ผมได้มีโอกาสได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ซึ่งผู้เขียนได้เน้นให้เห็นถึงการคิดในอนาคต และมีตอนหนึ่งที่อ่านแล้วจึงนำมาเล่าสู่กันฟังเนื่องจากอาจเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย
"การเลือกสาขาวิชาเรียน เราไม่เพียงเลือกที่ตนเองพึงพอใจเท่านั้น แต่ต้องเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการของสังคมและตลาดแรงงานในอนาคตด้วย"
.....ผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ไม่เพียงแต่รู้ความต้องการของผู้บริโภค ยังต้องทราบถึงสถานะของคู่แข่ง สภาพคล่องทางการเงินของสถาบันการเงิน แนวทางการดำเนินนโยบายการเมืองและเศรษฐกิจทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ....
หลักหารคิดนี้ทำให้เราตระหนักว่าเราไม่สามารถกำหนดอนาคตของตนเองได้ โดยไม่คำนึงถึงปัจจัยภายนอก
การที่เราต้องได้ผลกระทบจากภายนอก ถ้าไม่คาดการณ์ล่วงหน้าเราอาจต้องเผชิญหน้ารับผลกระทบที่เลวร้าย ดังนั้นการคิดเชิงอนาคตในเรื่องใด ๆ ก็ตามจึงควรมองให้ครบทุกด้านที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น ทั้งทางตรงทางอ้อม หรือเรียกว่าการมองอย่างองค์รวม (holistic view) โดยตระหนักว่า ทุกสิ่งในโลกนี้ต่างอยู่อย่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน มีความสัมพันธ์เชิงเหตุเชิงผลเชื่อมโยงกัน ไม่มีสิ่งใดอยู่ในสูญญากาศ หรืออยู่อย่างโดดเดี่ยวโดยไม่สร้างผลกระทบให้กับสิ่งใด การพิจารณาอย่างไม่รอบคอบอาจทำให้มีการตัดตัวแปรหรือปัจจัยบางตัวออกจากการคาดการณ์อนาคต อันเป็นเหตุให้การคาดการณ์อนาคตคลาดเคลื่อนได้ ในการคาดการณ์อนาคตจึงจำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยกำหนดอนาคต หรือปัจจัยขับเคลื่อน (driving force) ที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดอนาคตของเรา
ทุกปัจจัยเราได้ตระหนักมาทุกหัวข้อแล้วก็คงมีการคิดมีแนวทางเชิงอนาคตที่ดีให้ครูศรช.บ้าง