เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ คณะ เยี่ยมเยียน และติดตามการดำเนินงาน ศูนย์แพทย์ชุมชน ของ สปสช. ได้เยี่ยมสำรวจ CMU ห้วยขะยุงที่ผมทำงานอยู่ มีอาจารย์ อุทัย สุดสุข อ.ไพจิตร ปวะบุตร อ.วีระวัฒน์ พันธ์ครุฑ และอาจารย์อีกหลายท่าน รวมทั้ง สปสช.เขต ผมได้ present case ที่เราได้ติดตาม และทำงาน ด้วยความตั้งใจอยากที่จะแสดงให้เห็น ถึงความสำคัญ ของงานปฐมภูมิ ว่าช่วยเราได้อย่างไรบ้าง ซึ่งเวลาเราทำงานที่ รพ. เรารู้สึกว่ามีบริบทที่จำกัดบางอย่าง และเราก็พบว่า ข้อจำกัดดังกล่าว ได้รับการเสริม และอุดช่องว่างของระบบสุขภาพ ด้วยงาน ปฐมภูมิ ดูค่อนข้างจะตรงใจอาจารย์พอสมควร
สิ่งที่งานปฐมภูมิ ต้องสามารถแสดงให้ได้ คือ ความเรียบง่าย การเข้าถึงได้ง่าย และ การดูแลที่ต่อเนื่อง ผสมผสาน การดูแลด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์
ซึ่งเป็นงานที่ การดูแลระดับทุติภูมิ และ ตติยภูมิ มีข้อจำกัด ด้วยบริบทของระบบเอง ( ผมว่า การดูแลด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์ สามารถเกิดขึ้นได้ทุกระดับขึ้นอยู่กับผู้ให้ แต่ การดูแลต่อเนื่อง และการเข้าถึงได้ง่าย และการดูแลที่เป็นองค์รวมเกิดขึ้นในระบบ ปฐมภูมิ ง่ายกว่ามาก ด้วยความเอื้ออำนวยของระบบเอง ) ถ้าเรามอง pcu เป็นเพียง extended opd พัฒนา คลินิกบริการให้เทียบเท่า โรงพยาบาล หรือ เราให้ pcu ทำงานเพื่อให้ได้เป้าของงาน เป็นปริมาณ กี่ % แล้วเราก็ให้ เจ้าหน้าที่ทำงานบางอย่าง เพื่อให้ได้ตัวเลขบางตัว เราอาจจะพลาดสิ่งสำคัญ ที่ทำให้ PCU มีความหมาย มีคุณค่า และเป็นส่วนหนึ่งของระบบที่ขาดไม่ได้
REview case จากตอนที่แล้ว
ผลจากการเติมเต็มระหว่างกัน ของ 1,2,3 care เราพบว่า ผลการดูแลที่สามารถทำต่อเนื่อง กัน ด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์ ความเข้าใจตรงกันระหว่างผู้ให้บริการ และผู้รับบริการ ผลลัพท์ออกมาดีเกินคาด
เราใช้เพียงการทำแผล การดูแลแผล ที่สามารถดูแลได้ง่าย ๆ แต่เอาใจใส่ ง่ายมากเสียจน เจ้าหน้าที่ pcu ภรรยา ลูกสาว หลาน ก็สามารถช่วยดูแลแผล ที่ดูจะรุนแรงนี้ได้ ( ซึ่งส่วนใหญ่จำเป็นต้องได้รับการดูแลถึง ตติยภูมิ ถึอว่าแกโชคดีมากที่ กลับมาเป็นอย่างนี้ได้ ) ตอนนี้แกตัดรองเท้า ( แกไปตัดเอง ) พร้อมที่จะหัดเดินได้แล้ว ผมบอกแกว่า รองเท้าคู่นี้คงไม่เหมาะนัก ค่อย ๆ ตัดใหม่ เดี๋ยวก็จะดีเอง คุณภาพชีวิตกลับมาดีขึ้น,มาก ทั้งหมด เกิด จากกระบวนการดูแลต่อเนื่อง continuety care ที่เป็นจุดเด่นที่สำคัญเรื่องหนึ่งของ primary care เล
สิ่งที่เราได้เรียนรู้ จาก เรื่องนี้
1. งานปฐมภูมิ primary care ไม่ใช่การดูแลเพียงโรคง่าย ๆ หรือเป็นเพียงด่านแรกที่จะคัดกรอง โรค แต่เป็นระบบที่ถ้ามีความเข้มแข็ง จะสามารถเติมเต็มในส่วนขาด ของการดูแลระดับ ทุติยภูมิ และ ตติยภูมิ
ในเรื่องของการดูแลต่อเนื่อง การเข้าถึงได้ง่าย และการผสมผสานการดูแล ซึ่งทุกระดับ มีความสำคัญ และมีบริบทที่แตกต่างกันแต่เกื่อกูลกันเป็นอย่างดี ผมรู้สึกได้ว่าเรากำลังเดินในเส้นทางนี้อยู่
ยังมีต่อนะครับ
ขอปรบมือดังๆ ให้ทีมงาน วารินชำราบของอ หมอจิ้นด้วยค่ะ
ด้วยความนับถือในผลงานทุกท่าน