การทำระบบดูแลนักเรียนของครูแหง๋มคือการคลายความทุกข์ของนักเรียน
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสัปดาห์การสอบวัดผลการเรียน แน่นอนว่าผู้ปกครองต้องมาชำระค่าพัฒนาการเรียน( ซึ่งสามารถชำระได้ตั้งแต่ก่อนเรียนจนถึงวันสอบ )
สิ่งที่ครูปราณี หรือที่รู้จักกันสนิทๆว่า ครูแหง๋ม สังเกตเห็นนักเรียนชายคนหนึ่งมีสีหน้าเศร้าๆ พอถามได้ความว่า แม่ยังไม่มีเงินมาจ่าย ทั้งของน้องอีก ๒ คน ถามไปถามมา ก็รู้ว่าพ่อของนักเรียนคนนี้เพิ่งเสียชีวิต
ครูประจำชั้นคือครูเจี๊ยบส่งชื่อนักเรียนคนนี้เพื่อรับทุนยุววินเซนเดอปอล (ยุววินเซนเดอปอลเป็นกลุ่มครู นักเรียน ที่ช่วยเหลือผู้ทุกข์ร้อนและทุนการศึกษาโดยรับเงินมาจากผู้มีจิตศรัทธา) แต่จะได้รับเงินปีการศึกษา ๕๐
ครูแหง๋มนำเรื่องความทุกข์ของนักเรียนไปเล่าให้เพื่อนนักเรียนในห้องฟัง วันต่อมา นักเรียนหญิงในห้องซึ่งเป็นเพื่อนห้องเดียวกันนำเช็คเงินสดมาให้บอกว่า คุณแม่ให้นำมาให้ครูเพราะหนูไปเล่าให้คุณแม่ฟัง อีกอย่างบ้านของเขาก็อยู่ใกล้ๆบ้านหนูแต่ไม่เคยรู้ความทุกข์ของเพื่อนคนนี้
ครูแหง๋มไปติดต่อห้องการเงินก็ทราบว่ายังค้างอีกเกือบหกพันบาท ผู้ปกครองใจบุญเขียนเช็คเงินสดแต่ไม่ได้ระบุตัวเงิน ครูแหง๋มจึงดำเนินการแทนคุณแม่ของเด็กนักเรียนที่ทุกข์ใจอยู่ หลังจากที่โทรศัพท์ไปบอก
เมื่อดำเนินการเสร็จก็โทรศัพท์ไปบอกคุณแม่ของนักเรียนที่ให้เช็คมา คำที่ได้ยินคือ เหตุที่เขาบริจาคครั้งนี้ไม่ใช่เพราะคุณแม่คิดหรอกแต่เพราะลูกสาวมาเล่าให้ฟังและบอกว่า สงสารเพื่อน อยากช่วยเพื่อนโดยจะขอนำเงินของลูกที่เก็บออมไว้จ่ายให้
ครูแหง๋มให้นักเรียนเขียนจดหมายขอบคุณผู้ปกครองและเพื่อน สิ่งที่ครูแหง๋มสังเกตเห็นคือรอยยิ้มบนใบหน้าของนักเรียนชายที่ตนเป็นธุระให้ ความทุกข์ที่คลายลงของนักเรียนเป็นสิ่งที่ครูแหง๋มได้ดูแล
ปีการศึกษาหน้ายังหวังน้ำใจที่จะหลั่งลงมาอยู่แต่ยังไม่รู้ว่าจะมีหรือไม่ และจะเป็นใคร
ไม่มีความเห็น