"โฆสิต" ถกขุนคลังใหม่ 9 มี.ค.นี้ วางหมากบริหารเศรษฐกิจ-เอกชนฝากเร่งเบิกจ่ายงบ

          "โฆสิต" นัดหารือรัฐมนตรีคลังคนใหม่วันที่ 9 มีนาคมนี้ วางแผนการทำงานทั้งด้านการเงินและการคลัง ขณะที่นายกรัฐมนตรีเข้ามาลุยงานด้านเศรษฐกิจเต็มตัว ประธานหอการค้าไทยเชื่อฝีมือรัฐมนตรีใหม่ ฝากการบ้านเร่งกระตุ้นการเบิกจ่ายงบประมาณ            

           นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า จะหารือกับ ดร.ฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ ในวันที่ 9 มีนาคมนี้ ถึงวิธีการทำงานร่วมกันในด้านเศรษฐกิจ ทั้งการเงินและการคลัง รวมทั้งจะมีการหารือถึงนโยบายเศรษฐกิจที่จะดำเนินการต่อไป ก่อนเสนอพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พิจารณา ซึ่งทีมเศรษฐกิจนั้น จะมีนายกรัฐมนตรีเข้ามาเป็นหนึ่งในขุนพลเศรษฐกิจเต็มตัว และเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่มีส่วนร่วมในการคิดและแสดงความเห็นในด้านเศรษฐกิจมากขึ้น "นายกรัฐมนตรีจะมีอำนาจสูงสุดในการตัดสินใจ ส่วนผมจะดูแลในภาพใหญ่ และแนวทางการทำงานก็จะอยู่ในลักษณะของการร่วมมือกัน รับฟังความเห็นและเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการทำงาน" นายโฆสิต กล่าว            

           รองนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า ดร.ฉลองภพเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีความสามารถ มีความเชี่ยวชาญและเข้าใจระบบเศรษฐกิจ มีผลงานการศึกษานโยบายเศรษฐกิจต่าง ๆ ในภาพรวม ส่วนที่มีการระบุว่า ดร.ฉลองภพ ติดภาพนักวิชาการเกรงว่าอาจมีปัญหาในการทำงานได้นั้น คงต้องขอโอกาสให้ ดร.ฉลองภพ บ้าง เพราะขณะนี้ยังไม่ได้ทำอะไรเลย            

           นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า ดร.ฉลองภพ ถือเป็นบุคคลที่ต่างชาติรู้จักดีในแง่ที่มีผลงานทางวิชาการ โดยเฉพาะเศรษฐกิจมหภาค ที่มีข้อคิดเห็นที่เป็นสารประโยชน์มาก เมื่อ ดร.ฉลองภพ     ต้องเข้ามาทำงานเชิงบริหาร อยู่ที่ว่า ดร.ฉลองภพ จะใช้เวลาเรียนรู้งานในกระทรวงการคลังมากน้อยแค่ไหน เพราะการทำงานของกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญ ต้องการความรวดเร็วและการตัดสินใจ

            ประธานหอการค้าไทย กล่าวด้วยว่า งานที่ต้องการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ สานต่อจาก ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล คือเร่งผลักดันเบิกจ่ายงบประมาณปี 2550 ให้ออกสู่ระบบเศรษฐกิจเร็วที่สุด เพราะขณะนี้การใช้จ่ายงบประมาณยังล่าช้า เนื่องจากกลไกราชการ นอกจากนี้ ควรจะเร่งโครงการรถไฟฟ้า 5 เส้นทางเพื่อให้เดินหน้าได้ต่อเนื่อง เพื่อจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศอีกทางหนึ่ง        

                                                           คม ชัด ลึก  9   มี.ค.  50