การพัฒนาโรงพยาบาลในกระบวนทัศน์เก่า


ใครบางคนที่คาดหวังว่าจะได้คำตอบเดียวจากคำถามเดียวกัน จากทุกองค์กรเหมือนกัน บางทีอาจเป็นความวิปลาส ทางความคิด หรือไม่ก็หลงตัวจนถึงที่สุด
 วันนี้มีสองภาค ภาคความนิ่งสงบดุจขุนเขา และภาคเชี่ยวกลากราวสายน้ำทะลายเขื่อน
ช่วงเช้ามีญาติร่วมกระทรวงมาเที่ยวจากทางใต้ นั่งพูดคุยกันถึงการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล
คำถามแรกที่ถามคือ ทำการพัฒนาคุณภาพเพื่อให้ผู้ป่วยปลอดภัยและมีความสุข แล้วคนทำมีความสุขไหม
ไม่มีคำตอบแต่แววตาบอกอะไรบางอย่าง...
ทำไมเราจึงไม่มีความสุขในการพัฒนาคุณภาพล่ะ?
อะไรที่ทำให้ผู้อื่นมีความสุข แล้วตัวเองไม่มีความสุข จริงๆแล้วเป็นของดีจริงหรือเปล่า....
ผมไม่มีคำตอบให้ เพราะโยดาบอกว่า อย่าฆ่าคำถามดีๆด้วยคำตอบห่วยๆ
ทิ้งให้มันลอยวน และกระแทกตัวตน เพื่อหาคำตอบของตัวเอง
เพราะผมไม่ได้คาดหวังในคำตอบเดียว ชีวิตทุกชีวิตที่คำตอบต่อตัวเองในโจทย์เดียวกัน ที่แตกต่าง
สุดแล้วพีชในใจ และบริบทของตัวเอง
ใครบางคนที่คาดหวังว่าจะได้คำตอบเดียวจากคำถามเดียวกัน จากทุกองค์กรเหมือนกัน
บางทีอาจเป็นความวิปลาส ทางความคิด หรือไม่ก็หลงตัวจนถึงที่สุด
ผมบอกผู้มาเยือนว่า สิ่งสำคัญในการพัฒนาองค์กร คือ เราควรเข้าใจว่าองค์กรมีชีวิต เราควรปฏิบัติ และพัฒนาองค์กรเยี่ยงสิ่งมีชีวิต สิ่งมีชีวิตทุกสิ่งมี อัตตลักษณ์ ที่เป็นตัวบ่งบอกความหมายว่าเราเป็นใคร ทำเพื่ออะไร และรู้ความหมายของการมีชีวิต
สิ่งมีชีวิตมิใช่อาหารกระป๋อง ที่จะมีสัดส่วนมีกรอบ มีมิติ มีน้ำหนัก และมีฉลากเหมือนกัน หากผิดไปจากนี้ เรียกว่าไม่ได้มาตรฐาน
ดอกไม้ผลิบานเป็นกลุ่มๆ สีสันแตกต่าง ขนาดไม่เท่ากัน แรกแย้ม เบ่งบาน เหี่ยวเฉา รวมๆกัน เรียกว่าความงาม
เราหามาตรฐานใดหนอมาวัดความดีงามของชีวิต
เป็นเรื่องน่าสงสารสำหรับผู้ประเมินที่ต้องมาประเมินองค์กรที่มีพลวัตร มานานหลายปี มีการทำงานที่หลากหลาย เกี่ยวเนื่อง
รากแก้ว รากฝอยของความสัมพันธ์มิได้สานกันเช่น การทอเสื่อ หรือ ทอผ้า หากเกียวกระหวัดรัดร้อยกันอย่างรากไม้พึงเป็น
สิ่งที่ผู้ประเมินไม่มีคือเวลา ในการใคร่ครวญมองอย่างลึกซึ้งให้เห็นความสัมพันธ์นั้น มีวิธีที่เร็วที่สุดของผู้ประเมิน คือเอาแบบการทำงานของตนที่คุ้นเคย ทาบทับไปบนองค์กรที่ตรวจสอบ อันไหนเกิดเรียกว่าผิดที่ผิดทาง อันไหนที่ขาดหายเรียกว่า ขาดมาตรฐาน แล้วรายงานออกไป
ที่น่าสมเพชกว่าคือการยอมจำนนต่อคำวิพากษ์นั้นของผู้คนในองค์กร เลือกที่เชื่อด้วยความกลัวการไม่ได้รับการรับรอง และการดูถูกตัวเองว่าสิ่งที่ทำนั้นจะมีค่าก็ต่อเมื่อมีใครซักคนที่บังเอิญผ่านมาแล้วพูดตามมนัสของเขา
ลืมแล้วใช่ไหมว่าเราทำการพัฒนาเพื่ออะไร การได้รับการรับรอง ไม่ใช่การเอาความกล้า ความเชื่อในสิ่งที่ตนเองทำหลบๆซ่อนๆด้วยความวิตก เพื่อทำให้คนที่มีตรายางในมือพอใจ
เช่นนี้แล้วชีวิตก็เข้าสู่โหมดปกป้อง ความกล้าหาญหดหาย พลังชีวิตจืดจาง เครียด และไร้สุข
หากจะถามว่าทางที่ดีสู่การพัฒนาคุณภาพองค์กร ควรเป็นอย่างไร และคำนึงถึงอะไร
คำถามเช่นนี้คงต้องหาคำตอบกันเอาเอง เพราะอ.วิธานก็เอาหนังสือพวก how to เผาทิ้งไปแล้ว
ผมเกรงว่าหากผมตอบ...ท่าน  อาจเอาคอมของท่านเผาทิ้งตาม  ยิงฟันยิ้ม เสียดายของแทนครับ
ผมเขียนด้วยความเยือกเย็น และหน้าบ้านของตน อาทิตย์กำลังโรยลับภูเขาหลังบ้านแล้ว
แว่วเสียงนางฟ้าเรียกทานข้าว ภาคที่เป็นกระแสน้ำเชี่ยวกลาก จะเล่าต้องเมื่อจักรวาลเปิดโอกาสครับ
หมายเลขบันทึก: 82727เขียนเมื่อ 8 มีนาคม 2007 21:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:41 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท