“ไม่เคยเลยแม้แต่ทุกวันนี้ ที่ชาวยุโรปจะยอมรับอย่างจริงใจและเปิดเผยต่อบุคคลภายนอกว่า ที่แท้เขาได้เป็นหนี้บุญคุณต่อศาสนาอิสลามอย่างท่วมท้นอย่างไร และไม่รู้จักจบสิ้นอย่างไร ในส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งในด้านวัฒนธรรม ความรู้และความเจริญรุ่งเรืองในสาขาวิชาต่างๆ มีเพียงบางอย่างที่พวกเขาไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เท่านั้นเช่นว่า ในขณะที่ประชาชาติต่างๆ ในยุโรปกำลังจมอยู่ในความโง่งมงาย คือในช่วงที่ยุโรปกำลังคลั่งอยูกับลัทธิฟิวดัลลิสม์นั้น วัฒนธรรมของมุสลิมภายใต้การนำของชาวอาหรับได้ถีบตัวขึ้นไปอยู่บนมาตรฐานอันสูงลิ่วแล้ว ทั้งในด้านวิชาการ ความรู้และในด้านสังคมวิทยา ซึ่งเมื่อเทียบกับยุโรปแล้วก็เปรียบประดุจดังถ่านไฟซึ่งกำลังเสื่อมโทรม ค่อยๆ กระพริบและหมดแสงลงไปทุกขณะ อะไรที่ทำให้เราผู้ซึ่งคิดว่าเป็นผู้เจริญที่สุดอยู่ในขณะนี้ไม่กล้ายอมรับว่า ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะมูลฐานแห่งวัฒนธรรม มูลฐานแห่งความเจริญ มูลฐานแห่งวุฒิปัญญาตลอดจนมูลฐานของระบบการศึกษา และสังคมศาสตร์ของอาหรับเป็นเบื้องต้นแล้ว ยุโรปในทุกวันนี้ก็น่าที่จะต้องจมปลักอยู่ในความโง่งมงายอยูต่อไปอีกนานเท่านาน”
“สถาบันการศึกษาของมุสลิม สอนวิชาสาขาต่างๆ ที่จำเป็น เช่น ศาสนศาสตร์ แพทยศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ดาราศาสตร์ ไวยากรณ์ เศรษฐศาสตร์ วิชาฟิสิกซ์ ปรัชญเกี่ยวกับเชื่อชาติไซโคโลยี และศีลธรรมจรรยา ซึ่งเป็นระบบการศึกษาที่รวมความสำคัญของหลักวิชาการต่างๆ เท่าที่จำเป็นเพื่อสอนให้มนุษย์ได้ดำเนินชีวิตในวิถีทางแห่งความยุติธรรมความสมดุลย์กันทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ตามเจตนารมณ์แห่งพระผู้สร้าง ซึ่งเราจะหาไม่พบในแนวทางการสอนของศาสนาอื่นๆ”
ตามาอ่านครับ...
ขอบคุณครับ...