มารู้จักเมืองหลวงของ "พม่า" แห่งใหม่กันเถอะ


“เนปิดอว์” ซึ่งเป็นเมืองที่รัฐบาลทหารพม่าซุ่มเงียบใช้เวลาก่อสร้างกว่า 2 ปี โดยเมืองเนปิดอว์นั้นตั้งอยู่ลึกเข้าไปในผืนแผ่นดิน หรือห่างจากกรุงย่างกุ้งไปทางเหนือราว 380 กิโลเมตร และถ้าคำนวณระยะเวลาเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงย่างกุ้งไปเนปิดอว์จะใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมง และจากการย้ายเมืองหลวงในครั้งนี้ รัฐบาลทหารพม่าได้ตัดสินใจที่จะขึ้นเงินเดือนให้กับข้าราชการของตนถึง 10 เท่า (10 เท่านะครับ ท่านอ่านไม่ผิดหรอก)

เนปิดอว์ (Naypyidaw) เมืองหลวงใหม่ของพม่า 

สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ ต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่าบทความฉบับนี้ออกจะล้าสมัยอยู่สักนิด สำหรับท่านผู้อ่านที่ติดตามความเคลื่อนไหวด้านต่างประเทศอยู่เสมอ ซึ่งวันนี้ผมอยากจะเล่าเรื่องการย้ายราชธานี หรือเมืองหลวงใหม่ของประเทศเพื่อนบ้านของเรา นั่นก็คือประเทศ พม่า ไงครับ แต่สำหรับท่านผู้อ่านที่ยังไม่ทราบ หรืออาจจะทราบข้อมูลมาบางส่วน ก็ขอให้ท่านติดตามอ่านกันได้เลยครับ

 

แรก ๆ ท่านผู้อ่านอาจจะได้ข่าวคราวผ่านทางหนังสือพิมพ์ และทางโทรทัศน์ว่า ประเทศพม่านั้นกำลังย้ายเมืองหลวง โดยก่อนหน้านี้คาดกันว่าเมืองหลวงใหม่ของพม่าจะมีชื่อว่า ปิ่นมะนา แต่ที่เปิดตัวกับชาวโลกนั้นไม่ใช่เสียแล้ว กลับกลายเป็นเมืองที่คนไทยเรา และคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะได้ยินชื่อนัก นั่นก็คือเมือง เนปิดอว์ ซึ่งเป็นเมืองที่รัฐบาลทหารพม่าซุ่มเงียบใช้เวลาก่อสร้างกว่า 2 ปี โดยเมืองเนปิดอว์นั้นตั้งอยู่ลึกเข้าไปในผืนแผ่นดิน หรือห่างจากกรุงย่างกุ้งไปทางเหนือราว 380 กิโลเมตร และถ้าคำนวณระยะเวลาเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงย่างกุ้งไปเนปิดอว์จะใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมง เพราะเป็นเส้นทางที่ไม่ค่อยดี กอปรกับเป็นทางขึ้นลงเขาเป็นส่วนใหญ่ เนปิดอว์นั้นถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ทีเดียว ถ้าเปรียบเทียบกับประเทศสิงค์โปร์จะมีขนาดใหญ่กว่าถึง 10 เท่า

 

ภาพการปรับปรุงถนนในเมืองเนปิดอว์ โดยมีคนงานชายและหญิงกำลังทำงานอย่างแข็งขัน 

ภาพการปรับปรุงถนนในเมืองเนปิดอว์ โดยมีคนงานชายและหญิงกำลังทำงานอย่างแข็งขัน

สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดที่ปรากฏต่อสายตาชาวโลกนั่นก็คือ พระราชานุสาวรีย์ของบูรพกษัตริย์ทั้ง 3 พระองค์ของพม่า ได้แก่ พระเจ้าอโนรธา พระเจ้าบุเรงนอง และพระเจ้าอลองชญา โดยพม่าได้จัดสร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติของบูรพกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ทั้ง 3 พระองค์โดยเฉพาะ

  พระราชานุสาวรีย์ขนาดมหึมาของบูรพกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ของพม่า 3 พระองค์ของพม่า ได้แก่ พระเจ้าอโนรธา พระเจ้าบุเรงนอง และพระเจ้าอลองชญา ซึ่งถือเป็นสัญญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองเนปิดอว์

พระราชานุสาวรีย์ขนาดมหึมาของบูรพกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ของพม่า 3 พระองค์ของพม่า ได้แก่ พระเจ้าอโนรธา พระเจ้าบุเรงนอง และพระเจ้าอลองชญา ซึ่งถือเป็นสัญญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองเนปิดอว์ 

แน่นอนว่าการย้ายเมืองหลวงของพม่าในคราวนี้ไม่มีความพร้อมเสียเลยครับ ทั้งสาธารณูปโภคต่าง ๆ ไม่ว่าจะโรงเรียน โรงพยาบาล สนามบิน หรือสถานที่ราชการต่าง ๆ แต่ด้วยการบริหารราชการโดยอำนาจเบ็ดเสร็จอยู่ที่รัฐบาลทหารจึงทำให้การขนย้าย และลำเลียงสิ่งของต่าง ๆ รวมทั้ง คน เป็นไปได้อย่างค่อนข้างรวดเร็วครับ เท่าที่ผมได้รับทราบข้อมูล พม่าใช้รถบรรทุกขนาด 18 ล้อ ระดมวิ่งขนข้าวของสัมภาระกันทั้งวันทั้งคืนเลยครับ

 

พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองเนปิดอว์เป็นพื้นที่ยังมีการจัดการที่ยังไม่เรียบร้อย และกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา        

ทางหลวงและถนนเชื่อมระหว่างเมืองที่กำลังก่อสร้างอยู่ โดยคาดว่าจะมีความกว้างกว่า 12 เลน เมื่อแล้วเสร็จ

ประชาชนพม่ากว่า 80,000 คน ถูกระดมเข้ามาในการสร้างเมืองใหม่ในครั้งนี้ด้วย

 

 City Hall หรือศาลาว่าการที่ล้อมรอบไปด้วยสนามหญ้า และสวนที่สวยงาม

Apartment  ที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ไม่ใคร่พอใจนั เนื่องจากไม่มีแหล่งช็อปปิ้ง ร้านอาหาร และสถาน  บันเทิงต่าง ๆ

 

Apartment ที่ประชาชนต้องย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ ๆ ถูกกำหนดให้

 

และจากการย้ายเมืองหลวงในครั้งนี้ รัฐบาลทหารพม่าได้ตัดสินใจที่จะขึ้นเงินเดือนให้กับข้าราชการของตนถึง 10 เท่า (10 เท่านะครับ ท่านอ่านไม่ผิดหรอก) ตัวอย่างเช่น ตำแหน่งอธิบดีของพม่าที่มีเงินเดือน ๆ ละ 6 พันบาท ก็ได้เงินเดือนพุ่งพรวดไปเป็น 6 หมื่นบาทเลยทีเดียว แต่ประเด็นนี้ท่านต้องทำความเข้าใจให้ดีนะครับว่า รัฐบาลทหารของพม่านั้น มีอำนาจเบ็ดเสร็จที่จะสั่งการหรือออกคำสั่งใด ๆ ก็ตามที่ตนเองเห็นสมควร ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นเงินเดือน หรือการสั่งให้ข้าราชการมาปฏิบัติงาน ณ เมืองหลวงใหม่ จึงเป็นไปอย่างปัจจุบันทันด่วน และแน่นอนต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยถ้ามีการขัดขืนหรือไม่ปฏิบัติ ท่านผู้อ่านคงสามารถที่จะเดาได้นะครับว่าจะเป็นอย่างไร ดังนั้น การย้ายประชาชนให้มาอยู่อาศัย ณ เมืองเนปิดอว์ ก็อาจจะถือได้ว่าเป็นคำสั่งที่ไม่อาจจะขัดได้

 

ท่านผู้อ่านอาจจะสงสัยว่าพม่าเอาเงินมหาศาลจากที่ไหนมาสร้างเมือง แน่นอนครับว่าโครงการใหญ่ขนาดนี้พม่าต้องกู้เงินจากต่างประเทศมาอย่างแน่นอน นั่นก็คือพี่เบิ้มอย่างจีนนั่นเอง โดยผ่านเอ็กซิมแบงก์เป็นเม็ดเงินราว 160 ล้านเหรียญสหรัฐ และจากพี่ไทยของเราเองด้วย ผ่านเอ็กซิมแบงก์เช่นกันประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมทั้งจากสถาบันการเงินอื่น ๆ อีกหลายแห่ง

 

คำถามต่อไปที่น่าสนใจก็คือ เหตุใดพม่าจึงจะต้องย้ายเมืองหลวง คำตอบนี้ก็อาจจะยากที่จะฟันธงลงไปครับว่าเพราะสาเหตุใด ถ้าฟังมุมมองของนักวิเคราะห์ชาวตะวันตกอาจจะมองว่าเป็นเรื่องความมั่นคงภายในของพม่า โดยพม่ามีความประสงค์ที่จะถอยหลบฉากจากการถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากยุโรป และสหรัฐอเมริกา แต่ถ้าพิจารณาด้านความเป็นอัตลักษณ์ของพม่าเองแล้ว อาจจะเป็นเหตุผลด้านโหราศาสตร์ เพราะสิ่งที่เห็นได้อย่างเด่นชัดจากอดีตที่ผ่านมาก็คือ ประเทศพม่าย้ายเมืองหลวงมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง เช่น การย้ายเมืองหลวงไปพุกาม อังวะ หงสาวดี โดยรวมถึงการย้ายกลับไปกลับมาอีกหลายครั้ง โดยที่ครั้งล่าสุดเป็นการย้ายราชธานีมาตั้งอยู่ที่กรุงย่างกุ้ง เมื่อครั้งพม่าได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 1948 และล่าสุดปี 2007 ก็มาเป็นเมืองเนปิดอว์ อย่างไรก็ดี ไม่มีใครทราบว่าสาเหตุที่แท้จริงนั้นคืออะไร คงมีแต่เพียงรัฐบาลทหารพม่าเท่านั้นที่ให้ความกระจ่างได้

 

ถ้าพิจารณาด้านยุทธศาสตร์ที่ตั้งของเมืองเนปิดอว์แล้ว ถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีชัยภูมิที่ตั้งที่ค่อนข้างที่จะได้เปรียบ เพราะอยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดิน โดยที่อาจจะค่อนข้างลับหูลับตาจากประเทศที่คอยสอดส่องจับความเคลื่อนไหวของพม่าอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ พื้นที่ส่วนใหญ่ก็ยังเป็นป่าซึ่งสามารถทำให้รัฐบาลทหารพม่ามีชัยภูมิที่ตั้งที่ได้เปรียบในการตั้งรับกับการโจมตีของชนกลุ่มน้อยกลุ่มต่าง ๆ ที่เป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาลทหารของพม่า

 

อย่างไรก็ดี คนไทยและนักธุรกิจไทยที่ทำการค้าอยู่กับพม่ายังอุ่นใจได้ครับ เพราะว่าเมืองท่าหรือศูนย์กลางด้านการค้า (Commercial Capital) ยังเป็นกรุงย่างกุ้งเหมือนเดิม โดยเมืองเนปิดอว์จะเป็นเมืองหลวงด้านการบริหารจัดการ (Administrative Capital)

สุดท้ายนี้ ต้องติดตามดูกันต่อไปครับว่า การเมืองพม่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดหลังจากการย้ายเมืองหลวง...

9 เมษายน 2550

**หากท่านผู้อ่านมีข้อคิดเห็น หรือคำแนะนำเพิ่มเติมใด ๆ เกี่ยวกับบทความฉบับนี้ ทางผู้จัดทำยินดีน้อมรับเพื่อนำไปปรับปรุงผลงานอื่น ๆ ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นครับ ขอขอบพระคุณ 

 

หมายเลขบันทึก: 89267เขียนเมื่อ 9 เมษายน 2007 12:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 02:38 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (21)
น่าสนใจดึเคยดูทึวึเป็นข่าวสั้นๆนิดเดึยว

มีข่าวสารเพิ่มเติมเรื่อยๆเพราะจะได้มีความรู้เพิ่มขึ้น

ป.ล.เเล้วจะติดตามเรื่อยๆ

สวยดีนะเนี้ย!!!!!!!!!!!!!แต่ก่อนนึกว่าพม่าไม่น่าอยู่..ไม่น่าเที่ยว..ไม่ไมไรดีด้วย..แต่!!!!!!!!!!!!!!!

ตอนนี้น่าอยู่ขึ้นเยอะมากกกกครับ

 

น่าอยู่เหมือนกันนะเนี่ยยยยย! จะย้ายไปอยู่ดีไหม? อย่าเลย อยู่ไทยดีกว่า เอ...แต่เนปิดอว์ที่พม่านี่ก็น่าอยู่เหมือนกันนะเนี่ย เอาเป็นว่ามีข้อมูลเพิ่มเติมอะไรก็เอามาอัพกันบ้างก็ดี จะได้รู้ว่าโลกเขาไปกันถึงไหนแล้ว

ดีมีสาระ

เป็นความรู้ใหม่

สุดยอดมากเลยเมืองหลวงใหม่ของพม่า แต่ถามหน่อย เนปิดอว์แปล ว่าอะไร

จากเด็กหงส์เเละกระทิงดุ

ง่า~

บังเอิญทำการบ้านแล้วเปิดมาเจอพอดีอ่ะค่ะ

ขอบคุณมากนะคะ

เพราะไม่อย่างนั้นคงทำการบ้านไม่เสร็จ

ขอให้มีแบบนี้ต่อไปนะคร้าบ สรุปได้เจ๋งมากเลยคับ สุ๊ดยอดดดด

เมืองเนปิดอว์ หมายถึง ที่ประทับของกษัตริย์

น่าติดตามมาก อาจารย์ก็ให้มาค้นคว้า

ขอบคุณคร่า >/l\< ให้ประโยชน์กับหนูมาก

กำลังหาข้อมูลอยู่อ่ะคะ ดีมั๊กๆ มีสาระๆ =]

ชื่อเมืองแปลว่า ราชธานี นะคะ^_^

เป็นเมืองที่น่าอยู่ และสวยงามมาก

>< กำลังหาทำงานอยู่เลยค่ะ ขอบคุณมาก ๆ น่ะค่ะ ^^~

พม่า เป็นประเทศที่น่าสนใจมาก หากท่านได้เคยไปครั้งนึงแล้ว ก็จะอยากไปอีกค่ะ

ประชาชนส่วนใหญ่ยากไร้ แต่ก็อยู่กินง่ายๆ และมีการนับถือทางศาสนาพุทธที่เคร่งครัดมาก

อยากให้ทุกท่านลองไปเที่ยวพม่าดูนะคะ

มีสาระ

ดีมากเลยจะได้รู้จัก

น่าเที่ยวมากเลยอยากไปมั่งจังเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยย แฟนเราอยู่เมืองหลวงของประเทศพม่าไง น่าลั๊กอ่ะ.........

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท