วังของกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์อยู่ที่ไหน ?


วังนางเลิ้ง : วังของกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์

สวัสดีเพื่อนๆ ชาว gotoknow ทุกคน  วันนี้พิพิธภัณฑ์ฯ ชุมพร  มีเรื่องราวดีๆ  มาเล่าสู่กันฟังอีกแล้วค่ะ  คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์นะคะ  พระองค์ทรงมีคุณูปการต่อประเทศไทยเป็นอย่างมากที่เดียวค่ะ  อย่างเช่น  ในด้านของทหารเรือทรงปรับปรุงกิจการทหารเรือไทย  วางหลักสูตร  และก่อตั้งโรงเรียนนายเรือค่ะ 
แล้วมีใครทราบไหมค่ะว่า  วังของพระองค์ท่านอยู่ที่ไหน  และชื่ออะไร
เรามาทำความรู้จักวังของกรมหลวงชุมพรฯ  กันเถอะค่ะ

วังนางเลิ้ง : วังกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์

ที่ตั้ง              สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล  วิทยาเขตพาณิชยการพระนคร  
                      กรุงเทพมหานคร
ประวัติ                     
                     ประมาณปีพุทธศักราช ๒๔๓๘ พระบาทสมเด็จ  พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว   ทรงโปรดเกล้าฯ ให้จัดเตรียมที่แปลงหนึ่งบริเวณปากคลองเปรมประชากรต่อกับคลองผดุงกรุงเกษมทางฝั่งตะวันออก  เพื่อสร้างวังใหม่พระราชทานแก่ พระราชโอรส    พระองค์  คือ  กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์  ครั้งดำรงพระยศเป็นพระเจ้าลูกยาเธอ  พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์  กับ พระเจ้าลูกยาเธอ  พระองค์เจ้าสุริยงประยุรพันธ์  ที่แปลงนี้ส่วนหนึ่งเป็นของกระทรวงนครบาลมาแต่เดิม  บางส่วนต้องซื้อเพิ่มจากราษฎรที่ตั้งบ้านเรือนอยู่แถวนั้น        มาก่อน  รวมเงินซึ่งพระคลังข้างที่ต้องจ่ายเป็นค่าที่ดิน   และค่ารื้อเรือนโรง เป็นเงินทั้งสิ้น  ๒๔๔  ชั่ง   ๖๐  บาท  ๔๗  อัฐ
                   
                    จากนั้นให้แบ่งที่เป็น  ส่วน  โดยด้านที่ติดกับทำเนียบรัฐบาล  พระราชทานให้เป็นวังสำหรับพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์  ต่อมาชาวบ้านเรียกกันว่า  วังนางเลิ้ง  ส่วนด้านตะวันออกที่ติดกับชุมชนบ้านญวนและบ้านพิษณุโลกในปัจจุบัน  พระราชทานให้พระองค์เจ้าสุริยงประยุรพันธ์  พระอนุชาของพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์  ซึ่งต่อมารู้จักกันในชื่อ  วังไชยา
 
                    เมื่อครั้งที่กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์  สำเร็จวิชาการทหารเรือจากยุโรป  และเสด็จกลับถึงกรุงเทพฯ ในปี พ..๒๔๔๓ พระตำหนักในวังนางเลิ้งยังสร้างไม่เสร็จ พระองค์จึงเสด็จประทับอยู่ในเรือรบหลวงมูรธาวสิคสวัสดิ์ ซึ่งได้รับพระราชทานตำแหน่งให้เป็นผู้บังคับการเรือ ประทับอยู่ประมาณ ๖ - ๗ เดือนจึงได้ย้ายเข้าประทับในวัง
                    ช่วงเวลาที่เริ่มสร้างวังและเสด็จประทับในวังแห่งนี้ยังไม่ชัดเจนนัก  แต่ปรากฏหลักฐานจากกการบอกเล่าของพลเรือตรี พระยาหาญกลางสมุทร  ซึ่งเคยรับราชการใกล้ชิดกับกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์  ตั้งแต่เสด็จกลับจากต่างประเทศใหม่ๆ และมีโอกาสเห็นวังนางเลิ้งในครั้งนั้นเล่าไว้ว่า                       
                   
“…ในวังนางเลิ้ง บางทีท่านตรัสว่าหญ้ารกไปช่วยกันหน่อย นักเรียนนายเรือก็ยกพวกกันไปทีเดียว  ฉันเป็นหัวหน้าใหญ่ มีหน้าที่ไปโค่นต้นไม้ ต้นไผ่ ขุดตอ ตอนนั้นยังไม่เป็นวัง เป็นบ้านเดิมมีป่าไผ่ ป่ากระถิน มะขามเทศ แรกๆที่ไปสร้างไม่มีกำแพง เป็นที่โล่งๆเหมือนชาวบ้านธรรมดานี่แหละ แล้วต่อมาตีสังกะสีล้อมเสียหน่อย กำแพงรูปในเสมาอย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้มาทำทีหลังตอนขึ้นวังใหม่…”
                      
                   ตอนขึ้นวังใหม่นี้ปรากฏในราชกิจจานุเบกษาว่า
               
              “…ด้วยการก่อสร้างตำหนักที่วัง   พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นชุมพรเขตรอุดมศักดิ์นั้น  ช่างได้กระทำการก่อสร้างสำเร็จบริบูรณ์แล้วสมควรจะกระทำการมงคลขึ้นตำหนักในเดือนนี้ได้ จึงโปรดให้โหรหาฤกษ์มีกำหนดในวันที่ ๒๐ มีนาคม (๒๔๔๙)  เป็นกำหนดพระฤกษ์การขึ้นตำหนักใหม่  และโปรดให้จัดการตกแต่งในวังด้วยใบไม้  ธงช้าง  และโคมไฟดูสว่างไสวไปทั้งจังหวัดวัง…”
                  
                   ตำหนักใหญ่ของวังนางเลิ้ง เป็นตึก ๒ ชั้น ทรงยุโรป  ลักษณะคล้าย
กับตำหนักใหญ่ที่วังบูรพาภิรมย์ แวดล้อมด้วยสวนหย่อม ศาลาและสระน้ำ บริเวณรอบนอกเป็นสวนผลไม้ และบ้านเรือนของข้าราชบริพาร ท่านหญิงเริงจิตรแจรง อาภากร  พระธิดาในกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์  ได้บรรยายภาพของวังนางเลิ้งไว้ในหนังสืออนุสรณ์ท่านหญิงเริง  ความว่า
                    
                   
“…เนื้อที่วังนางเลิ้งมีประมาณ  ๒๐ ไร่เศษ   ทรงขุดคลองเอาดินขึ้นถม  มีคลองลดเลี้ยว   ทำสะพานเชื่อมเดินถึงกันจากเกาะนี้ไปเกาะโน้น ทุกๆเกาะมีหม่อมคนหนึ่งเป็นเจ้าของ รับมอบดูแลความสะอาด   ปลูกดอกไม้  ต้นไม้    กลางวันเดินเที่ยวและพายเรือสนุกดี  แต่ตกกลางคืนเงียบและมืด เสียงนกร้องน่ากลัว  มีศาลาทุกแห่ง  ศาลาใกล้ตำหนักใหญ่พอควรทาสีดำ  มีคนตายในวังจะตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่นั่น…”
          
 สภาพปัจจุบัน     
      
               วังนางเลิ้ง   ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสถาบันเทคโนโลโยราชมงคล  วิทยาเขตพาณิชยการพระนคร  หลักฐานที่เคยเป็นวังเหลือเพียงเรือนเก่าหลังหนึ่ง  ซึ่งต่อมาเรียกกันว่า  เรือนหมอพร และกำแพงขาวที่มีใบเสมาอยู่หน้าวิทยาเขตด้านหลังถนนพิษณุโลกซึ่งเป็นกำแพงของเดิมเท่านั้น

 เอกสารอ้างอิง      
- สุรินทร์  มุขศรี. "  
 วังนางเลิ้งของกรมหลวงชุมพรฯ", ศิลปวัฒนธรรม  ปีที่  ๒๒  ฉบับที่  ๑๑  (กันยายน  ๔๔) : ๙๐ -๙๔. 

หมายเลขบันทึก: 83030เขียนเมื่อ 10 มีนาคม 2007 15:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
  • ผมก็เพิ่งรู้นะเนี่ย

ช่วยกันรักษาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเพราะเป็นสิ่งมีค่าของชาติไทย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท