การแสวงหาความรู้อะไรสักเรื่องหนึ่งใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ ในสมัยที่ผมปลูกยูคาฯยุคแรกๆ อย่านึกว่ามีคนรับซื้อหรือมีตลาดแน่นอนนะครับ ผมคิดอย่างไร ..การทำมาหากินในพื้นที่แห้งแล้งดินเลวได้ผลผลิตไม่คุ้มแรงงานและทุนที่ทุ่มเทลงไป ควักกระเป๋าเมื่อไหร่ก็ซึมหายไปกับผืนทรายเมื่อนั้น ไม่มีร่องรอย กู่หาไม่ตอบเสียด้วยสิ จึงอยากจะเตือนพ่อเจ้าประคุณทูลหัวทั้งหลาย ก่อนจะแนะนำอะไรที่มันหวือหวา ควรมาหาข้อมูลในพื้นที่ชัดๆสักหน่อยเถิด มันมีปัญหาสาหัสสักเพียงไหน ทำไมเขาถึงคิด ถึงทำ ถึงปลูกไอ้นั่นไอ้นี่อย่างนั้นอย่างนี้
ð มีใครให้ข้อมูลที่ถูกต้องบ้าง
ð ข้อเสนอแนะจากภาครัฐเคยทบทวนไหม
ð เคยรับผิดชอบไหม
ð เคยสอบทวนความถูกต้องทางวิชาการไหม
ð เคยผ่านการวิจัยร่วมในพื้นที่ไหม
ช่วงที่ผมบ้าปลูกยูคาฯสมัยแรกๆ ถามว่ามีตลาดไหม ใครรับซื้อ ตอบเปรี้ยงเลยว่าไม่มี อ้าวแล้วจะปลูกไปทำพระแสงอะไรละ ผมคิดเข้าข้างตัวเองว่าถ้ามีไม้แล้วขายไม่ได้ก็ให้มันจนกรอบอยู่อย่างนี้แหละ ขายไม่ได้ก็ปล่อยมันโตไปเรื่อยๆ เราไม่ได้ไปใส่ปุ๋ย รดน้ำ หรือทำอะไรอีกนี่หว่า เมื่อตั้งโจทย์แล้วลงมือทำ ผลมันก็เกิดกระเจิดกระเจิง
ผมปลูกไปได้6ปี มีคนมาขอซื้อทำไม้ค้ำยัน ไม้ทำรั้ว ไม้มุงกระต๊อบร้านอาหาร มีรายได้นิดๆหน่อยๆไม่พอจะไปขยายงานอะไรได้ ปีถัดมาโรงงานทำเรื่องเยื่อกระดาษซึ่งเดิมใช้ไม้ไผ่และลำปอเป็นวัตถุดิบ สั่งพวกหน้าม้าไปเที่ยวเหมาตัดไผ่ยกกอทั่วประเทศ ตัดเสร็จแล้วเจ้าของเห็นว่ามันเกะกะไม่งามตาก็เอาไฟสุมเข้าไป ไผ่ที่ปลูกตามครัวเรือนโดนประหารสูญพันธุ์ไปประมาณ80% อีกส่วนหนึ่งโรงงานไปส่งเสริมให้ปลูกปอ ปอที่ปลูกในดินเสื่อมต้นเล็กลงๆจนไม่คุ้มทุน เพียง5ปีที่ซื้อวัตถุดิบแบบล้างผลาญทุกอย่างก็ถึงกาลวิบัติ ทำให้อุตสาหกรรมพวกนี้มองมาที่ยูคาฯเป็นวัตถุดิบตัวใหม่ จึงส่งเสริมปลูกกันขนานใหญ่ ผมปลูกล่วงหน้าไว้แล้วก็พลอยมีที่ขายไม้โดยปริยาย
ในช่วงนั้นการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเดินกระแสไฟฟ้าเข้าหมู่บ้าน บ้านผมอยู่โดดเดี่ยวห่างจากชุมชนประมาณครึ่งกิโล แถมยังเป็นบ้านหลังเดียวโด่เด่ ไม่อยู่ในเกณฑ์ที่เขาจะเชื่อมไฟฟ้าเข้ามาถึง จึงได้แต่มองสายไฟเหมือนหมาเห่าเครื่องบิน ทนอยู่ได้ไม่นานก็ร่านทุรนอยากใช้ไฟฟ้า ไปปรึกษาเจ้าหน้าการไฟฟ้าว่า ถ้าจะขอใช้ไฟฟ้าอย่างคนอื่นบ้างจะได้ไหม เขาใจดีแนะนำให้ข้อมูลมาตัดสินใจตามเงื่อนไขทางการทุกอย่าง
1. ผมต้องตัดถนนเข้าสวน ให้ได้มาตรฐานระดับถนนในชุมชนทั่วไป เพื่อให้ สะดวกแก่การตั้งเสา พาดสาย และดูแลในอนาคต
2. ผมต้องเสียค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด
ขอบคุณครับ ว่าแต่ 2ข้อที่บอกมานี่คาดว่าจะเป็นเงินเท่าไหร่ พนักงานคนสวยกดเครื่องคิดเลขประมาณการค่าใช้จ่ายคร่าวๆไม่รวมการสร้างถนนเข้าสวน ทั้งหมดประมาณ 300,000 เศษ ไม่ถึง4แสนหรอกคะ คำเดียวสั้นๆ..แต่มีความหมาย ขอบคุณเขาครั้งที่สอง กลับมานอนก่ายหน้าผากอยู่คนเดียว ..จะเอายังไงดี ถ้าคิดค่าปรับถนนเข้ามาอีกอย่างน้อยงานนี้ต้องมีเงินสำรองจ่าย4-5แสนบาท กำลังอึดอัดเป็นนกทึดทือป่วยใจ มองไปเห็นยอดยูคาไหวๆ กระโดดลงจากเปลแหกปาร้อง สำเร็จแล้วโว้ย!! ขายมันยูคานี่แหละวะ จับรถได้บึ่งไปหาคนซื้อ
บอกว่าจำเป็นจะใช้เงิน4แสนบาท คำนวณสิต้องขายไม้กี่ไร่ ไอ้พ่อค้าขีดตัวเลขกับพื้นดินบัดเดี๋ยวนั้น แล้วโพล้งตอบว่า 150ไร่ ครับเฮีย ทำไมมันถึงถูกยังกะขี้ยังงี้วะ เอ็งคิดผิดรึเปล่า โธ่เฮียเขาซื้อเองตัดเองเฮียนั่งกระดิกเท้ารับทรัพย์ เอาเถอะน่า ..ทางเลือกมันด้วนๆอย่างนี้จะทำอะไรได้ ขายก็ขาย พวกเอ็งรีบมาตัดเล๊ยวัยรุ่นใจร้อนว่ะ กี่วันจะตัดเสร็จ มันบอกว่า15วัน นี่คือที่วิธีการแลกต้นไม้เขียวสดๆ ไปเป็นต้นคอนกรีตสีขาวที่มีสายไฟสีดำๆพาดผ่าน
พวกตัดไม้มันก็แน่เหมือนกัน ลุยตัดลุยขนอยู่ครึ่งเดือนก็เกลี้ยง ป่าเขียวๆมีแต่เศษไม้ระเกะระกะ ผมเดินไปดูแล้วแสนเศร้าอาดูร โธ่กว่าจะปลูกขึ้นมาได้มันตัดทิ้งตัดขว้างแบบอีลุยฉุยแฉก ปลายไม้ขนาดลำแขนทิ้งเกลื่อน มันบอกว่าไม่ได้สเป๊ก จะทำยังไงดีละ ผมนึกไปถึงการเผาถ่าน ไม้ขนาดพอเหมาะอีเละเขะขะพวกนี้ ถ้าเปลี่ยนเป็นถ่านหุงต้มได้น่าจะดี จะเผาแน่หรือพี่ขา..เอ๊ะ ความรู้อยู่ที่ไหน
ไปปรึกษามือขโมยไม้ป่าสงวนเผาถ่าน ก็ดีแต่แนะนำให้เผาแบบเตากลบ เรียงไม้แล้วเอาดินกลบ มันก็ได้อยู่หรอกแต่ไม่ถาวร ยังไม่ตกลงปลงใจวิธีนี้ สืบเสาะต่อไป มีคนแนะนำสารพัดวิธี สุดท้ายลงมือทำเอง คาดว่ามันจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ก็ทดลองทำตามที่คิด เอาไม้มากองตั้งชันเป็นรูปทรงเหมือนจอมปลวก แล้วเอาดินเหนียวมาโป๊ะครอบให้มิดชิด ตบตีดินรอบนอกให้แน่นเป็นเนื้อเดียวกันเหมือนกับพวกปั้นหม้อเขาทำ พอเรียบร้อยแล้วก็จุดไฟ ทำปล่องไฟ ทางควันอากาศเข้า ทางควันออก เหนื่อยแทบขาดใจ แต่ก็ปลื้มมากที่สร้างเตาเผาถ่านขนาดย่อม
พอตกดึกเสียงหมาเห่าเกรียว ผมสะดุ้งตื่นมาดู โอ้ย!อกอีแป้นแตก ไฟลุกท่วมยอดไม้ มองไปแดงโร่ ควันตลับคลุมทุกทิศทุกทาง ไปไล่ปลุกลูกน้องที่นอนสลบเพราะเหนื่อยจากการสร้างเตาเมื่อตอนกลางวัน ช่วยกันเอาน้ำมาสาดเข้าไปในกองเพลิง ไฟกำลังร้อนแรงเต็มที่ สาดน้ำไปกี่ถังๆก็ยังลุกโพลงอยู่ สู้ผจญเพลิงจนเกือบสว่างไฟถึงสงบลงได้ แต่ละคนหน้าตาดูไม่ได้เหมือนโผล่มาจากโลกันต์ ทุกคนทรุดแผ่หราเหนื่อยจนไม่มีแรงถามไถ่กัน ผมสำรวจดูตัวเอง ขนคิ้ว ขนแขนไหม้ หงิกงอ มีกลิ่นเหม็นไหม้หึ่งไปทั้งตัว แย่ละทีนี่ ใครเขาจะให้นอนใกล้ มิโดนเนรเทศออกนอกห้องรึ ผีซ้ำด้ามพลอยมันก็ยังงี้แหละคนเรา บทเรียนคราวนั้นอย่านึกว่าเจ็บแล้วต้องจำนะครับ ยัง..ยังมีอีก..
หลังจากซ่อมแซมความรู้สึก ความคิด ความสามารถดีแล้ว จึงทำเรื่องถามไถ่ไปที่กรมป่าไม้ เขาบอกว่ากำลังศึกษาวิจัยเรื่องนี้พอดี อ้าว! อย่างนี้ก็ได้เลย ติดต่อให้เขาส่งช่างมาทำให้หน่อย ถัดมาครึ่งเดือนช่างปั้นเตาถ่านแบบก่ออิฐก็มาสอนเรา ผมจัดพวกคนงานไปเรียนรู้วิชา ทำให้เป็น ทำให้ได้ แล้วพัฒนาการต่อ จนกระทั่งทุกวันนี้ เราพัฒนาเตาเผ่าถ่านได้ใหญ่ขึ้นกว่าแบบของเดิม เผาได้ถ่านเตาละ1รถสิบล้อ ถามว่าจบแล้วใช่ไหม เปล่า! การจัดการความรู้ไม่มีวันจบ ตายแล้วเกิดใหม่มาทำก็ไม่จบ ยังมีโจทย์คันอยู่ในหัวใจอีกเยอะ เพียงแต่ไม่มีใครให้ทุนมาทำวิจัยเท่านั้นแหละ นักKM.ชุมชน ยังยินดีที่จะวิ่งป่าราบอีกครับผ๊ม!!
(ฮ่าๆ) บันทึกเป็นรอบที่ 3 ไม่ทราบจะ ผ่านหรือเปล่า ลองดูอีกทีนะคะ เดือนมี.ค มานี้บันทึกอะไรบน G2K ไม่ค่อยได้ค่ะ
ได้กลิ่นควัน และคิ้วไหม้ ชีวิตครูบาสู้ดีจัง
เป็นตัวอย่างให้คนในเมือง คนพลาสติก ได้คิดได้เข้าใจ
ขอบคุณค่ะ
การจัดการความรู้ไม่มีวันจบจริงๆครับ
ทางเหนือ เขาบอกว่า เผาถ่านกำไร หมิ่น
สนุกกับชีวิตครับคุณหมอ
อยู่เฉยๆชีวิตมันเซ็ง
เลยพามันเต้นแร้งเต้นกา
สนุก เหนื่อย แต่ยังยิ้มได้ เพราะไม่ได้เหนื่อยอย่างเดียว มีอย่างอื่นคละเคล้าอยู่ เหมือนน้ำพริกน้ำปลาหวาน ข้างจานมะม่วงเขียวเสวย
อรุณสวัสดิ์ค่ะพ่อครูขา หนิงก็กำลังจะไปทำหน้าที่
คนแก่พิการใจมีโรงเรียนให้เข้าไหม ช่วงนี้ดูอะไรมันติดขัดไม่ลื่นไหล อยู่ในป่านี่ก็ประชุมกันปากแฉะเหมือนกันนะ
เมื่อคืนฝนตกแบบเรียบร้อยมาก ไม่มีลม ไม่มีฟ้า ทำยังกะนางฟ้าค่อยโปรยน้ำรดสงกรานต์ ค่อยยังชั่วหน่อย ดอกลำดวนกำลังเหี่ยวคาต้น คราวนี้จะบานฟุ้งทั้งป่าเสียที
สวัสดีค่ะพ่อครูขา...( แอบมาลงรูป โครงการฯของคุณแผ่นดินค่ะ )
ได้ค่ะพ่อครูบา...จุ๊ย์ๆ อย่าดังไปค่ะ เดี๋ยวคนแถวนี้รู้ หนิงกะว่าจะ(หรอย)เข้าพื้นที่วันนั้นแหละค่ะ
แต่ทำไมเอารูปขึ้นไม่ได้อีกแล้วหละค่ะเนี่ย...งง พอพิมพ์คำหลักแล้วเพิ่ม มันก็หายไปหมด
อ.หว้า อ.หนิง
^__* ไม่เครียดหรอกค่ะพ่อครูขา...คลิกที่นี่ นะคะ
ทำไม่ได้เลือกว่าดีหรือไม่ดี
เอาเป็นว่า ขอทำก่อน
ดีไม่ด้ต้องมาเรียนรู้อีกที
นะ อ.ส่าหรี
ยายหนูเอ๊ย!
แต่ก็ตะโกนหากันได้ ผ่านICT. นี่ยังไงละ
พ่อครูคะ
ตอนนี้ไฟมันสุมทรวง
หายไปหาดแก้วกับ คุณแป๊ดมาค่ะ
ผลุบ ๆ โผล่ ๆ (หัว)ใจไม่ค่อยว่าง
ทุกครั้งที่ตัดต้นไม้ คนปลูกจะทรมานใจ จะหนีไปไกลๆ ไม่อยากรู้เห็น จนเขาตัดเรียบร้อยแล้ว จึงมาดู
แต่ในการปลูกป่าไม้จะต้องมีการตัดสางขยายระยะบ้าง ไม่งั้นมันจะแคะเกร็นทั้งแปลง ถ้าอย่างนี้พอรับได้ แต่ถ้าตัดเกลี้ยงแปลงนี่สุดโสกาอาดูร
แก่แล้วจึงปลูกเพื่อมอบให้โลก ไม่ตัด เก็บผล ดอก ใบ ก็เหลือเฟือแล้ว มนุษย์ขี่เหม็นเอ๋ย..
อ่านบันทึกนี้แล้วใจสั่นๆ ยังงัยไม่รู้ค่ะ...มาแอบอ่านแอบเก็บ แอบตวงอยู่บ่อยๆ มัวแต่แอบๆ...ใจก็เลยสั่นระรัวค่ะ...แต่ก็สงสยว่า...ยูคากับไฟฟ้านี่ช่างเสมือน...เทวดากับยาจกมากเลยนะคะ...ต้องเอายาจกตั้งหลายร้อยคนไปแลกกับเทวดา...มาพิทักษ์ชุมชน...ค่ะ...
(^_____^)
กะปุ๋ม
แอบไปอ่านนิทานมาแล้ว
รึจะจัดชวนกันแลกนิทานขำขัน
อ่านเจอในหนังสือจำไม่ได้ว่าเล่มไหน..
หนูหนิง วิ่งไปหาแม่..
"คุณแม่ขา หนูขอเงินไปให้คนที่ร้องอยู่หน้าบ้านหน่อยคะ"
"เขาร้องว่ายังไงละลูก"
"เขาร้องว่า ไอติม มาแล้ว ..คะคุณแม่"
ความรู้เราไม่พอใช้ครับ ถ้าสมัยนั้นมีทางเลือก เช่น การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เช่นทุกวันนี้ การแก้ปัญหาก็อาจจะเปลี่ยนไป ตรงจุดนี้สะท้อนเรื่องอานุภาพความรู้ อย่างมาก
แต่มันก็ผ่านไปแล้ว เล่ามาให้เห็นวิธีแก้ปัญหาแบบทื่อๆครับ
จันทรรัตน์ |
สะเมิง เคยไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ตั้งแต่สมัยที่ใช้ไฟฟ้าด้วยเครื่องปั่นไฟ ปิอตอนเที่ยงคืน ยังไมเจอเก้งยืนมองเราริมถนน
ขอบคุณครับที่เอาบุญมาฝาก มิน่าละวันนี้โชคดีหลายอย่าง..
ชอบคำพูดนี้ของพ่อครูฯ จังเลยค่ะ
การจัดการความรู้ไม่มีวันจบ ตายแล้วเกิดใหม่มาทำก็ไม่จบ
ถ้าทุกคนคิดได้อย่างงี้ก็ดีนะคะ
ว่าแต่ว่า คุณพี่อึ่งอ๊อบ เธออยู่ถึงเชียงใหม่ แต่ตามนู๋แป๊ด ไป หาดแก้ว สงขลา ได้ไงคะเนี่ย ยิ้ม ๆ
อ้อ เธอส่งใจไปให้คะ ว่าทำไม ทำงานไม่มีเหนื่อยเลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ ยิ้ม ๆ
ค่ะ พ่อครูฯ
กำลังทยอยเขียนค่ะ
อีกสัก 2-3 ตอน ก็จะเขียนถึงตอนไฟไหม้ป่ายูคา ผมเจอ 3 ใหญ่ๆ มีทั้งกลางวัน และกลางคืน
ไหม้ตอนอากาศร้อนแล้ง อาจารย๋ก็คิดดูเถเดว่าจะเหนื่อยสักเพียงไหน ใครไม่เคยดับไฟไหม้ป่าไหม้บ้าน อย่าเพิ่งคุยว่าชีวิตนี้เคยเหนื่อยสุดๆมาแล้ว เหนื่อยกว่าการดับไฟเตาถ่านที่เขียนไว้มากนัก