สะพานไม้.. สะพานที่ผมหลงรักอย่างไม่ลังเล


สะพานไม้ดูขรึมขลัง ซ่อนแฝงความอบอุ่นและอ่อนโยนราวกับชายชราผู้เอื้ออาทรต่อบุตรหลาน

ไม่รู้อะไรกันนักหนา..ผมหลงรักสะพานไม้เป็นชีวิตจิตใจ  รักและหลงรักราวกับชายหนุ่มต้องมนต์เสน่ห์ของหญิงสาวคนรักผู้เป็นยิ่งกว่าชีวิตของตนเอง

  <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ล่าสุดเมื่อวานนี้ที่เดินทางไปราชการประสานงานการลงพื้นที่ของนิสิตที่บ้านแกดำ  หมู่ที่  1  (เทศบาลตำบลแกดำ  อ.แกดำ  จ.มหาสารคาม)  มีโอกาสยลโฉมสะพานไม้ที่ทอดตัวอย่างทระนงจากฟากหนึ่งไปสู่อีกฟากหนึ่งของหนองน้ำแกดำที่น่าจะมีความยาวราว ๆ เกือบ  1 กิโลเมตร</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p>    </p><p>จากปากคำของผู้เล่าในห้วงสั้น ๆ  ผมรับรู้ได้อย่างผิวเผยว่าสะพานไม้นี้น่าจะมีความยาวที่สุดในบรรดาสะพานไม้ที่พบในจังหวัดมหาสารคาม  อีกทั้งยังน่าจะมีอายุเก่าแก่ยาวนานไม่ต่ำกว่า  20  กว่าปี  หรืออาจจะมากกว่านั้นเป็นเท่าตัว !</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>   <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">สะพานไม้ดูขรึมขลัง  ซ่อนแฝงความอบอุ่นและอ่อนโยนราวกับชายชราผู้เอื้ออาทรต่อบุตรหลาน  ..แข็งแรงและสง่างามอย่างน่าประทับใจ !</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>  <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมพยายามเลียบ ๆ เคียง ๆ  ถามซ้ำถึงที่มาที่ไป  กระนั้นก็ยังไม่มีใครบอกกล่าวเล่าแจ้งถึงการเกิดขึ้นของสะพานไม้นี้ได้อย่างชัดเจน   หากแต่ยืนยันกับผมว่าทันทีที่คณะนิสิตลงสู่พื้นที่   ปากคำประวัติศาสตร์ในเรื่องของสะพานก็จะแจ่มชัดขึ้นอย่างแน่นอน</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p>    </p><p>อย่างไรก็ดี,  ผมก็พอรู้มาบ้างว่าสะพานนี้เชื่อมระหว่างชุมชนบ้านแกดำกับบ้านเขวาที่อยู่อีกฟากฝั่งหนึ่งของหนองน้ำแกดำ  (ระยะหลังเรียกอ่างเก็บน้ำแกดำ)  สร้างขึ้นโดยอดีตนักการเมืองรุ่นเก่าแก่ที่ครั้งหนึ่งเคยมีชีวิตอยู่ในละแวกนี้  </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>  <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">สะพานไม้ได้ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อเป็นเส้นทางสัญจรที่เชื่อมโยงให้คนสองฟากฝั่งได้ผูกพันและไปมาหาสู่กันอย่างสนิทชิดเชื้อ  .. จากรุ่นสู่รุ่น  จากวันสู่วัน  จากเดือนสู่เดือนและจากปีสู่ปีอย่างไม่ลบเลือน</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>   <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">วันนั้นในห้วงเวลาสั้น ๆ  ผมไม่ลังเลที่จะก้าวเดินไปตามแผ่นพื้นไม้กระดานที่ทอดกายเรียงรายรองรับวิถีสัญจรอันยาวเหยียด   บางแผ่นยังคงชิดติดแน่น  บางแผ่นแหว่งโหว่สุ่มเสี่ยงต่อการพลัดตกลงสู่ห้วงน้ำ  ขณะที่เสาสะพานที่เป็นท่อนไม้ต่างขนาดก็ยังคงปักดิ่งลงสู่ท้องน้ำเรียงรางเป็นทิวแถวยาว  ….บ้างมั่นคงแน่นหนา   บ้างโยกไหวโอนเอน …</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p>ผมยืนนิ่งซึมซับในวิถีนิ่งสงบของท้องน้ำและสะพานอันขรึมขลังอย่างมีความสุข  ลมแล้งอันเบาสบายพัดพาความเย็นชื้นมาเยือนอย่างไม่ขาดห้วง  ผมเหลือบเห็นนกน้ำหลายตัวบินโฉบร่อนลงกลางแพผืนของผักตบชวา  หมู่ปลาตัวน้อยแวกว่ายในน้ำใสอย่างน่าเอ็นดู  ….ขณะที่ผู้คนจำนวนหนึ่งกำลังสัญจรผ่านไปมาบนสะพานไม้อย่างมีความสุข … </p><p>    </p><p> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมหลงรักสะพานไม้อันสง่างามนี้ยิ่งนัก   รักและหลงรักอย่างไม่ลังเลถึงเหตุและผล….</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ไม่นานนักหรอกที่ผมจะไปเยือนที่นี่อีกครั้ง   พร้อมกับใช้เวลาอันมากมายเพื่อให้หัวใจของตนเองได้มีเสรีต่อการสัญจรไปบนบนสะพานทีละก้าว ทีก้าว  </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">รวมถึงการพลิกย้อนไปสู่ต้นตำนานการก่อเกิดของสะพานแห่งนี้ร่วมกับชาวบ้านอย่างเป็นทางการอีกสักครั้ง</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>   <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> 

หมายเลขบันทึก: 87186เขียนเมื่อ 28 มีนาคม 2007 22:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:54 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (46)

อาจารย์ครับ ภาพถ่ายงดงามมาก เห้นแล้วขอฝากไฮกุแบบบ้าน ๆสักบทครับ

ฟ้าทักทายบึงน้ำ

สะพานทอดยาวใกล้สู่ไกล

คิดถึงอยากวิ่งเล่นเย็นใจ

มาเยี่ยม...

ถอดเสื้อผ้า...ยืนบนสะพาน...กระโดดลงน้ำนิ่ง...ใส...เย็นกาย...พาเย็นใจ...ในจินตนาการ...ฮา ๆ เอิก ๆ

เหอ ๆ กลอนเปล่าของอาจารย์ uni เห็นภาพจริง

ออตเห็นแบบภาพโป๊แต่น่ารักของเด็ก ๆ ด้วย(ในจินตนาการ)

อยากโดดน้ำกุดจัง ร้อนจริง ๆ

สวัสดีครับ คุณออต

P

ไม่ธรรมดาเลยครับบทกวีไฮกุบทนี้...ส่วนผมไม่ถนัดและสันทัดเลยนะไฮกุ...

 

สะพานไม้นิ่งสงบ

สายลมเอ่ยทัก  เช้าค่ำ

ท้องน้ำระบำเพลงรื่นรมย์

 

เรื่องราวของ "แผ่นดิน" ยังชวนไห้ติดตามและน่าสนใจเสมอ......

สวัสดีครับพี่..นัส..ผมไม่มีเวลาและโอกาสได้ใช้ชีวิตแบบที่เคยทำเลย..ครับแบบว่าเล่นเน็ต..เล่นกีฬาตอนเย็น..อยู่กับตัวเองนานๆ..คิดถึง มมส.มากครับคิดถึงพี่ๆ...ผองเพื่อน..คิดถึงตลาดน้อย..อยู่กรุงเทพฯมันสอนผมให้รู้.ฯลฯ..หลายอย่าง..ผมใช้เวลาที่ทำงาน10 ชั่วโมงอยู่บนถนน 2ชั่วโมงครึ่ง..ที่เหลืออยู่ที่พัก..แถวรามอินทราที่ทำงานอยู่บางปะอินครับ...

ถ้ามีโอกาสจะแวะเวียนมาบล็อกบ่อยๆครับ

ศรัทธา

            เชือมั่น

ตอนเด็กๆผมกลัวสะพานไม้ครับ คือกลัวตกลงไป

แต่ในรูปน้ำก็ใส สะพานก็ไม่สูง ตกลงไปอาจจะได้เล่นน้ำสนุกๆ ไม่น่ากลัว :-) 

สวัสดีครับ

P
umi

ไม่มีช่วงใดในชีวิตจะเล่นน้ำได้อย่างสนุกสุดเหวี่ยงได้เท่ากับช่วงที่เราเป็นเด็ก ๆ ....(เล่นจนตาแดง - เล่นจนแม่ถือไม้เรียวมาไล่)

ฮา ๆ เอิก ๆ ....

ขอบพระคุณครับ

คุณออตครับ
P
..ท่านอาจารย์ umi  ท่าเป็นคนสุนทรีย์อยู่แล้ว  เรื่องชั้นเชิงโคลงกลอนหาตัวจับยากนักแล...นึก ๆ แล้วก็คิดถึงสุนทรภู่นะครับ   "น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา  แหวกว่ายปทุมมาอยู่ไหว ๆ"

คุณแผ่นดินคะ

มองเห็นความเหงาบนความงดงามของสะพาน

ถ้าเห็นภาพแบบกว้างหรือ 360 องศา ไม่แน่ใจว่าความเหงาจะวิ่งเข้ามารุมเร้าอยู่รอบ ๆ ตัวเพิ่มขึ้นหรือไม่.....

ราตรีสวัสดิ์และอรุณสวัสดิ์ค่ะ

คิดถึงเช่นกันนะครับ...น้องสัญญา
P

ช่วงฝึกงานในเมืองใหญ่...จะเป็นช่วงที่ชีวิตได้เรียนรู้การเติบโตของชีวิตอย่างจริงจัง  ที่ตรงนั่น  เหมือนโลกแห่งความจริงของการขับเคี่ยวชีวิตและความฝัน

ขอให้มีความสุข,และมีพลังในการใช้ชีวิต - เรียนรู้ชีวิตนะครับ...

หอมกลิ่นความฝัน...

 

คุณวีร์ ครับ
P

ที่นี่สะพานไม่สูง..."น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา"...บรรยากาศดีมากครับ  เป็นแหล่งน้ำของชุมชนและชุมชนช่วยกันดูแลได้เป็นอย่างดี

ขอบคุณครับ,....แวะมาเล่นน้ำที่นี่บ้างนะครับ

คุณสมพรครับ

P

กลิ่นอายของความเหงา...จะช่วยให้เราได้เห็นคุณค่าของความรื่นเริงของชีวิต
แต่ก็จริงดังว่านะครับ..บนความสวยงามนั้น  ดูเหมือนจะมีความเปลี่ยวเหงาซุกซ่อนอยู่อย่างเงียบ ๆ
....
 เป็นหญิงสาวแห่งความเหงาหรือเปล่าน้อ....
....
หลับให้สบายและฝันดี    นะครับ
ขอบคุณมากครับที่กรุณามาแวะเยี่ยม
P

เมื่อสักครู่ผมแวะไปที่บันทึกของคุณอุบล...ภาพบ้านที่มีชีวิตและความรักของผู้คนในบ้าน..อ่านและดูแล้วอบอุ่น..คิดถึงบ้านเป็นยิ่งนัก 

ขอบคุณครับ

  • ขอบคุรนะคะที่แวะมาเยี่ยมบ้านของเราค่ะ
เป็นบ้านที่อบอุ่น น่ารัก และน่าอยู่มากครับ คุณอุบล
P
สะพานนี้มีเสน่ห์มากเลยค่ะ ภาพก็จัดวางองค์ประกอบดีมากค่ะ ขอบคุณนะคะที่นำมาฝาก
สวยจังเลยค่ะ อยากไปเก็บภาพเหล่านั้นด้วยมือของตัวเองจังเลยค่ะ สวยจริงๆ สวยมาก ชอบๆๆ ๆๆๆๆ
  • น่าอิฉาสะพานไม้นะ.....ที่ยังมีคนกล่าวชื่นชมและรักยิ่งกว่าชีวิต 
  • อยากเป็นสะพานจัง
  • รูปสะพานที่เห็นถ้าเป็นคนก็เป็นคนที่  น่าหลงไหลและแฝงไปด้วยความเศร้า  น่าค้นหา

สวัสดีค่ะคุณแผ่นดิน

ภาพหนึ่งภาพแทนคำนับพัน..สะพานไม้ท่านผู้เฒ่า..มีสิ่งใดจะบอกเล่าต่อลูกหลาน..

ขอบคุณที่ทำให้จินตนาการของเบิร์ดเพริศแพร้วขึ้นอีกครั้ง..^ ^

  • แหม - -เอาภาพมาลงแบบนี้ใครๆก็หลงรักค่ะ
  • โร-แมน-ติกเหลือเกินค่ะ
  • เอ..ว่าแต่ว่า แดนไทคือผู้ใดขอตัวไป -ตาม--ไป-ดูก่อนนะคะ
  • สะพานส่งคนข้ามฟาก
  • ครูบาอาจารย์ส่งนักเรียน นิสิต นักศึกษา ถึงฝั่ง
  • นั่นคือความคาดหวังและความฝันของเราค่ะ.......น้องแผ่นดิน
  • เห็นสะพานไม้นึกถึงตอนเด็ก กลัวมากเมือเดินข้ามสะพานไม้ที่หน้าบ้านซึ่งมีลักษณะคล้ายกันแต่เล็กและแคบกว่า นึกถึงสะพานเมื่อใดยังเสียดายกำไลอันงามซึ่งคุณแม่ซื้อให้ใส่ตอนเด็กไม่หาย ได้ตกหล่นสะพานเพราะคุณน้าไล่กวดและหยอกให้เราสั่นกลัวโดยเขย่าสะพาน (เสียดายจริง ๆ....นะ เนี๊ย.....ย)

คะดูรูปแล้ว สวยจริงๆคะ เป็นสะพานยาวมากเลยนะคะ

เวลาเดินน่าจะได้พักกลางทาง สำรวจนกน้ำ ด้วย

น่าจะเยอะ....ถ้าเป็นภาพสีน้ำนี่ก็สวยนะ

        ชอบสะพานไม้ด้วยคะ  ชอบสะพานไม้ที่หาดสะกอม ทางที่นั่งรถผ่านจากปัตตานี

ไ ปสงขลา คะ ไม่รู้ตอนนี้อยู่มั้ย

แบบว่า จะติดตาเลย เวลานั่งรถผ่านจะมอง

แบบจนลับตา และมองทุกครั้ง

ที่ผ่าน ไปทางนั้น 

  • ภาพสวยดีค่ะ
  • แถวบ้าน (สกลนคร) ก็มีสะพานไม้เหมือนกันค่ะ แต่ไม่ยาวขนาดนี้
  • ช่วงเย็นๆ น่าไปเดินเล่น ไม่ก็นั่งเล่น คงจะเย็นสบายดี.....
ยิ้ม..ยิ้ม... ยืนบนสะพานไม้นี้แล้วร้องเพลง นี้นะคะ ...กลับมาครานี้เพราะหัวใจมันขอมา ...ให้ตามหาความทรงจำ... .....ใจตัวเองให้มันชื่นฉ่ำ.. ...กับความทรงจำที่เคยมี... ...กลับมายืนที่เดิม...
สวัสดีครับ
P
อันที่จริงผมไม่ค่อยมีทักษะถ่ายรูปนัก  แต่ก็บันทึกภาพตามอำเภอใจของตัวเองเป็นหลัก...สำคัญคือสะพานมีเสน่ห์อยู่ในตัวอยู่แล้ว
ขอบคุณครับ
นั่นนะสิ,...
P

เอาไว้นุ้ยลงพื้นที่ไปเยี่ยมค่ายกับพี่แล้วกัน  จะได้ไปบันทึกภาพมาเก็บไว้...

ที่นั่นงดงามจริง ๆ เลยนะ..ขอบอก..ขอบอก

ได้อ่านบันทึกของคุณแผ่นดินแล้วทำให้ดิฉันเกิดความรู้สึกว่า...บางครั้งคนเราอาจจะหลงรักอะไรบางอย่าง...อย่างหัวปักหัวปำ ดดยไม่เหตุผลด้วยซ้ำไป...ประทับใจในบันทึกนี้ค่ะ

แล้วมีโอกาสจะแลกเปลี่ยนบ้างนะ...ว่าดิฉันหลงรักอะไร ?

สะพานโค้งที่ทอดยาว...ถูกครอบด้วยท้องฟ้ากว้างไกล...ความเขียวของต้นไม้...อีกผืนน้ำที่ฉ่ำเย็น...ไม่แปลกใจเลยถ้าได้เดินอยู่บนสะพานแล้วจะไม่หลงใหล.....หากเดินไปอยู่กลางสะพานแล้วมองย้อนกลับมาเหมือนมองอดีตที่ผ่านไปอาจได้แง่คิดที่หลากหลายเพื่อที่จะก้าวต่อไปอย่างมั่นคง.....ขอบคุณภาพที่สวยงามมากๆค่ะ...เป็นกำลังใจให้มีพลังที่จะเดินต่อไปนะคะ

ลมพัดเย็น...โชย

นิ่ง...อยู่ในอารมณ์

ภาพ...ที่ทอดอยู่เบื้องหน้า

บ่งบอก...ความงดงาม...ในจิตใจ

(^_____^)

แวะมาทิ้งรอยค่ะ

กะปุ๋ม

 

คุณแดนไท...

P

ชีวิตคนเราเปราะบางต่อความโศกเศร้าเสมอ  คำปลอบโยนใด ๆ  ก็ไม่เทียบเท่ากับคำปลอบโยนจากตัวเราเอง

สะพานเสื่อมโทรมไปตามเวลา  แต่ความรู้สึกของคนเราจากวันนั้นถึงวันนี้....ไม่เคยเปลี่ยนรูป  เพียงแต่สงบและนิ่งเงียบขึ้นกว่าแต่ก่อน

วันเวลาพัดผ่านเลยไป....ความรู้สึกเหล่านั้นไม่ได้ล่องไหลไปกับสายลม  หากแต่สงบและนิ่งขึ้น

แต่ชีวิตแต่ละวัน  มีอะไรที่ต้องแบกรับอยู่อย่างมหาศาล  ..จนดูเหมือนเรามีลมหายใจอยู่เพื่อคนอื่นไปแล้ว

.....

เหมือนเดิม......

 

เห็นสพานทอดยาว

เห็นน้ำใสๆ

แล้วชวนให้อดนึกถึงเพลง บัวขาว ที่ชอบฟังอยู่บ่อยๆค่ะ เป็นเพลงที่  พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล ได้ทรงนิพนธ์เพลง เพลงบัวขาว  ไว้เพื่อประกอบละครเรื่อง ถ่านไฟเก่า ที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นมาเอง และทรงได้นิพลธ์เพลง บัวขาวนี้ขึ้นมาค่ะ  เพราะมากๆค่ะ 

 เห็นบัวขาวพราวอยู่บึงใหญ่
ดอกใบบุปผชาติสะอาดตา
น้ำใสไหลกระเซ็นเห็นตัวปลา
ว่ายวนไปมาน่าเอ็นดู
หมู่ภุมรินหมุนบินเวียนว่อน
ลอยร่อนชมกลีบกลิ่นเกษร
พายเรือน้อยคล้อยเคลื่อนในสาคร
ค่อยพาจรห่างไปในกลางน้ำ
ขอบคุณครับ  คุณเบิร์ด
P

เห็นด้วยครับกับคำกล่าว "ภาพหนึ่งภาพมีค่าเท่ากับคำพูดหนึ่งพันคำ"  (one  picture  is  worth  a  thousand  words)

...

ขอให้ชีวิตเต็มไปด้วยชีวิตชีวา  เสมอไปนะครับ

สวัสดีครับ คุณพิชชา
P

ขออภัยที่เกเรตอบบันทึกช้าไปมาก...

เมื่อวานเจอพิษความอ่อนล้ากระหน่ำอย่างไม่ยั้งมือ เลยต้องสลบ ..โรยแรง  และบอบช้ำ..

....

เป็นไงครับ  คุณแดนไทเป็นยังไงบ้าง..รู้สึกจะงอนเพราะอิจฉาสะพานกระมัง, 

...

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับพี่อัมพร
P

ช่วงนี้งานรัดตัวมากเลยครับ...ทั้งงานบริหารและงานประจำ...(ช่างไม่มีปิดเรียนเลยนะงาน)

....

น่าเสียดายนะครับสำหรับกำไลที่หล่นน้ำไป..แต่ยังดีที่ความทรงจำนั้นยังแจ่มชัด...ไม่มีใครเอาความทรงจำไปจากเราได้...

....

สะพานส่งคนข้ามฝั่ง....เราเป็นเหมือนสะพานที่ยังต้องส่งคนข้ามฝั่งไปอีกนาน

...

รักและเคารพ....

ขอบคุณครับ

 

สวัสดีครับ 
P

ทุกครั้งที่ผมเดินทางและพานพบสะพานไม่ว่าจะเป็นไม้ หรือคอนกรีต  ผมก็จะชอบและเพ่งมองเสมอ  บางทีขับรถไปยังจอดนิ่งบนสะพานหน้าตาเฉยเลยนะครับ

ผมรักสายน้ำและสะพาน...

ขอบคุณนะครับที่แวะมาทักทายและให้กำลังใจ

 

น้องรินครับ
P
Rin

อากาศที่นั่นดีมาก...เป็นหนองน้ำที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน  คลื่นน้ำและแรงลมโชยพัดอยู่ไม่ขาดสาย

ถ้ามีโอกาสถ่ายภาพสะพานไม้ที่สกลนครมาฝากด้วยนะครับ

....

เป็นกำลังใจให้ในการทำงานและการใช้ชีวิต  ครับ.

สวัสดีครับ  อ.เมตตา
P

ถ้อยคำของอาจารย์, ผมร้องเป็นเพลงในใจ...ได้ความรู้สึกที่ดีมากครับ...

ช่วงนี้คงเริ่ม ๆ มีเวลามากขึ้นแล้วใช่ไหมครับ...

......  

ขอบคุณครับ..

ขอบคุณมากครับ

P

เรามีความสุขกับหลายเรื่องในชีวิตที่ไม่ต้องชี้วัดด้วยเหตุและผล...

ผมรอแลกเปลี่ยนเรื่องราวที่คุณศุภลักษณ์...หลงรักนะครับ

สวัสดีครับ  คุณโก๊ะ (มิ่งมิตรที่ผมไม่เคยกังขาในมิตรภาพ)

สะพานโค้งที่ทอดยาว...ถูกครอบด้วยท้องฟ้ากว้างไกล...ความเขียวของต้นไม้...อีกผืนน้ำที่ฉ่ำเย็น...

หากเดินไปอยู่กลางสะพานแล้วมองย้อนกลับมาเหมือนมองอดีตที่ผ่านไปอาจได้แง่คิดที่หลากหลายเพื่อที่จะก้าวต่อไปอย่างมั่นคง.

....

ขออนุญาตที่จะไม่เอ่ยคำใด  แต่ผมประทับใจกับถ้อยคำเหล่านี้เป็นที่สุด....

...

ฝันดี และตื่นมามีวันที่ดี  นะครับ

 

 

สวัสดีครับ
P

ลมพัดเย็น...โชย

นิ่ง...อยู่ในอารมณ์

ภาพ...ที่ทอดอยู่เบื้องหน้า

บ่งบอก...ความงดงาม...ในจิตใจ

....

ข้อความข้างต้นมีกลิ่นอายปรัชญาในแบบฉบับของคุณกะปุ๋มจากง่ายงาม..ดีใจนะครับ  ที่แวะมาทักทายในบันทึกของผม

....

ธรรมชาติ  เป็นบ่อเกิดของปรัชญาที่ยิ่งใหญ่เสมอ  ใช่ไหมครับ

น้องกุ้งน้ำแดง...

ขอบใจมากครับที่แวะมาทักทาย  และไม่เบาเลยนะรู้จักนำเอาความรู้ที่ได้จากการร้องเพลงในวงคอรัสของมหาวิทยาลัยมาแลกเปลี่ยนในบันทึกของพี่

เก่งครับเก่ง...เป็นกำลังใจให้

สวัสดียามดึกครับคุณ แผ่นดิน

ไม่ได้เห็นบรรยายกาศที่งดงามแบบนี้มานานแล้วครับ

  • คราวหน้าถ้าที่มีโอกาสช่วยจับภาพ     ยามเช้า.......พระอาทิตย์ดวงโตๆกำลังโพล่ขึ้นท้องฟ้า บนสพานมีพระอุ้มบาตรเดินเข้าแถวเรียงราย ทอดกายอยู่บนสะพานไม้มีลูกศิษย์ถือปิ่นโตต่อแถวด้วย.... ผมคิดว่านำภาพส่งเข้าประกวดได้เลยนะครับ
  • เมื่อก่อนเคยไปกับญาติธรรมหลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาละวัน โคราช  ขึ้นสะพานไม้ไต่ลัดเลี้ยวขึ้นภูทอก  แต่จำไม่ได้ว่าอยู่ในจังหวัดใดของภาคอีสาน เห็นสะพานไม้ของท่านทำให้อยากไปอีก

ขอบคุณที่นำภาพสวยๆมาฝากครับ

สวัสดีครับ..พี่สมนึก
P
  • ผมได้ฝากนิสิตไปบันทึกภาพช่วงเช้ามาเหมือนกัน  แต่ยังไม่เกิดผล
  • ผมไปค้างในหมู่บ้านแต่ตื่นสายเลยไปบันทึกภาพไม่ทัน
  • อยากให้ชุมชนให้ความสำคัญและร่วมกับดูแลบูรณะไว้สืบไป
  • ขอบคุณนะครับ

 

เขาเรียกว่า "ขัว" ครับ เชื่อมต่อระหว่าง บ้านแกดำ กับบ้านหัวขัว รู้สึกว่าน่าจะมีมานานหลายปีแล้ว(หลายชั่วอายุคนแล้ว) สมัยตอนเด็กๆ ชอบไปเล่นน้ำกัน ข้ามฝากไปจีบสาวมั่ง ไปเที่ยวงานมั่ง พูดแล้วคิดถึงบ้านครับ

สวัสดีครับ คุณนาวี

ขอบคุณที่แวะมาเติมรายละเอียดให้ชัดเจนยิ่งขึ้นนะครับ

ผมชื่นชอบที่ชาวบ้านยังคงเห็นความสำคัญของสะพานไม้  และจริงจังที่จะดูแลและร่วมใช้ประโยชน์อย่างรู้ค่า

ทุกวันนี้.
ผมไม่ใคร่แน่ใจนักว่า จะมีสะพานไม้ที่ทอดข้ามแหล่งน้เชื่อมโยงระหว่างหมู่บ้านกันกี่มากน้อย   ถึงมี  ก็คงไม่น้อยเลยทีเดียวที่แปรสภาพจากไม้ไปเป็นสะพานเหล็ก สะพานปูนโน่นเลย

ขอบคุณครับ.
มีเวลาอย่าลืมกลับบ้านนะครับ.

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท