ไม่รู้อะไรกันนักหนา..ผมหลงรักสะพานไม้เป็นชีวิตจิตใจ รักและหลงรักราวกับชายหนุ่มต้องมนต์เสน่ห์ของหญิงสาวคนรักผู้เป็นยิ่งกว่าชีวิตของตนเอง
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ล่าสุดเมื่อวานนี้ที่เดินทางไปราชการประสานงานการลงพื้นที่ของนิสิตที่บ้านแกดำ หมู่ที่ 1 (เทศบาลตำบลแกดำ อ.แกดำ จ.มหาสารคาม) มีโอกาสยลโฉมสะพานไม้ที่ทอดตัวอย่างทระนงจากฟากหนึ่งไปสู่อีกฟากหนึ่งของหนองน้ำแกดำที่น่าจะมีความยาวราว ๆ เกือบ 1 กิโลเมตร</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p> </p><p>จากปากคำของผู้เล่าในห้วงสั้น ๆ ผมรับรู้ได้อย่างผิวเผยว่าสะพานไม้นี้น่าจะมีความยาวที่สุดในบรรดาสะพานไม้ที่พบในจังหวัดมหาสารคาม อีกทั้งยังน่าจะมีอายุเก่าแก่ยาวนานไม่ต่ำกว่า 20 กว่าปี หรืออาจจะมากกว่านั้นเป็นเท่าตัว !</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">สะพานไม้ดูขรึมขลัง ซ่อนแฝงความอบอุ่นและอ่อนโยนราวกับชายชราผู้เอื้ออาทรต่อบุตรหลาน ..แข็งแรงและสง่างามอย่างน่าประทับใจ !</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมพยายามเลียบ ๆ เคียง ๆ ถามซ้ำถึงที่มาที่ไป กระนั้นก็ยังไม่มีใครบอกกล่าวเล่าแจ้งถึงการเกิดขึ้นของสะพานไม้นี้ได้อย่างชัดเจน หากแต่ยืนยันกับผมว่าทันทีที่คณะนิสิตลงสู่พื้นที่ ปากคำประวัติศาสตร์ในเรื่องของสะพานก็จะแจ่มชัดขึ้นอย่างแน่นอน</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p> </p><p>อย่างไรก็ดี, ผมก็พอรู้มาบ้างว่าสะพานนี้เชื่อมระหว่างชุมชนบ้านแกดำกับบ้านเขวาที่อยู่อีกฟากฝั่งหนึ่งของหนองน้ำแกดำ (ระยะหลังเรียกอ่างเก็บน้ำแกดำ) สร้างขึ้นโดยอดีตนักการเมืองรุ่นเก่าแก่ที่ครั้งหนึ่งเคยมีชีวิตอยู่ในละแวกนี้ </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">สะพานไม้ได้ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อเป็นเส้นทางสัญจรที่เชื่อมโยงให้คนสองฟากฝั่งได้ผูกพันและไปมาหาสู่กันอย่างสนิทชิดเชื้อ .. จากรุ่นสู่รุ่น จากวันสู่วัน จากเดือนสู่เดือนและจากปีสู่ปีอย่างไม่ลบเลือน</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">วันนั้นในห้วงเวลาสั้น ๆ ผมไม่ลังเลที่จะก้าวเดินไปตามแผ่นพื้นไม้กระดานที่ทอดกายเรียงรายรองรับวิถีสัญจรอันยาวเหยียด บางแผ่นยังคงชิดติดแน่น บางแผ่นแหว่งโหว่สุ่มเสี่ยงต่อการพลัดตกลงสู่ห้วงน้ำ ขณะที่เสาสะพานที่เป็นท่อนไม้ต่างขนาดก็ยังคงปักดิ่งลงสู่ท้องน้ำเรียงรางเป็นทิวแถวยาว ….บ้างมั่นคงแน่นหนา บ้างโยกไหวโอนเอน …</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p>ผมยืนนิ่งซึมซับในวิถีนิ่งสงบของท้องน้ำและสะพานอันขรึมขลังอย่างมีความสุข ลมแล้งอันเบาสบายพัดพาความเย็นชื้นมาเยือนอย่างไม่ขาดห้วง ผมเหลือบเห็นนกน้ำหลายตัวบินโฉบร่อนลงกลางแพผืนของผักตบชวา หมู่ปลาตัวน้อยแวกว่ายในน้ำใสอย่างน่าเอ็นดู ….ขณะที่ผู้คนจำนวนหนึ่งกำลังสัญจรผ่านไปมาบนสะพานไม้อย่างมีความสุข … </p><p> </p><p> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมหลงรักสะพานไม้อันสง่างามนี้ยิ่งนัก รักและหลงรักอย่างไม่ลังเลถึงเหตุและผล….</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ไม่นานนักหรอกที่ผมจะไปเยือนที่นี่อีกครั้ง… พร้อมกับใช้เวลาอันมากมายเพื่อให้หัวใจของตนเองได้มีเสรีต่อการสัญจรไปบนบนสะพานทีละก้าว ทีก้าว… </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">รวมถึงการพลิกย้อนไปสู่ต้นตำนานการก่อเกิดของสะพานแห่งนี้ร่วมกับชาวบ้านอย่างเป็นทางการอีกสักครั้ง</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>
อาจารย์ครับ ภาพถ่ายงดงามมาก เห้นแล้วขอฝากไฮกุแบบบ้าน ๆสักบทครับ
ฟ้าทักทายบึงน้ำ
สะพานทอดยาวใกล้สู่ไกล
คิดถึงอยากวิ่งเล่นเย็นใจ
มาเยี่ยม...
ถอดเสื้อผ้า...ยืนบนสะพาน...กระโดดลงน้ำนิ่ง...ใส...เย็นกาย...พาเย็นใจ...ในจินตนาการ...ฮา ๆ เอิก ๆ
เหอ ๆ กลอนเปล่าของอาจารย์ uni เห็นภาพจริง
ออตเห็นแบบภาพโป๊แต่น่ารักของเด็ก ๆ ด้วย(ในจินตนาการ)
อยากโดดน้ำกุดจัง ร้อนจริง ๆ
สวัสดีครับ คุณออต
ไม่ธรรมดาเลยครับบทกวีไฮกุบทนี้...ส่วนผมไม่ถนัดและสันทัดเลยนะไฮกุ...
สะพานไม้นิ่งสงบ
สายลมเอ่ยทัก เช้าค่ำ
ท้องน้ำระบำเพลงรื่นรมย์
เรื่องราวของ "แผ่นดิน" ยังชวนไห้ติดตามและน่าสนใจเสมอ......
สวัสดีครับพี่..นัส..ผมไม่มีเวลาและโอกาสได้ใช้ชีวิตแบบที่เคยทำเลย..ครับแบบว่าเล่นเน็ต..เล่นกีฬาตอนเย็น..อยู่กับตัวเองนานๆ..คิดถึง มมส.มากครับคิดถึงพี่ๆ...ผองเพื่อน..คิดถึงตลาดน้อย..อยู่กรุงเทพฯมันสอนผมให้รู้.ฯลฯ..หลายอย่าง..ผมใช้เวลาที่ทำงาน10 ชั่วโมงอยู่บนถนน 2ชั่วโมงครึ่ง..ที่เหลืออยู่ที่พัก..แถวรามอินทราที่ทำงานอยู่บางปะอินครับ...
ถ้ามีโอกาสจะแวะเวียนมาบล็อกบ่อยๆครับ
ศรัทธา
เชือมั่น
ตอนเด็กๆผมกลัวสะพานไม้ครับ คือกลัวตกลงไป
แต่ในรูปน้ำก็ใส สะพานก็ไม่สูง ตกลงไปอาจจะได้เล่นน้ำสนุกๆ ไม่น่ากลัว :-)
สวัสดีครับ
ไม่มีช่วงใดในชีวิตจะเล่นน้ำได้อย่างสนุกสุดเหวี่ยงได้เท่ากับช่วงที่เราเป็นเด็ก ๆ ....(เล่นจนตาแดง - เล่นจนแม่ถือไม้เรียวมาไล่)
ฮา ๆ เอิก ๆ ....
ขอบพระคุณครับ
คุณแผ่นดินคะ
มองเห็นความเหงาบนความงดงามของสะพาน
ถ้าเห็นภาพแบบกว้างหรือ 360 องศา ไม่แน่ใจว่าความเหงาจะวิ่งเข้ามารุมเร้าอยู่รอบ ๆ ตัวเพิ่มขึ้นหรือไม่.....
ราตรีสวัสดิ์และอรุณสวัสดิ์ค่ะ
ช่วงฝึกงานในเมืองใหญ่...จะเป็นช่วงที่ชีวิตได้เรียนรู้การเติบโตของชีวิตอย่างจริงจัง ที่ตรงนั่น เหมือนโลกแห่งความจริงของการขับเคี่ยวชีวิตและความฝัน
ขอให้มีความสุข,และมีพลังในการใช้ชีวิต - เรียนรู้ชีวิตนะครับ...
หอมกลิ่นความฝัน...
ที่นี่สะพานไม่สูง..."น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา"...บรรยากาศดีมากครับ เป็นแหล่งน้ำของชุมชนและชุมชนช่วยกันดูแลได้เป็นอย่างดี
ขอบคุณครับ,....แวะมาเล่นน้ำที่นี่บ้างนะครับ
คุณสมพรครับ
กลิ่นอายของความเหงา...จะช่วยให้เราได้เห็นคุณค่าของความรื่นเริงของชีวิต
แต่ก็จริงดังว่านะครับ..บนความสวยงามนั้น ดูเหมือนจะมีความเปลี่ยวเหงาซุกซ่อนอยู่อย่างเงียบ ๆ
....
เป็นหญิงสาวแห่งความเหงาหรือเปล่าน้อ....
....
หลับให้สบายและฝันดี นะครับ
|
เมื่อสักครู่ผมแวะไปที่บันทึกของคุณอุบล...ภาพบ้านที่มีชีวิตและความรักของผู้คนในบ้าน..อ่านและดูแล้วอบอุ่น..คิดถึงบ้านเป็นยิ่งนัก
ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะคุณแผ่นดิน
ภาพหนึ่งภาพแทนคำนับพัน..สะพานไม้ท่านผู้เฒ่า..มีสิ่งใดจะบอกเล่าต่อลูกหลาน..
ขอบคุณที่ทำให้จินตนาการของเบิร์ดเพริศแพร้วขึ้นอีกครั้ง..^ ^
คะดูรูปแล้ว สวยจริงๆคะ เป็นสะพานยาวมากเลยนะคะ
เวลาเดินน่าจะได้พักกลางทาง สำรวจนกน้ำ ด้วย
น่าจะเยอะ....ถ้าเป็นภาพสีน้ำนี่ก็สวยนะ
ชอบสะพานไม้ด้วยคะ ชอบสะพานไม้ที่หาดสะกอม ทางที่นั่งรถผ่านจากปัตตานี
ไ ปสงขลา คะ ไม่รู้ตอนนี้อยู่มั้ย
แบบว่า จะติดตาเลย เวลานั่งรถผ่านจะมอง
แบบจนลับตา และมองทุกครั้ง
ที่ผ่าน ไปทางนั้น
อ. มัทนา |
เอาไว้นุ้ยลงพื้นที่ไปเยี่ยมค่ายกับพี่แล้วกัน จะได้ไปบันทึกภาพมาเก็บไว้...
ที่นั่นงดงามจริง ๆ เลยนะ..ขอบอก..ขอบอก
ได้อ่านบันทึกของคุณแผ่นดินแล้วทำให้ดิฉันเกิดความรู้สึกว่า...บางครั้งคนเราอาจจะหลงรักอะไรบางอย่าง...อย่างหัวปักหัวปำ ดดยไม่เหตุผลด้วยซ้ำไป...ประทับใจในบันทึกนี้ค่ะ
แล้วมีโอกาสจะแลกเปลี่ยนบ้างนะ...ว่าดิฉันหลงรักอะไร ?
สะพานโค้งที่ทอดยาว...ถูกครอบด้วยท้องฟ้ากว้างไกล...ความเขียวของต้นไม้...อีกผืนน้ำที่ฉ่ำเย็น...ไม่แปลกใจเลยถ้าได้เดินอยู่บนสะพานแล้วจะไม่หลงใหล.....หากเดินไปอยู่กลางสะพานแล้วมองย้อนกลับมาเหมือนมองอดีตที่ผ่านไปอาจได้แง่คิดที่หลากหลายเพื่อที่จะก้าวต่อไปอย่างมั่นคง.....ขอบคุณภาพที่สวยงามมากๆค่ะ...เป็นกำลังใจให้มีพลังที่จะเดินต่อไปนะคะ
ลมพัดเย็น...โชย
นิ่ง...อยู่ในอารมณ์
ภาพ...ที่ทอดอยู่เบื้องหน้า
บ่งบอก...ความงดงาม...ในจิตใจ
(^_____^)
แวะมาทิ้งรอยค่ะ
กะปุ๋ม
คุณแดนไท...
ชีวิตคนเราเปราะบางต่อความโศกเศร้าเสมอ คำปลอบโยนใด ๆ ก็ไม่เทียบเท่ากับคำปลอบโยนจากตัวเราเอง
สะพานเสื่อมโทรมไปตามเวลา แต่ความรู้สึกของคนเราจากวันนั้นถึงวันนี้....ไม่เคยเปลี่ยนรูป เพียงแต่สงบและนิ่งเงียบขึ้นกว่าแต่ก่อน
วันเวลาพัดผ่านเลยไป....ความรู้สึกเหล่านั้นไม่ได้ล่องไหลไปกับสายลม หากแต่สงบและนิ่งขึ้น
แต่ชีวิตแต่ละวัน มีอะไรที่ต้องแบกรับอยู่อย่างมหาศาล ..จนดูเหมือนเรามีลมหายใจอยู่เพื่อคนอื่นไปแล้ว
.....
เหมือนเดิม......
เห็นสพานทอดยาว
เห็นน้ำใสๆ
แล้วชวนให้อดนึกถึงเพลง บัวขาว ที่ชอบฟังอยู่บ่อยๆค่ะ เป็นเพลงที่ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล ได้ทรงนิพนธ์เพลง เพลงบัวขาว ไว้เพื่อประกอบละครเรื่อง ถ่านไฟเก่า ที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นมาเอง และทรงได้นิพลธ์เพลง บัวขาวนี้ขึ้นมาค่ะ เพราะมากๆค่ะ
เห็นด้วยครับกับคำกล่าว "ภาพหนึ่งภาพมีค่าเท่ากับคำพูดหนึ่งพันคำ" (one picture is worth a thousand words)
...
ขอให้ชีวิตเต็มไปด้วยชีวิตชีวา เสมอไปนะครับ
ขออภัยที่เกเรตอบบันทึกช้าไปมาก...
เมื่อวานเจอพิษความอ่อนล้ากระหน่ำอย่างไม่ยั้งมือ เลยต้องสลบ ..โรยแรง และบอบช้ำ..
....
เป็นไงครับ คุณแดนไทเป็นยังไงบ้าง..รู้สึกจะงอนเพราะอิจฉาสะพานกระมัง,
...
ขอบคุณครับ
ช่วงนี้งานรัดตัวมากเลยครับ...ทั้งงานบริหารและงานประจำ...(ช่างไม่มีปิดเรียนเลยนะงาน)
....
น่าเสียดายนะครับสำหรับกำไลที่หล่นน้ำไป..แต่ยังดีที่ความทรงจำนั้นยังแจ่มชัด...ไม่มีใครเอาความทรงจำไปจากเราได้...
....
สะพานส่งคนข้ามฝั่ง....เราเป็นเหมือนสะพานที่ยังต้องส่งคนข้ามฝั่งไปอีกนาน
...
รักและเคารพ....
ขอบคุณครับ
ทุกครั้งที่ผมเดินทางและพานพบสะพานไม่ว่าจะเป็นไม้ หรือคอนกรีต ผมก็จะชอบและเพ่งมองเสมอ บางทีขับรถไปยังจอดนิ่งบนสะพานหน้าตาเฉยเลยนะครับ
ผมรักสายน้ำและสะพาน...
ขอบคุณนะครับที่แวะมาทักทายและให้กำลังใจ
อากาศที่นั่นดีมาก...เป็นหนองน้ำที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน คลื่นน้ำและแรงลมโชยพัดอยู่ไม่ขาดสาย
ถ้ามีโอกาสถ่ายภาพสะพานไม้ที่สกลนครมาฝากด้วยนะครับ
....
เป็นกำลังใจให้ในการทำงานและการใช้ชีวิต ครับ.
ถ้อยคำของอาจารย์, ผมร้องเป็นเพลงในใจ...ได้ความรู้สึกที่ดีมากครับ...
ช่วงนี้คงเริ่ม ๆ มีเวลามากขึ้นแล้วใช่ไหมครับ...
......
ขอบคุณครับ..
ขอบคุณมากครับ
เรามีความสุขกับหลายเรื่องในชีวิตที่ไม่ต้องชี้วัดด้วยเหตุและผล...
ผมรอแลกเปลี่ยนเรื่องราวที่คุณศุภลักษณ์...หลงรักนะครับ
สวัสดีครับ คุณโก๊ะ (มิ่งมิตรที่ผมไม่เคยกังขาในมิตรภาพ)
สะพานโค้งที่ทอดยาว...ถูกครอบด้วยท้องฟ้ากว้างไกล...ความเขียวของต้นไม้...อีกผืนน้ำที่ฉ่ำเย็น...
หากเดินไปอยู่กลางสะพานแล้วมองย้อนกลับมาเหมือนมองอดีตที่ผ่านไปอาจได้แง่คิดที่หลากหลายเพื่อที่จะก้าวต่อไปอย่างมั่นคง.
....
ขออนุญาตที่จะไม่เอ่ยคำใด แต่ผมประทับใจกับถ้อยคำเหล่านี้เป็นที่สุด....
...
ฝันดี และตื่นมามีวันที่ดี นะครับ
ลมพัดเย็น...โชย
นิ่ง...อยู่ในอารมณ์
ภาพ...ที่ทอดอยู่เบื้องหน้า
บ่งบอก...ความงดงาม...ในจิตใจ
....
ข้อความข้างต้นมีกลิ่นอายปรัชญาในแบบฉบับของคุณกะปุ๋มจากง่ายงาม..ดีใจนะครับ ที่แวะมาทักทายในบันทึกของผม
....
ธรรมชาติ เป็นบ่อเกิดของปรัชญาที่ยิ่งใหญ่เสมอ ใช่ไหมครับ
น้องกุ้งน้ำแดง...
ขอบใจมากครับที่แวะมาทักทาย และไม่เบาเลยนะรู้จักนำเอาความรู้ที่ได้จากการร้องเพลงในวงคอรัสของมหาวิทยาลัยมาแลกเปลี่ยนในบันทึกของพี่
เก่งครับเก่ง...เป็นกำลังใจให้
สวัสดียามดึกครับคุณ แผ่นดิน
ไม่ได้เห็นบรรยายกาศที่งดงามแบบนี้มานานแล้วครับ
ขอบคุณที่นำภาพสวยๆมาฝากครับ
เขาเรียกว่า "ขัว" ครับ เชื่อมต่อระหว่าง บ้านแกดำ กับบ้านหัวขัว รู้สึกว่าน่าจะมีมานานหลายปีแล้ว(หลายชั่วอายุคนแล้ว) สมัยตอนเด็กๆ ชอบไปเล่นน้ำกัน ข้ามฝากไปจีบสาวมั่ง ไปเที่ยวงานมั่ง พูดแล้วคิดถึงบ้านครับ
สวัสดีครับ คุณนาวี
ขอบคุณที่แวะมาเติมรายละเอียดให้ชัดเจนยิ่งขึ้นนะครับ
ผมชื่นชอบที่ชาวบ้านยังคงเห็นความสำคัญของสะพานไม้ และจริงจังที่จะดูแลและร่วมใช้ประโยชน์อย่างรู้ค่า
ทุกวันนี้.
ผมไม่ใคร่แน่ใจนักว่า จะมีสะพานไม้ที่ทอดข้ามแหล่งน้เชื่อมโยงระหว่างหมู่บ้านกันกี่มากน้อย ถึงมี ก็คงไม่น้อยเลยทีเดียวที่แปรสภาพจากไม้ไปเป็นสะพานเหล็ก สะพานปูนโน่นเลย
ขอบคุณครับ.
มีเวลาอย่าลืมกลับบ้านนะครับ.