อุทยานการเรียนรู้ ยะลา (TK PARK @ YALA)
“จะหลบความง่วงเหงา หลังมื้อเที่ยงในวันเสาร์-อาทิตย์ ไปไหนดีนะ” เป็นคำถามที่คิดตลอดทั้งคืนวันเสาร์ ก็เราเผลอนอนกลางวันซะเยอะ กลางคืนเลยต้องให้คิดเลอะเทอะไปเรื่อย จนมาฉุกคิดได้ว่าน่าจะหากิจกรรมพักผ่อนดีๆ แทนที่การนอนกลางวันดีกว่า
เช้าวันอาทิตย์ หลังจากงานบ้านผ่านพ้นไป ตั้งใจแน่วแน่ว่า บ่ายนี้จะต้องไปโลดแล่นใน “อุทยานการเรียนรู้ ยะลา” หรือ TK Park Yala เพื่อค้นหาสิ่งใหม่ให้ตัวเอง แถมยังจะมีเรื่องเล่าใหม่ๆ มาฝากชาว G2K อีกด้วย
ว่าแล้วก็คว้ากระเป้ เดินเร่เข้าสู่ประตูรั้วศูนย์เยาวชน ที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของ TK Park แม้เพิ่งจะมาคราวแรก แต่ก็หาอาคารได้ไม่ยาก เพราะนอกจากอาคารจะตั้งอยู่หน้าศูนย์ฯ แล้ว รูปลักษณ์และโครงสร้างอาคารยังดูเด่นตระการ สมเป็นอุทยานการเรียนรู้จริงๆ
เมื่อแน่ใจว่าใช่แน่ ก็ตรงรี่ เข้าสู่ TK Park ทันที ก้าวแรกที่สัมผัส TK Park ถึงกับต้องกระพริบตาถี่ๆ ว่านี้คงไม่ใช่สุวรรณภูมิแน่นะ ก็แค่เห็นเครื่องเอ็กซเรย์สัมภาระเครื่องใหญ่ อย่างที่เห็นชินตาในสนามบิน เลยแอบอมยิ้ม ว่างานนี้แน่ใจได้ 100 % ว่าจะไม่ได้ยินเสียงตูมตาม ให้ต้องตามหาขวัญน้อยๆกันอีก เอ...ตรวจเพียงสัมภาระจะแน่ใจว่าปลอดภัยได้จริงดังว่ารึ... ก็ยังยืนคิดว่าไม่น่าจะใช้นโยบายประหยัด ถึงกับให้ผู้มาเยือนต้องขึ้นนั่งบนล้อเลื่อนผ่านเครื่องเอ็กซเรย์ที่เห็นนั่นหรอกนะ เฮ้อ...ค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย ถ้าสังเกตสักนิด เค้ามีติดตั้งประตูกลสำหรับตรวจเฉพาะบุคคลไว้ด้วย และแถมอีกนิด เพียงสะกิดปลายปากกาลงชื่อไว้ในแฟ้ม เท่านี้ก็การันตีได้ว่าที่นี้ปลอดภัยหายห่วง หากผ่านจุดนี้ไป ทั้งคนทั้งกระเป๋า จะไปนั่งจับเจ่าอยู่ที่ใดใน TK Park ก็ได้สบายมาก
ยังไม่ทันไร ก็เจอเรื่องต้องให้เอียงคอสงสัยว่าสิ่งที่อยู่เบื้องหน้านั้นคือกระไรกัน อืม...(บอร์ด)สนิทศิษย์ส่ายหน้า (ตั้งชื่อตามที่เห็น) เพราะสิ่งนั้นคือ บอร์ดให้ความรู้เกี่ยวกับภูมิปัญญาท้องถิ่นใต้ ส่ายหน้าไปมาได้ด้วย ที่เห็นจะมีสะลิงยึดตัวบอร์ดทั้งด้านบนและด้านล่างไว้ ตัวบอร์ดจึงเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ เตะตาจริงๆ เบนสายตาไปด้านข้างก็อาศัยใช้ฝาผนังขาวสะอาดเป็นฐานโชว์โปสเตอร์แนะนำ TK Park ซะเลย เงยหน้าขึ้นมองหลังคา ดูเหมือนว่าจะซับซ้อนเกินธรรมดา สอบถามได้ความว่า การออกแบบอาคารใช้การผสมผสานระหว่างบรรยากาศทันสมัย แต่ยังคงกลิ่นไอความเป็นท้องถิ่น ถึงจะได้รู้ว่าสิ่งที่เห็นนั้นคือรูปลักษณ์ของร่างแห แหมช่างคิดเสียจริง ยกนิ้วให้เลย
เมื่อมองผ่านบอร์ดไปก็เห็นลานกิจกรรมกว้างขวาง มีชื่อว่า “ลานสานฝัน” จะมีกิจกรรมสร้างสรรค์ในทุกวันเสาร์-อาทิตย์ โดยความร่วมมือจากโรงเรียน และสถาบันต่างๆ กิจกรรมมีมากมาย หากจะบรรยายเกรงว่า memory จะเต็มกันซะก่อน ตอนนี้ขอยกตัวอย่างกิจกรรมดีๆ พอเป็นพิธีก่อน อาทิ การแสดงนาฏศิลป์ เช่น การแสดงละครเร่ ละครพื้นบ้าน การแสดงดนตรี หรือ TK Workshop ต้อนรับเทศกาล ต่างๆ เช่น ขนมปังสื่อรัก จัดดอกไม้บูชา หรือเทคนิคการแต่งหน้า การเพนท์เล็บ เป็นต้น
ย้ายความสนใจไปที่ฝั่งซ้าย คืออาคาร “ห้องสมุดมีชีวิต” ติดกระจกรอบทั้งอาคาร มีลวดลายสติ๊กเกอร์สีแดง พันทแยงไปมา คือหนึ่งในรูปลักษณ์ของร่างแหเช่นกัน ในนั้นเค้ามีอะไรดีๆ มากมาย เมื่อเดินผ่านพ้นประตูกล จะเห็นโปสเตอร์แนะนำกิจกรรมสวยหรู ดูเตะตาอย่าบอกใคร ใช้ฝาผนังขาวเรียบสนิท ปิดโปสเตอร์ทับและปรับเปลี่ยนไปตามช่วงเทศกาล
สัมผัสทางสายตาผ่านไปไม่เท่าไหร่ พอก้าวเท้าเข้าไปก็สัมผัสบางสิ่งที่ปลายเท้า จึงต้องก้มมองดู นั่นคือ ทางเดินสำหรับคนตาบอด ทอดยาวไปยังทุกส่วนของอาคาร
ที่เห็นถัดมาคือเคาน์เตอร์บริการ สีแดงสดใส ดูกว้างใหญ่ ใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ ด้านข้างเค้ายังมีเคาน์เตอร์สีเหลือง สำหรับจำหน่ายของที่ระลึก TK Park เช่น เข็มกลัด และอื่นๆ อีกมากมาย ใกล้ๆ กันนั้นยังมีเครื่อง OPAC สำหรับสืบค้นหนังสือ
เดินเลี้ยวมาทางขวา มองเห็นชุดโต๊ะเก้าอี้ไม้ จึงทอดสายตาไปโดยรอบ เห็นเก้าอี้เช่นเดียวกันนี้วางรายรอบชิดขอบกระจก ดูดีเข้าที เค้าใช้ไม้ตาลโตนดไม้ในพื้นที่ผลิตขึ้นเอง
ด้านหน้ามีเคาน์เตอร์บริการ IT สองแถวสองระดับ เคาน์เตอร์แถวใน ให้บริการห้องสมุดดนตรี มีเกมดนตรีให้เล่นหลากหลาย เช่น เกมทดสอบความรู้ทางดนตรี เกมทศกันกัณฐ์คนดนตรี เกมทายเสียงดนตรี และเกมแต่งเสียงดนตรี เล่นได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ ส่วนเคาน์เตอร์ด้านนอกให้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วไป หรือเล่น TK Game ก็ได้ หากจะใช้ต้องติดต่อเคาน์เตอร์บริการเพื่อขอ ID Card สำหรับสแกนผ่านเครื่องอ่าน เพื่อ login เข้าระบบ คิดค่าบริการ ครึ่งชั่วโมง 10 บาท หากใช้ ID เพื่อเล่น TK Game ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพราะเมื่อคืน ID Card จะได้รับเงินคืนทันที
พูดถึง TK Game เป็นเกมที่พัฒนาโดย TK Park มี 2 เกม คือ เกมกุ๊กกุ๊กกู๋ (เกมสำหรับเซียนปราบผี) สอนให้น้องๆ รู้จักชนิด และวิธีการปราบผีแต่ละชนิด ส่วนอีกเกมนั้นแสนสร้างสรรค์ คือเกมสารไทย เป็นเกมดำเนินตัวละคร สอนการดำรงชีวิตในชนบท ของชาวไทยโบราณ ที่จะพาผู้เล่นสัมผัสบรรยากาศวิถีชีวิตไทยได้อย่างแนบเนียน มุมนี้เค้าเปิดเป็นเวลา เพื่อให้น้องๆ ใช้เวลาว่างจากส่วนบริการอื่นด้วย เพื่อให้เกิดประโยชน์รอบด้าน
ลัดเลาะมาเรื่อยๆ เห็นเก้าอี้โซฟาสีแดงวางเรียงตัวยาวแนวกลางของอาคาร เมื่อเพ่งดูใกล้ๆ เห็นลายเสื่อกระจูด ศิลปะประจำถิ่นถูกตกแต่งเป็นลวดลายบนโซฟา ดูแปลกตาไม่เบา
หันหลังกลับไปมองเห็นโต๊ะไม้ บริการ wireless สำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์พกพา มีแสงสว่าง พื้นที่กว้างขวางน่าใช้จริงๆ
หากคุณกำลังมองหามุมเงียบสนิท เพื่อทำสมาธิ ที่นี้มีห้องเงียบให้บริการ เพียบพร้อมด้วย TV จอแบบและหนังสืออ้างอิงให้บริการภายในห้องสมุดเท่านั้น
นำชมมาหลายส่วน ชักจะเริ่มหิว ขอหยุดเติมพลังที่มุมกาแฟประเดี๋ยว แล้วจะพาเที่ยวชมต่อนะคะ โปรดสังเกตภาพเริ่มไหวเพราะช่างภาพเริ่มหิว ระหว่างเติมพลังยังแอบเหลือบไปเห็นมุมนั่งอ่านสบาย สีสวยบาดตา ถูกใจ มุมนี้เรียกว่าบันไดรักการอ่าน
อิ่มอร่อยออกจากมุมกาแฟ อันแน่อะไรละเนี่ย..... ช่วยทายที.......นี่ก็คือสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่แสดงออกถึงเอกลักษณ์ของพื้นที่ นั้นคือรูปลักษณ์ของด้ามกริชนั่นเอง ตกแต่งเป็นโคมไฟรอบเสา เข้าท่าเสียจริง
ที่เห็นต่อมา คือชั้นหนังสือทั่วไป และชั้นหนังสือท้องถิ่นใต้ (ส่วนหนึ่งได้จากสำนักวิทยบริการ มอ.ปัตตานีด้วย แอบภูมิใจเล็กๆที่ได้กระจายความรู้ข้ามชุมชนต่างพื้นที่)
มาถึงชั้นหนังสือสุดท้ายก่อนเวียนมาจบที่เดิม คือชั้นหนังสืออักษรเบล สำหรับผู้พิการทางสายตา มีให้เลือกอ่านหลากหลายเล่ม
ออกจากห้องสมุดมีชีวิต ติดกันด้านข้าง คือ ห้องมินิเธียเตอร์ (Minitheater) สำหรับฉายภาพยนตร์ได้ทั้งบันเทิง ได้ทั้งสาระ โดยมีโครงการ 100 หนังไทยที่เยาวชนควรดู ทุกวัน เสาร์-อาทิตย์ และเชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขามาช่วยสรุป วิเคราะห์ เสาะหาแง่คิดดีๆ ที่ได้รับจากภาพยนตร์ที่ได้ดูกัน วันนั้นได้มีโอกาสดูเรื่อง ผีเสื้อและดอกไม้ หนังไทยที่สะท้อนวิถีชีวิตชาวมุสลิมชายแดนใต้ แม้จะเก่าแต่ก็ประทับใจ น่าเสียดายที่ดูไม่จบ เพราะเสียงการแสดง ณ ลานสานฝันเริ่มบรรเลงแล้ว จึงต้องรีบเร่งออกมาเก็บภาพกิจกรรมก่อน
ระหว่างรอการแสดง ข้ามไปชมอีกฝั่งอาคาร คือ ห้องเด็ก หรือ Kid Room เมื่อผ่านประตูกลเข้าไป เห็นเคาน์เตอร์บริการเด่นชัด ถัดไปเป็นชั้นหนังสือนิทานและหนังสือภาพ อยู่ด้านหลังรังผึ้ง ก็ชวนนึกไปถึงว่า ถ้าจะเปลี่ยนจากรังผึ้งเป็น.....อะไรดีให้ดูดีมีเอกลักษณ์แบบบ้านเรา หรือจะเป็นต้นมะพร้าว 4-5 ต้น วางเรียงกันดี เฮ้อ...เห็นจะไม่เข้าที เลิกคิดดีกว่า นอกจากนั้นยังมีทีวีฉายการ์ตูนสร้างสรรค์ให้น้องๆ ได้เพลิดเพลิน แต่ต้องเปิดเป็นเวลา และในวันเสาร์-อาทิตย์ 13.00-14.00 น. จะมีกิจกรรมส่งเสริมการอ่านโดยการเล่านิทาน (ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง) ในห้องนี้อีกด้วย
สุดท้ายที่เห็น คือห้องปฏิบัติการบรรณารักษ์ ผู้ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนกิจกรรมในหลากหลายรูปแบบ หมุนเวียนเปลี่ยนไปอย่างไม่หยุดนิ่ง
หลังจากได้โลดแล่นในอุทยานการเรียนรู้ครบทุกส่วน ยังมีที่ว่างให้ memory ความสุขได้อีกเล็กน้อย จึงคอยเฝ้าดูบรรยากาศยามเย็นก่อนอุทยานจะปิดลง ยังคงเห็นผู้ปกครองจูงมือบุตรหลานเดินเข้า-ออกอุทยานด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขอย่างไม่ขาดสาย
TK Park Yala คือ ความเข้าใจวัฒนธรรมที่หลากหลาย การเข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนที่มีต่อสังคม ภายใต้พื้นที่ของการรวมตัวอย่างสร้างสรรค์ของเด็ก เยาวชน และคนชายแดน นับเป็นสถานที่ที่ช่วยเยียวยาเยาวชน-คนชายแดนใต้ได้อย่างแท้จริง
หากอยากรู้จัก TK Park Yala เพิ่มเติม สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม
จากเอกสารของฝากที่นี่ได้เลยค่ะ
www.tkpark.or.th
http://www.tkpark.or.th/th/abttk/pblc/hwgtthryala.aspx
http://www.tkpark.or.th/th/abttk/pblc/prssrlsdtl.aspx?id=11621
http://www.tkpark.or.th/th/abttk/pblc/prssrlsdtl.aspx?id=11447
แล้วเจอกันใหม่ กับเรื่องเล่าประสบการณ์ดีๆ ที่จะเก็บมาฝากกันอีกไม่นานนี้นะคะ
ความเห็น (10)
- น้องซีคะ เล่าได้ละเอียดเหมือนไปเดินข้างๆ เลยค่ะ
- ดีใจแทนคนยะลาที่มีสถานที่จรรโลงใจและเป็นประโยชน์มากกว่าห้าง อิอิ
- เมื่อไหร่น้อ พิษณุโลกจะมีมั่ง
สวัสดีค่ะ พี่วันเพ็ญ
- กว่าจะเขียนออกมาได้ปาเข้าไปหลายวันเหมือนกันค่ะ
- ใช่แล้วเข้าไปใน TK PARK เหมือนได้เดินเล่นในห้าง แถมยังได้สาระดีๆ อีกด้วย
- จะรอลุ้นให้มี TK PARK ที่พิษณุโลกด้วยคนนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณ Amrin
- จากคำถามที่ว่า "TK PARK YALA ต่างกันอย่างไรกับห้องสมุดทั่วไป" โดยส่วนตัวนั้น ดิฉันมีความคิดเห็นว่า TK PARK YALA ต่างจากห้องสมุดทั่วไปดังนี้
- ความแตกต่างที่สำคัญลำดับแรก คือ วัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง TK PARK YALA นั้น เพื่อการสร้างจิตวิญญาณ และความเข้าใจวัฒนธรรมที่หลากหลายให้กับท้องถิ่นเป็นหลัก ซึ่งห้องสมุดโดยทั่วไปมักจะมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสนับสนุน ส่งเสริมการเรียนการสอน หรือการดำเนินงานของสถาบันที่ตนสังกัดเป็นหลัก
- จากความต่างในข้อแรก ส่งผลถึงความต่างในทุกด้าน เช่น "ความร่วมมือ" มีการบริหารจัดการจากความร่วมมือของหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานส่วนกลาง (สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ องค์กรมหาชนในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี) และส่วนท้องถิ่น (เทศบาลนครยะลา) โดยเฉพาะจากบุคลากรทุกภาคส่วนในพื้นที่ (ศิลปินท้องถิ่น นักวิชาการ ข้าราชการ นักธุรกิจ และเครื่อข่ายเยาวชน) ซึ่งจะเป็นผู้บริหารจัดการ TK PARK YALA ให้ดำเนินอยู่คู่ท้องถิ่นตลอดไป
- จากความร่วมมือที่ชัดเจน กว้างขวาง ทั้งจากส่วนกลาง ซึ่งมีความพร้อมในด้านงบประมาณ และประสบการณ์การจัดการห้องสมุดที่หลากหลาย และจากส่วนท้องถิ่น ซึ่งมากด้วยภูมิปัญญาและประสบการณ์ท้องถิ่นของตน ส่งผลต่อลักษณะทางกายภาพของ TK PARK YALA ที่ต่างจากห้องสมุดทั่วไปอย่างชัดเจน คือ เป็นสถานที่ที่มีความทันสมัยสอดคล้องกับโลกเทคโนโลยี แต่ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นไอของความเป็นท้องถิ่นของตนไว้อย่างสมดุล
- เมื่อมองผ่านลึกลงไปถึงทรัพยากร กิจกรรมและการให้บริการ ยังคงต่างจากห้องสมุดทั่วไป ตั้งแต่กระบวนการในการได้มา โดยบุคลากรของท้องถิ่นช่วยกันคัดเลือกทรัพยากรที่หลากหลาย ทั้งหนังสือ เพลง ระดมความคิดเห็นการสร้างสรรค์กิจกรรมหลากหลายอย่างต่อเนื่อง และเปิดให้บริการแก่บุคคลทุกระดับ ทุกเพศ ทุกวัย
- หากคุณ Amrin ได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัส TK PARK YALA เชื่อว่าคงคิดเห็นไม่ต่างจากดิฉันที่ว่า "อุทยานการเรียนรู้ ยะลา (TK PARK @ YALA) เป็นสถานที่ที่ช่วยเยียวยาเยาวชน-คนชายแดนใต้ได้อย่างแท้จริง"
แป้นกำลังจะไปกรุงเทพ ตั้งใจจะไปTK PARK ที่ กทม.เหมือนกัน ถ้าได้ไปจะเก็บภาพบรรยากาศมาแลกเปลี่ยนนะคะ
คิดถึงพี่ซีจัง
พี่ซีผอมลงนะคะ กินเยอะๆหน่อยนะจะได้อ้วนเหมือนแป้น
สวัสดีค่ะน้องซี
บนความตึงเครียดก็ยังมีความผ่อนคลายนะค๊ะ น้องซีเล่าเรื่องได้สมกับเป็น librarian เลยค่ะขอชื่นชม อ่านแล้ว นึกภาพตามเลยค่ะ TK Park Yala เหมือนที่ กทม. เลยค่ะบรรยากาศเดียวกันเด๊ะเลย อยากให้มีแบบนี้อีกเยอะๆกระจายออกไปสู่จังหวัดต่างๆทั่วประเทศ อยากให้เด็กไทยของเรารักการเรียนรู้ค่ะ(ลูกๆของข้าพเจ้าด้วย) ความรู้เป็นสมบัติที่ติดตัวไปตลอดชีวิตนะค๊ะ ถ้าเด็กไทยมีสมบัตินี้ติดตัวกันไปเยอะๆอนาคตประเทศไทยจะเป็นอย่างไรมันก็น่าคิดนะ อันนี้น่าส่งเสริมค่ะ สำหรับดินแดนไทยไกลปืนเที่ยงทั่วทุกมุมเมืองถ้ามีแบบยะลาบ้างก็คงดีไม่น้อย อิจฉาจัง รักเมืองไทยจริงๆ
คิดถึง librarian -C จังเลย...สบายดีใช่ไม๊คะ
- เล่าได้เห็นภาพเลยค่ะ
- สีสันและการจัดโซนต่าง ๆ ไม่แตกต่างจาก tk park ที่ กรุงเทพฯ เลยค่ะ
- อยากให้มีแบบนี้หลายๆ ที่จังเลยค่ะ
คนน่าสงสาร
พี่ๆทีมงานคับเอาเกมส์ กุ๊กุ๊กู๋มาให้ผมโหลดเล่นหน่อยนะคับอยากเล่น นะนะคับ ขอร้อง