ระบบการศึกษาในปัจจุบันมีให้เลือกเรียนหลากหลายสาขาวิชา โดยเฉพาะสาขาที่ใครๆ ก็เรียนได้ประเภท สหสาขา
วันก่อนเพื่อนท่านหนึ่งกำลังเรียนปริญญาโท บริหารการศึกษา ผมถามไปถามมาก็พบว่า เขาได้งานพิเศษด้วยคือการรับจ้างทำวิทยานิพนธ์ให้กับเพื่อนในชั้นเรียนเดียวกัน ทำให้ผมคิดปิ๊งทันทีว่า โอ แม่จ้าว ช่วยลูกด้วย ตกลงวิทยานิพนธ์เล่มนั้นเป็นของใครกันแน่ คนที่แปะชื่อไว้บนวิทยานิพนธ์หรือว่าคนที่ได้ทำวิทยานิพนธ์จริงๆ การกรณีนี้ ทำให้ผมคิดว่า นั่นแสดงว่า หลายคนแม้จะมีวิทยานิพนธ์ก็ไม่ได้หมายความว่าได้ทำวิทยานิพนธ์ อันนี้น่าคิด
วันนี้ผมเดินลงมาจากชั้น ๓ อันเป็นห้องบรรยายโดยมีนักศึกษาสาวเดินตามมาด้วยท่านหนึ่ง ผมก็คิดว่า ทักทายเขาบ้างสิ อย่านิ่งเฉยอยู่เช่นนั้น ชาวบ้านเขายิ่งครหาอยู่ว่า พวกมหามันไม่คบใคร ผมก็จึงพยายามใช้ปาก (ดูจะฝืนๆ สักหน่อย แต่ก็จะพยายามปากดีตามสังคม) "อืม...นี่คงต้องไปทำงานต่อสิเนีย" นักศึกษาก็ตอบมาว่า ใช่ค่ะ ต้องไปทำรายงานให้หัวหน้า" "ทำรายงานอะไรหรือ" "หัวหน้าเขาเรียนปริญญาโทอยู่ หนูทำงานเป็นเลขา เขาใช้ให้ไปทำรายงานแทน" "อ้าว ทำไมเขาเรียนเขาจึงไม่ทำเองล่ะ" "ก็ไม่รู้นิค่ะ เป็นเลขาเขาใช้อะไรมาก็ต้องทำ" "ผมไม่ถนัดเลยกับเรื่องอย่างนี้" จากกรณีนี้ ทำให้ผมคิดไปเรื่องที่คุยกับเพื่อนครั้งหนึ่ง "โอ้ย อย่าไปสั่งเลยรายงานน่ะ เขาไปก๊อปมาจาก internet ปริ้นต์ออกมา แถมไม่ได้อ่านอีกต่างหาก ถามเนื้อหาก็ยังไม่รู้ จึงไม่รู้จะสั่งไปทำไม" และท่านก็ให้ทางออกว่า "ทุกวันนี้ผมให้แต่ละกลุ่มซื้อหนังสือเกี่ยวกับวิชาที่เรียน แล้วให้อ่านมาอภิปรายให้กลุ่มอื่นฟัง แถมหนังสือก็บริจาคห้องสมุดไป..." ผมเห็นว่า เป็นความคิดที่ดี ในกรณีที่ไม่สามารถลงไปหางานในพื้นที่ได้ บางทีการลงไปหางานในพื้นที่ก็อาศัยคนอื่นอยู่ดี แต่นั่นแหละ จะให้เหมือนกันทุกเรื่อง เห็นจะยาก......
น่าคิดค่ะ อาจารย์นมินทร์
หนูว่าให้อภิปรายกันเห็น ๆ ก็ดีค่ะ จะได้รู้ว่านักศึกษามีกระบวนการคิดหรือความคิดเห็นอย่างไร ถกเถียงกันแล้ว ทำให้กระตุ้นความคิดเยอะเลยค่ะ ตอนที่เรียนกับอาจารย์จันทวรรณ อาจารย์ก็เคยให้ถกเถียงกันเอง โดนอาจารย์จะเป็นคนตั้งหัวข้อ และให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็น นั่งล้อมวงกันค่ะ แล้วคุยถกเถียงกัน หนูชอบค่ะ สนุกดี