สายเลือดญี่ปุ่น
สิงห์ กับ แสง เดินทางไปโรงเรียนด้วยกันทุกวัน ระหว่างเดินทางก็จะคุยกันไปตาม ประสาเพื่อน สิงห์ : เธอรู้มั๊ย ว่าฉันมีสายเลือดญี่ปุ่น……เชียวนะเธอ แสง : “ ก็พ่อก็เป็นคนไทย แม่ก็เป็นคนไทย แล้วเธอจะมีสายเลือดญี่ปุ่น ได้อย่างไร ……เอาอะไรมาพูด ” สิงห์ : “ ได้ซิ ! ก็ตอนที่เราไปเที่ยวญี่ปุ่น เราเกิดอุบัติเหตุอาการสาหัส เสียเลือดมาก หมอเลยเอาเลือดของชาวญี่ปุ่นมาให้ฉันนะซี ” แสง : ………….?แก่มนุษย์ มนุษย์จึงพยายามค้นคว้าพัฒนาความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยียิ่งขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง จึงมีผลทำให้ความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นไปอย่างรวดเร็ว และมนุษย์เองก็ต้องติดตามความก้าวหน้าของวิทยาการให้ทัน พร้อมทั้งปรับตัวและยอมรับความสำคัญของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเหล่านี้ด้วย การที่นักวิทยาศาสตร์จะค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ได้นั้นต้องกระทำอย่างมีระบบระเบียบด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ดังนั้นการพัฒนาเยาวชนให้มีทักษะกระบวนการทางวิทาศาสตร์จึงเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญยิ่ง เพื่อเยาวชนจะได้เป็นผู้มีความรู้ความสามารถในการเสาะแสวงหาความรู้ การแก้ปัญหาอย่างมีหลักการ เพื่อคิดประดิษฐ์สิ่งของใหม่ ๆ ให้มีคุณภาพดีกว่าเดิมอยู่เสมอ โครงการมาสนุกกับวิทยาศาสตร์เป็นการส่งเสริมให้นักเรียนใช้ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และสามารถนำความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาประดิษฐ์สิ่งต่าง ๆ รวมทั้งให้เกิดเจตนคติทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานในการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ต่อไปอย่างมีระบบระเบียบด้วยทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 2. วัตถุประสงค์2.1 เพื่อให้นักเรียนรู้จักใช้ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการประดิษฐ์สิ่งต่าง ๆ2.2 เพื่อให้นักเรียนรู้จักเป็นนักคิด นักประดิษฐ์ ค้นคว้า ทดลอง ด้วยตนเอง2.3 เพื่อฝึกนิสัยรักการอ่าน2.4 เพื่อให้นักเรียนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์3. เป้าหมาย ได้ผลงานของนักเรียนที่ชนะการประกวดโดยแบ่งเป็นกลุ่มระดับประถมศึกษาปีที่ 1 – 3กลุ่มระดับประถมศึกษาปีที่ 4 – 6 และกลุ่มระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3 กลุ่มละ 3 รางวัล4. ระยะเวลา เป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2550 ถึงวันที่ 28 กันยายน 2550 เล่านิทานสัปดาห์ละ 2 วัน คือ วันจันทร์และวันพุธ ระหว่างเวลา 12.00 – 13.00 น.5. สถานที่ ห้องโครงงานวิทยาศาสตร์ของโรงเรียน หรือห้องสมุดโรงเรียน 6. ผู้รับผิดชอบโครงการ ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ครูบรรณารักษ์ของห้องสมุดโรงเรียน 7. ขั้นตอนการดำเนินงาน7.1 เสนอขออนุมัติโครงการ7.2 ขอความร่วมมือจากครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เพื่อเป็นกรรมการตัดสิน และขอความคิดเห็นในการดำเนินงาน7.3 ประชาสัมพันธ์ให้นักเรียนทุกระดับทุกคนทราบเพื่อส่งผลงานเข้าประกวด7.4 จัดโครงการมาสนุกกับวิทยาศาสตร์ โดยมีรายละเอียดดังนี้7.4.1 บรรณรักษ์คัดเลือกหนังสือนิทาน และหนังสือที่จะส่งเสริมให้เด็กเป็น นักคิด นักทดลอง และนักประดิษฐ์สิ่งต่าง ๆ เช่น รถไม้ของขวัญ กระดาษเจาะรุ ซำเหมารัก วิทยาศาสตร์ หนังสือชุดทดลอง คิด ประดิษฐ์สนุก ฯลฯ นำหนังสือเหล่านี้จัดนิทรรศการ พร้อมของตัวอย่างเพื่อให้เด็กสนใจ7.4.2 จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ให้นักเรียนฟังนิทานและส่งผลงานเข้าประกวด เพื่อชิงรางวัล โดยแบ่งนักเรียนเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มระดับประถมศึกษาปีที่ 1 – 3 กลุ่มระดับประถมศึกษาปีที่ 4 – 6 และกลุ่มระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3 7.4.3 จัดเตรียมแผ่นซีดี เกี่ยวกับการทดลองหรือประดิษฐ์สิ่งของทางด้าน วิทยาศาสตร์เพื่อฉายให้นักเรียนดู 7.4.4 นำหนังสือบางเล่มที่จัดนิทรรศการเล่าให้เด็กฟัง และแนะนำหนังสือ เล่มอื่น ๆ ด้วย เพื่อส่งเสริมให้เด็กอ่านหนังสือ และเกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 7.5 ประกาศผลและมอบรางวัล7.6 ประเมิลผล สรุป และรายงานผล 8. งบประมาณ ได้จากเงินบำรุงการศึกษา หรือเงินอื่น ๆ ประมาณ 3,000 บาท ใช้เป็นค่ารางวัลและ การประชาสัมพันธ์ โดยกำหนดรางวัลดังนี้ - กลุ่มระดับประถมศึกษาปีที่ 1–3 รางวัลที่ 1 500 บาท รางวัลที่ 2 300 บาท รางวัลที่ 3 100 บาท - กลุ่มระดับประถมศึกษาปีที่ 4–6 รางวัลที่1 500 บาทคุณครูคะ
การเขียน blog ถ้าคุณครูคิดว่าเป็นงานที่ต้องใช้เวลา คุณครูอาจจะใช้วิธีเขียนทั้งหมดไว้ แล้วนำลง
ที่ละตอน เหมือนเป็นเรื่องสั้น เช่นข้อเขียนนี้อาจจะแยกได้เป็น 3 ตอน เพิ่มหัวเรื่อง
และขมวดท้ายไว้ให้อยากติดตาม
ไม่แน่นะคะ คุณครูอาจจะพบว่าตนเองกลายเป็นนักเขียนจนได้ ศน.ประวีณา ยังเก่งขึ้นอย่างมห้ศจรรย์เลยค่ะ