การสอนของอาจารย์ส่วนมากจะเน้นถึง หลักเบื้องต้นของการเรียนรู้ และคุณธรรม จริยธรรม ทั้งที่ใช้ในการดำรงชีวิต และการเรียน ซึ่งนิสิตส่วนมากจะรู้สึกเบื่อในการเรียน การเรียนจะอยู่ในรูปของการบรรยายของอาจารย์ บางครั้งก็มีการโต้ตอบกับนิสิตบ้าง บรรยากาศในการเรียนเป็นไปแบบเรื่อยๆ บางครั้งจึงทำให้รู้สึกง่วงนอน อาจารย์สอนแบบจับจุดเนื้อหาได้ยาก จึงอยากให้อาจารย์มีเอกสารประกอบการสอนหรือเนื้อหาที่เรียน อาจารย์ชอบสั่งให้ทำงานส่ง ซึ่งเป็นเรื่องดี ที่จะส่งเสริมให้นิสิตหาความรู้ด้วยตนเอง รู้จักการนำเสนอ เผยแพร่ความรู้แก่ผู้อื่น ฝึกให้นิสิตได้แสดงความคิด ข้อคิดเห็นในเรื่องต่างๆ ที่ตนเองเข้าใจและสนใจ รู้จักเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ เข้ากับความรู้หรือเนื้อหาที่เรียน โดยพื้นฐานแล้วรู้สึกว่าอาจารย์เป็นคนใจดี เป็นกันเองกับนักเรียน มีความรู้รอบด้าน ซึ่งจะนำเรื่องแปลกใหม่และน่าสนใจมาเล่าให้ฟังอยู่เสมอ การให้คะแนนของอาจารย์ก็ค่อนข้างง่ายกว่าอาจารย์ท่านอื่น ซึ่งเป็นผลดีต่อนิสิตมาก
ถ้าพูดเกี่ยวกับอาจารย์ หลายๆ คนจะพูดว่า อาจารย์สอนไม่ดี ไม่รู้เรื่อง ทั้งเพ้อเจ้อไร้สาระ สอนอะไรที่ไม่ตรงเนื้อหาที่เรียนเลย จบด๊อกเตอร์มาได้อย่างไร ซึ่งในแรกๆ ที่เรียนกับอาจารย์ก็คิดแบบนี้เหมือนกัน แต่พอเรียนไปเรียนมาก็ชิน มานึกก็คิดว่าในการสอนแบบอาจารย์ก็ให้อะไรๆ ดีดีกับตัวเราเยอะ สอนให้เราหัดเรียนรู้และหาความรู้ด้วยตัวเองบ้าง ไม่ใช่จะมัวเอาแต่ที่อาจารย์ และก็หัดสนใจสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัว แทนที่จะสนใจแต่ในเนื้อหาที่เรียนเพียงอย่างเดียว งั้นเราจะไม่ทันต่อโลกเลย ซึ่งตอนนี้ก็รู้แล้วว่าในการสอนแบบอาจารย์ไม่เหมือนกับอาจารย์ท่านอื่นๆ ขนาด sheet อ่านสอบยังไม่มีเลย ก็ดีเหมือนกัน ซึ่งการสอนแบบนี้ถ้าพูดโดยไม่บอกชื่ออาจารย์ นิสิตก็จะเข้าใจตรงกันเลยว่าเป็นอาจารย์ท่านใด เพราะว่าตอนนี้มันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของอาจารย์ไปแล้ว
จากการที่ข้าพเจ้าได้เรียนกับอาจารย์สมลักษณ์ วงศ์สมาโนดน์ มาหลายวิชา ไม่ว่าจะเป็นวิชา Introductory Biology, Animal Biology และในภาคเรียนนี้ก็เรียนวิชา Cell Biology ข้าพเจ้าเข้าเรียนทุกชั่วโมง ทั้ง Lecture และ Lab ทุกครั้งที่เรียนก็พยายาม Lecture ตามความเข้าใจของตัวเอง ในระหว่างที่อาจารย์อธิบาย ก็พอจะเห็นถึงข้อดีและข้อบกพร่องของอาจารย์บ้างแต่ก็เป็นข้อบกพร่องที่เล็กน้อยเท่านั้น
ข้อดี | ข้อบกพร่อง | |||
1. | อาจารย์เป็นคนตรงต่อเวลา มาสอนตรงเวลาทุกชั่วโมง บางครั้งอาจารย์มาก่อนนิสิตเสียอีก | 1. | เนื้อหาบางเรื่องอาจารย์ก็อธิบายสับสนทำให้งง | |
2. | อาจารย์จะแสดงความคิดเห็นระหว่างที่สอนตลอด ซึ่งเป็นการแสดงทัศนคติต่อเนื้อหาที่เรียน | 2. | เวลาสอนชอบเอาเรื่องอื่นมาพูดแทรกทำให้การเรียนไม่ต่อเนื่อง | |
3. | อาจารย์จะยกตัวอย่างประกอบเรื่องที่สอน ที่เป็นเรื่องใกล้ตัวทำให้เกิดความเข้าใจง่ายขึ้น | 3. | ไม่มี power point ประกอบเนื้อหาที่เรียน | |
4. | อาจารย์จะมีข้อคิดดีๆ และแนวคิดดีๆ มาบอกนิสิตเสมอ | |||
5. | อาจารย์จะมีเรื่องที่เป็นประโยชน์ ที่เป็นความรู้เพิ่มเติมมาเล่าให้นิสิตฟัง | |||
6. | อาจารย์จะบอกแนวทาง วิธีการในการหาความรู้ | |||
7. | อาจารย์พยายามฝึกและปลูกฝังให้จดบันทึกเป็นสมุดแห่งการเรียนรู้ | |||
8. | เวลาสอนอาจารย์จะบอกรากศัพท์ของคำ ทำให้เข้าใจได้ง่ายและจดจำได้ดี | |||
หนูว่าดีนะคะที่อาจารย์นำเรื่องราวต่างๆ ไปเขียนลง Web ไว้ เรื่องต่างๆ มากมายที่อาจารย์นำไปเขียนลง web ไว้มันล้วนแต่มีประโยชน์ อย่างเรื่องผึ้ง ถ้าคนที่สนใจเรื่องผึ้ง เขาเข้ามาอ่านเขาก็จะได้ความรู้ออกไป เขาอาจนำความรู้ทีได้อ่านไปใช้ประโยชน์ ก็ถือว่าอาจารย์ทำประโยชน์ให้แก่สังคม โดยอาจารย์มีความรู้เรื่องผึ้งแต่อาจารย์ไม่ได้เก็บไว้คนเดียว แต่อาจารย์นำมาเผยแพร่ให้คนอื่นรู้ด้วย
ถ้าอีกเรื่องหนึ่ง คือ เรื่องประสบการณ์เรื่องราวต่างๆ ที่อาจารย์ได้เขียนลงไปบางเรื่องมันก็เป็นแง่คิด บางคนที่เข้าไปอ่านอาจจะนำไปปฏิบัติตามก็ได้ หรือถ้าคนที่เขาไปเจอเรื่องแบบอาจารย์แล้ว เขาได้อ่าน เขาอาจจะนำสถานการณ์นั้นมาใช้แก้ปัญหาก็ได้ "หนูคิดว่าที่อาจารย์เขียนมีประโยชน์ต่อผู้อื่นมากค่ะ"
การเรียนการสอนของอาจารย์นั้น ข้าพเจ้าคิดว่า การสอนเช่นนี้ทำให้ข้าพเจ้ากระตือรือร้นที่จะขวนขวายและศึกษาความรู้จากภายนอกอย่างมาก เนื่องจากอาจารย์จะไม่มีเอกสารประกอบการเรียนที่แน่นอน นักศึกษาต้องตั้งใจฟัง และดูสื่อการสอนของอาจารย์ซึ่งสิ่งนี้ข้าพเจ้าคิดว่าเป็นส่วนดี เพราะความรู้ที่เกิดจากการฟังจากผู้รู้โดยตรงนั้นทำให้เข้าใจง่าย เมื่อไม่เข้าใจก็จะถามอาจารย์ได้ และหากต้องการความรู้เพิ่มเติม จึงค่อยศึกษาจากภายนอก ข้าพเจ้าคิดว่าวิธีการนี้เป็นวิธีการเรียนที่ถูกต้อง และสามารถใช้ได้กับทุกวิชา ทุคยุค ทุกสมัย
ก่อนอื่นต้องขอบอกอาจารย์เลยนะค่ะว่า การที่อาจารย์ให้นิสิตวิจารณ์การสอนของอาจารย์ เป็นสิ่งที่ดีค่ะ เพราะอาจารย์จะได้ทราบว่าตัวอาจารย์มีวิธีการสอนเป็นอย่างไรบ้าง นิสิตจะชอบกับวิธีการสอนหรือเปล่า ควรปรับปรุงตรงไหนบ้าง ว่าแล้วก็เข้าเรื่องดีกว่าค่ะ ดิฉันของวิจารณ์เลยนะคะ ดิฉันคิดว่า วิธีการสอนของอาจารย์นั้นบางทีก็น่าสนใจ บางทีก็ไม่น่าสนใจเอาซะเลย มันทึให้ดิฉันเบื่อมากๆ อาจเป็นเพราะทัศนวิสัยของเราต่างกัน ต่างความคิด บางครั้งดิฉันก็ไม่เข้าใจที่อาจารย์พูด (เฉพาะบางเรื่องนะคะ ไม่ใช่ทั้งหมด อย่าเข้าใจผิด เพราะว่ามีทั้งส่วนที่ชอบและไม่ชอบ) เวลาที่อาจารย์สอนมันทำให้ดิฉัน Lecture ไม่รู้เรื่อง เพราะเวลาอาจารย์สอนเนื้อหาอยู่ดีดี ก็วกพูดไปเรื่องอื่น บางครั้งเรื่องนั้นมันก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาเลย หรือว่ามันอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องแต่ดิฉันตามความคิดอาจารย์ไม่ทัน ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ และที่ดิฉันชอบคือเวลาอาจารย์สอน อาจารย์จะสอนรากศัพท์ของมันด้วย ทำให้เข้าใจและจำได้ง่าย แล้วก็ชอบความคิดของอาจารย์ แปลกดีค่ะ เป็นเอกลักษณ์ดี แล้วก็ชอบลายมืออาจารย์ด้วยค่ะ เขียนสวยดี และสุดท้าย ดิฉันก็ขอให้อาจารย์ยังคงเอกลักษณ์วิธีการสอนของอาจารย์เอาไว้นะคะ คนเราต้องเป็นตัวของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องเหมือนใครค่ะ...!
วิธีการสอนของอาจารย์ นั้นอาจจะไม่เหมือนกับอาจารย์ท่านอื่นๆ ส่วนมากแล้วอาจารย์จะนำประสบการณ์และแนวคิดของอาจารย์มาเล่าสู่นิสิตฟัง เพื่อที่จะให้นิสิตนำไปปฏิบัติ ซึ่งอาจจะทำให้นิสิตที่ฟังเกิดความสนใจบ้างและเบื่อบ้าง แต่ถ้าหากตั้งใจฟังแล้วนำคำพูดของอาจารย์มาคิดและปฏิบัติแล้ว ก็จะเกิดประโยชน์ให้กับตัวนิสิตบ้าง แต่บางทีนิสิตก็มีความรู้สึกว่าอาจารย์พูดอะไรเนื่ย ไม่เห็นเกี่ยวกับวิชาที่เรียนเลย เลยทำให้นิสิตไม่สนใจฟังคำแนะนำของอาจารย์ อาจเป็นเพราะนิสิตได้รับการปลูกฝังในทางใจ ตั้งแต่เรียนอนุบาลจนถึงมัธยมปลายแล้วก็ได้ ที่นักเรียนต้องคอยรับข้อมูลและเนื้อหาสาระในการเรียนจากอาจารย์เพียงฝ่ายเดียว โดยอาจารย์จะสอนเฉพาะเนื้อหาที่เรียน เพื่อให้นักเรียนมีความรู้และนำเนื้อหานั้นไปใช้ จึงทำให้นิสิตติดนิสัย พอเมื่ออาจารย์นำประสบการณ์หรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียนเลยทำให้นิสิตไม่ค่อยสนใจเวลาอาจารย์สอนเท่าไหร่ แต่อาจารย์ก็พยายามที่จะนำข้อมูลข่าวสารต่างๆ มาสอน รวมทั้งนำรูปภาพต่างๆ ที่เกี่ยวกับการสอนมาให้นิสิตดู ก็ทำให้นิสิตสนใจขึ้นบ้าง แต่บางครั้งอาจารย์ก็พูดวกไปวนมาทำให้ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร แต่หนูก็คิดว่าอาจารย์พยายามที่จะให้พวกหนูเข้าใจในเนื้อหานั้นๆ หนูคิดว่าอาจารย์เป็นอาจารย์ที่มีความพยายามสูงมาก คือพยายามดิ้นรนทุกอย่างเพื่อทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด ในเรื่องที่อาจารย์ไม่รู้อาจารย์ก็พูดออกมาตรงๆ ถนัดตรงจุดไหนอาจารย์ก็มีความทุ่มแทให้กับสิ่งนั้น ทำให้หนูประทับใจในตัวอาจารย์ในเรื่องนี้มาก ที่หนูเขียนอย่างนี้หนูไม่ได้หวังว่าจะได้คะแนน หรือกลัวอาจารย์โกรธเลย เพราะหนูคิดและเขียนออกมากจากสิ่งที่หนูคิด และหนูก็ไม่รู้ว่าอาจารย์จะโกรธหนูหรือเปล่า แต่หนูก็เขียนในสิ่งที่หนูเห็นว่าอาจารย์เป็นคนตรงๆ ชอบไม่ชอบอาจารย์ก็พูดออกมาเลย สนใจสิ่งไหนอาจารย์ก็ทุ่มแทให้กับมันอย่างเต็มที่ ซึงตรงนี้เองที่เป็นข้อดีและควรเอาไปปฏิบัติตามในภายภาคหน้าในการประกอบหน้าที่การงาน ไม่ต้องสนใจว่าใครพอใจในสิ่งที่ตนเองรักและชอบ หนูขอเป็นกำลังใจให้อาจารย์ต่อไปนะคะ ขอให้ชมรมผึ้งน้อยของอาจารย์เจริญก้าวหน้ามีชื่อเสียงต่อไปค่ะ.
หมายเหตุ การใช้ตัวอักษรสีต่างกันหมายถึงผู้แสดงความคิดเห็นต่างคนกัน
สวัสดีค่ะคุณ beeman
ครูอ้อยอ่านแล้วค่ะ ได้แนวดำเนินการที่ดี ขออนุญาตนำไปใช้นะคะ