ขอออกตัวก่อนครับว่าผมไม่มีภูมิธรรมใดๆ ทั้งสิ้น เป็นแต่เพียงผู้นำภูมิธรรมของปราชญ์ท่านอื่นมาแนะนำให้อ่านกัน ท่านผู้แวะเวียนท่านใดจะแนะนำ ติชมอย่างไรก็ยินดีครับ ขอแต่ให้เป็นในเชิงสร้างสรรค์จะดีใจมากครับ
จากที่เป็นผู้ชอบอ่านหนังสือแนวธรรมะมานานพอสมควร(อ่านบ้าง หลับบ้าง) ในใจลึกๆ หวังว่าถ้าได้รู้ธรรมทะลุปรุโปร่งเมื่อไร ก็อยากช่วยพยุงหลักแห่งธงค์ธรรมให้อยู่ยาวนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังมองให้เห็นฝั่งสักที มาคิดดูแล้วชีวิตเรานั้นแสนสั้นนัก ในวินาทีถัดไปจะเกิดอะไรกับชีวิตเราก็มิอาจรู้ได้ ในเมื่อรู้เองไม่ได้ อย่างน้อยก็คอยเป็นกระบอกเสียงแห่งธรรม นำธรรมะจากหนังสือที่เคยอ่านแล้วขีดเส้นใต้เอาไว้ หรือกำลังจะขีดเส้นใต้มาพิมพ์เผยแพร่ก็ยังดี ผมเลยตั้งชื่อบทความนี้และบทความถัดๆ ไปว่า ธรรมะขีดเส้นใต้ ครับ
มาเริ่มกันเลยครับ
..."แม้ที่้สุดแต่ความรักในองค์พระพุทธเจ้าของบุคคลบางคนที่เป็นอริยบุคคลขั้นต่ำยังไม่ถึงพระอรหันต์(เช่นพระอานนท์ ในสมัยที่พระศาสดายังทรงพระชนม์อยู่) ทั้งๆ ที่รู้จักลู่ทางแห่งพุทธธรรมอย่างถูกต้อง วิถีแห่งพุทธธรรมของท่านก็ยังไม่วายถูกสกัดไว้ด้วยภูเขา กล่าวคือองค์พระพุทธเจ้าที่ท่านยึดถือไว้ด้วยความรักของท่านเอง ฉะนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องกล่าวถึงพระพุทธเจ้าชนิดที่เป็นดวงเป็นแสง อันเป็นที่ตั้งแห่งความรักจนหลงใหลเหล่านั้นเลย และในขั้นสุดท้าย อาจกล่าวได้ว่าถ้ายังมีความยึดถือว่ามีตัวตนที่เป็นนั่นเป็นนี่ เช่น เป็นพระพุทธเจ้า เป็นต้น อยู่เพียงไร ก็ยังหมายความว่าวิถีแห่งพุทธธรรมของเขาไปได้เพียงแค่นั้นเท่านั้น โดยเผชิญกันอยู่กับภูเขาแห่งความยึดถือลูกนั้น. เมื่อใดพระพุทธเจ้าของเขามาเกิดเป็นของว่างจากความมีตัวตนเช่นเดียวกับสิ่งทั้งปวงแล้ว ภูเขามหึมานั้นก็พังทลายไปเองโดยรอบตัว. โดยข้อความที่กล่าวมา เราพอจะเห็นได้ว่า นับตั้งแต่ปุถุชนสามัญที่สุดขึ้นไปเป็นลำดับ จนกระทั่งถึงพระอริยบุคคลชั้นที่รองลงมาจากพระอรหันต์นั้น วิถีแห่งพุทธธรรมของแต่ละคน ยังมีภูเขาขวางอยู่. ไม่มีภูเขาอะไรอื่นนอกไปจากความยึดถือเกี่ยวกับตัวตน และไม่มีความยึดถือเกี่ยวกับตัวตนอะไรอื่น ยิ่งไปกว่าความยึดถือในสิ่งที่ตนถือเอาเป็นที่พึ่งของตน, ซึ่งสำหรับพุทธบริษัทก็ไม่มีอะไรอื่นยิ่งไปกว่า "พระพุทธเจ้าตามทัศนะของเขา" เขายังมีพระพุทธเจ้าตามทัศนะของเขาอยู่เพียงใด ก็แปลว่าเขายังมีความยึดถืออยู่เพียงนั้น." ...
จากหนังสือ ชุมนุมปาฐกถาชุดพุทธธรรม หน้า ๑๓๖-๑๓๗ โดย พระคุณเจ้า พุทธทาสภิกขุ