beeman 吴联乐
นาย สมลักษณ์ (ลักษณวงศ์) วงศ์สมาโนดน์

มุมมองสะท้อนสังคมไทยของนิสิตคนหนึ่ง


เหมือนกับผู้หญิงสมัยนี้ ลิมนึกถึงบิดามารดาผู้ให้กำเนิดผู้เลี้ยงดูด้วยความยากลำบากมานานหลายปี

     จากบทความ <Link> ที่ว่า "พระองค๋หนึ่ง เอาเนื้อผูกเชือกแล้วห้อยติดกับหลังหมา พอหมาเห็นเนื้ออยู่บนหลังก็ไล่งับ งับเท่าไหร่เนื้อก็ไม่เข้าปากสักที ผู้คนบนศาลาพากันหัวเราะชอบใจ แล้วก็หัวเราะเยาะหมา ว่าทำไมถึงโง่ยังงี้ ไล่งับจะกินเนื้อที่ตัวเองไม่มีทางไล่ตามทันตลอดชีวิต แล้วหลวงพ่อจึงหันมาพูดกับญาติโยมว่า ปัจจุบันเรากำลังไล่งับความทันสมัย เหมือนหมาที่ไล่งับเนื้อบนหลังของมัน ทั้งที่รู้ว่า ต่อให้ไล่งับทั้งชีวิต ก็ไม่มีทางตามทัน คนในศาลานี้เงียบสนิท ไม่รู้ว่ากำลังสงสารหมาหรือกำลงทบทวนความโง่ของตนเอง"

     คนในสังคมสมัยนี้ ยึดติดกับสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ตนเองมากเกินไป จึงทำให้ดิ้นรนหาเงินทุกวิถีทางเพื้อให้ซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นมาได้ เมื่อซื้อมาแล้ว ผ่านไปไม่กี่เดือนก็อยากได้อีกไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนกับผู้หญิงในสมัยนี้ ธรรมชาติได้สร้างร่างกายขึ้นมาให้สมดุลกันดีอยู่แล้ว บางคนอยากมีรูปร่างหน้าตาที่สะสวย จนยอมทำผิดศีลธรรมบางอย่าง เช่น นักศึกษาขายตัวเพื่อให้ได้เงินมาแต่งตัว ยกระดับฐานะตัวเองให้สูงขึ้น จนมองข้ามบางสิ่งไป ลิมนึกถึงบิดามารดาผู้ให้กำเนิดผู้เลี้ยงดูด้วยความยากลำบากมานานหลายปี "ยุงก็ไม่ให้ไต่ ไรก็ไม่ให้ตอม" แต่เพียงแค่ชั่วระยะเวลานิดเดียว ก็เอาตัวไปเร่ขายให้เค้าเหมือนผักเหมือนปลาตามตลาด พอเสียสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผู้หญิงไปก็กลับไปหาพ่อแม่ บางเวลาโกรธ เกลียด ผู้ชายที่มากระทำกับตน ก็เอาอารมณ์ไปลงที่พ่อแม่ เพราะไม่รู้จะไปลงกับใคร มันสมควรแล้วหรือที่จะมอบสิ่งแบบนี้ให้กับท่าน ช่วยทำให้ท่านได้รับสิ่งที่มีค่ากลับไปจะได้ไหม! รักษาทรัพย์สมบัติที่ท่านเก็บรักษามานานชิ้นนี้ไว้ให้ดีๆ ไม่ใช่เป็นเหมือนของเล่นที่เค้าโยนไปโยนมา พอมันเก่าแล้วเค้าก็โยนทิ้ง แต่พ่อแม่ก็ยังเก็บของเก่าชิ้นนี้มาเช็ดมาถูอยู่ดี ถึงแม้มันจะไม่ใช่ทรัพย์สมบัติของคนอื่นๆ อีกต่อไป

     เหมือนกับคนในสมัยนี้ต้องการคำชมจากผู้อื่นว่าตัวเองสวย ตัวเองน่ารัก แต่เมื่ออายุผ่านไปเรื่อยๆ รุ่นลูกรุ่นหลายก็ขึ้นมาแทน แล้วคำชมเหล่านี้ที่เคยได้รับ ก็หายไป แต่ความดีนี่สิ ตอนเด็กเค้าก็บอกกัว่าเด็กคนนี้ดี ตอนเป็นหน่มเป็นสาว เค้าก็บอกว่าดี ตอนวัยกลางคนเค้าก็บอกว่าดี ตอนแก่เค้าก็ยังบอกว่าดีอีก เท่านี้ก็พอจะรู้ได้แล้วว่าคนหันมาให้ความเอาใจใส่เรื่องไหนมากกว่ากัน ยังมีคนอีกมากที่อยากได้รับความเอื้อเฟื้อจากเรา ควรมีความพอเพียงได้แล้ว ไม่มีใครที่จะสามารถครอบครองโลกนี้ได้เพียงแค่อยายุขัยสิ้นๆ เพียงแค่นี้ มีแต่ความดีจะแพร่ฟุ้งกระจายไปทั่วอย่างไม่มีขอบเขต..

หมายเลขบันทึก: 8345เขียนเมื่อ 29 พฤศจิกายน 2005 07:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 กรกฎาคม 2013 15:53 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท