทำ AAR ของทีมคุณอำนวยกับคุณลิขิต ผมเชื่อว่าทีมผู้จัดตลาดนัดความรู้ ครั้งนี้คงได้ความคิดเห็นในการดำเนินการมากมายทีเดียว เล่ามายืดยาวกว่าจะหมดหนึ่งวันก็ว่าไปถึง 4 ตอน แต่ความรู้สึกในวันนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็วเกินกว่าจะคาดคิด ผมเชื่อว่าเป็นเพราะผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนมีความสนใจและใฝ่รู้ในสิ่งเดียวกันและมุ่งมั่นจะทำให้ได้ดีเหมือนๆกัน การประชุมวันที่สองค่อยมาเล่าต่อตอนหน้านะครับ