ระบบสร้างสรรค์ปัญญาอเมริกัน (4)


ระบบสร้างสรรค์ปัญญาอเมริกัน (4)

         ท่านที่สนใจจริงจังโปรดอ่าน ตอนที่ 1 (click)ตอนที่ 2 (click)ตอนที่ 3 (click) ก่อนก็ได้ครับ

         ท่านที่ 4 เป็นคนที่ผมรู้จักเป็นส่วนตัว   คือร่วมเป็นกรรมการรางวัลนานาชาติ สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลฯ ด้วยกัน   ท่านผู้นี้คือศาสตราจารย์ D.A. Henderson  คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์  มหาวิทยาลัยจอห์นสฮอปกิ๊นส์   นักระบาดวิทยาผู้มีบทบาทสำคัญในการกวาดล้างโรคไข้ทรพิษให้หมดไปจากโลก   ผู้กลายมาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน bioterrorism ให้แก่รัฐบาลอเมริกัน

                                   

                    ศาสตราจารย์ D.A. Henderson (คนสูงที่สุด) กับภรรยา

                                   ถ่ายในวังสระปทุม  ๑๑ พ. ย. ๔๘

         วงการอุดมศึกษาโปรดสังเกตนะครับ   ว่าท่านผู้นี้อายุ 77 ปียังดำรงตำแหน่งคณบดีอยู่   เขาเน้นที่ความสามารถในการทำงานไม่ใช่ที่อายุ   และท่านผู้นี้เป็นคณบดีมาเกือบ 20 ปีแล้ว

         ผู้เขียนประวัติของศาสตราจารย์เฮนเดอร์สัน   ใช้คำบรรยายบุคลิกของท่านว่ามี iconoclasm คือมีความสามารถในการทำลายความเชื่อเดิม ๆ หรือคิดไม่เหมือนคนอื่นที่เชื่อถือตาม ๆ กันมา

         ในช่วงปี ค.ศ. 1960 - 1970   เป็นที่เชื่อกันว่าหากจะกวาดล้างโรคไข้ทรพิษให้สิ้นซากต้องฉีดวัคซีนให้แก่คนทุกคน   แต่เฮนเดอร์สันแยังว่าไม่จำเป็น   และได้คิดวิธีที่เรียกว่า ring vaccination คือฉีดวัคซีนเฉพาะคนที่เป็น primary contact กับ secordary contact กับผู้ป่วย

         วิธีดังกล่าวได้ผล   ผู้ป่วยคนสุดท้ายอยู่ที่ประเทศโซมาเลียในเดือนตุลาคม 2520   และในปี 2523 องค์การอนามัยโลกประกาศว่าโรคไข้ทรพิษได้ถูกกวาดล้างหมดไปจากโลกแล้ว   และการปลูกฝีป้องกันโรคไข้ทรพิษก็ถูกยกเลิกตั้งแต่นั้นมา

         เมื่อโลกเข้าสู่ยุคก่อการร้าย   เชื้อไวรัสไข้ทรพิษจึงอาจถูกใช้เป็นอาวุธทำลายล้างที่เรียกว่า bioterrorism   ศ. เฮนเดอร์สันแม้จะเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต   จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของประธานาธิบดีบุชด้าน bioterrorism 1 เดือนหลังเหตุการณ์วันที่ 11 กันยายน 2544   และในที่สุดก็ได้เป็นผู้อำนวยการคนแรกของ Office of Public Health Emergency Proparedness ในปลายปี 2544 (และลาออกในปี 2547  แต่ก็ยังเป็นที่ปรึกษาขององค์กรนี้)

         เมื่อโรคไข้ทรพิษหมดไปจากโลกใหม่ ๆ  มีข้อถกเถียงกันว่าควรทำลายเชื้อไวรัสของโรคนี้ที่เก็บไว้ในห้องปฏิบัติการ (รู้กันอย่างเป็นทางการว่าเก็บไว้ที่ห้องปฏิบัติการของ CDC ในสหรัฐ  กับที่ห้องปฏิบัติการที่ไซบีเรียของรัสเซีย)   ศ. เฮนเดอร์สันอยู่ข้างที่เห็นว่าไม่ควรทำลาย   เพราะเชื่อว่ามีเชื้อเก็บซุกซ่อนอยู่นอกห้องปฏิบัติการ 2 แห่งนี้ด้วย   และอาจถูกใช้เป็นอาวุธชีวภาพได้ผลร้ายแรง   หากไม่มีเชื้อที่เก็บไว้สำหรับทำวัคซีน   บัดนี้เป็นที่พิสูจน์แล้วว่าความเห็นของเฮนเดอร์สันถูกต้อง   ตอนตามเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนฯ ไปทัศนศึกษาที่ภูเก็ต   เมื่อวันที่ 12 พ.ย.48   ผมคุยกับท่านเรื่องการป้องกันอาวุธชีวภาพในการก่อการร้าย   ท่านบอกว่าสหรัฐอเมริกาได้ผลิตวัคซีนป้องกันโรคไข้ทรพิษไว้ 300 ล้านโดส   สำหรับใช้ได้กับทุกคนในสหรัฐและอาจช่วยเหลือมิตรประเทศได้ด้วย

         ผมถามท่านว่าประเทศไทยควรเตรียมรับมือการก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพอย่างไร   ท่านบอกว่าประเทศไทยไม่ใช่เป้าของการก่อการร้ายแบบนี้   การเตรียมป้องกันในแบบที่สหรัฐใช้อยู่จึงไม่จำเป็นเพราะสิ้นเปลืองมาก   ไทยควรใช้วิธีเฝ้าระวังบูรณาการไปกับการเฝ้าระวังโรคอุบัติใหม่คือโรคในกลุ่มไข้หวัดนก   ซาร์ส์   และโรคไวรัสจากสัตว์สู่คนชนิดอื่น ๆ

         ผมสังเกตว่าตามปกติท่านเป็นคนไม่ค่อยพูด   แต่เวลาพูดจะมีน้ำหนักมาก   มีหลักฐานประกอบอย่างดีตามแบบของนักระบาดวิทยา

วิจารณ์  พานิช
 30 พ.ย.48

หมายเลขบันทึก: 8912เขียนเมื่อ 6 ธันวาคม 2005 09:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มีนาคม 2012 16:39 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ผมอ่านบันทึกของอาจารย์แล้วนึกไปเรื่อง computer security ครับ เวลามี computer virus/worm ระบาดขึ้นมาแต่ละครั้งบางตัวทำให้ระบบเครือข่ายล่มต่อๆ กันไปทั้งโลก บางตัวก็สร้างปัญหาที่หนักกว่านั้น

ring vaccination เป็น "algorithm" ในการหยุดการแพร่ของไวรัสที่น่าสนใจมากครับ ทำให้ผมนึกไปว่าถ้าคน computer science ที่ทำวิจัยด้าน computer security ได้เอา papers ทางระบาดวิทยามาอ่านน่าจะได้ความคิดดีๆ ที่จะ "ปิ๊งแว้ป" เกิดเป็นงานวิจัยใหม่ได้เยอะทีเดียว

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท