อีกหลายขั้น X ... นับไม่ได้ X .... ตอบแล้ว !




ดิฉันเห็นบันทึกข้อความเรื่อง การรายงานผลการปฏิบัติงานเพื่อประเมินความดีความชอบครั้งที่ 1 แล้วนึกยิ้มชื่นใจว่ามหาวิทยาลัยได้พยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้เกิดความยุติธรรมที่สุด ในการพิจารณาความดีความชอบ


ดิฉันอ่านโจทย์ที่เหมือนการเติมคำในช่องว่างทีละช่องด้วยความมั่นใจ งานผลิตบัณฑิต งานสอน ดิฉันจะเขียนตามความเป็นจริงตามที่ได้ทำ งานนิเทศ ดิฉันก็มีรออยู่ล้นมือ ที่ว่างเท่านี้เห็นจะไม่พอเขียน


งานกิจการนักศึกษา ทำให้ความมั่นใจของดิฉันสั่นคลอนเล็กน้อย เพราะดิฉันเคยไปประกาศก้องกับนักศึกษาทุกรุ่นว่า ถ้าไม่ตั้งใจทำงานให้เต็มที่ อย่าใส่ชื่อครูเป็นที่ปรึกษาเชียว ครูจะช่วยเต็มที่ แต่อย่าใส่ชื่อครู! ดิฉันมั่นใจว่ากฏเหล็กนี้ นักศึกษาจะไม่กล้าฝ่าฝืน แล้วก็สมใจ เพราะเด็กไม่เคยใส่ชื่อดิฉันเป็นที่ปรึกษาเลยแม้แต่งานเดียว


งานอื่นๆมีอีกหลายช่อง หลายงาน งานศึกษาดูงาน งานโครงการพิเศษ งานอื่นๆ โปรดระบุ...

เอ..... ดิฉันไม่ได้ทำอะไรสักอย่างที่ตรงกับชื่องานเหล่านี้เลยหรือ?

ดิฉันให้หวั่นใจด้วยความรู้สึกว่า ถ้านับเป็นคะแนนหรือนับเป็นช่องแล้วต้องมีทุกช่อง เหมือนต้องตอบทุกช่องในข้อสอบ ถ้าไม่ตอบครูไม่ให้คะแนน ดิฉันจึงต้องพยายามคิดหาเรื่องมาตอบให้เข้ากับโจทย์ให้จงได้ แต่ตอบไปแล้วก็ให้หวั่นใจอยู่ดี


งานวิจัย ดิฉันไม่ลงมือทำ งานแปล แต่งและเรียบเรียงหนังสือ ดิฉันก็ทำแบบกระท่อนกระแท่น งานปรับปรุงและพัฒนาเทคโนโลยี ดิฉันทำเป็นแค่เขียนป้ายติดหน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์ เตือนใจให้คนที่ใช้เครื่อง มีมารยาทรู้จักคิดถึงคนอื่น ส่วนคอมพิวเตอร์หรือเทคโนโลยีอื่นๆนั้น ดิฉันไม่ค่อยสนิทด้วย

สั่งอย่างมันกลับทำอีกอย่าง ดิฉันเลยเลิกคบ งานบริหาร ดิฉันทำไม่เป็น งานบริการก็จับฉ่าย มีมากมายแต่ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน.... เพราะดิฉันไม่ใช่คนเก่ง


หากแต่งานที่ดิฉันตั้งใจทำ ทุ่มใจทำ มันกำหนดเป็น ชั่วโมงต่อวัน ไม่ได้ ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ไม่ได้ สัปดาห์ต่อภาค ก็ไม่ได้


การเพียรฝึก เพียรสร้าง เพียรสั่งสม อบรม สั่งสอนให้เป็นคนดี มีความเป็น มนุษย์ ที่ดีของสังคมในภายหน้านั้น มันเป็น Uncountable Thing เป็นจำนวนนับไม่ได้

......แล้วก็เสียเวลาชะมัดเลยด้วย.....


ดิฉันบอกเด็กๆเสมอว่า ครูไม่ได้แต่งงานจนทุกวันนี้ก็เพราะพวกหนู พวกเธอฮาครืน... บอกดิฉันว่า ถึงไม่มีพวกหนู..ครูก็ไม่ได้แต่ง ...น่าน...!


ดิฉันไม่โกรธนักศึกษา แต่โมโหตัวเองว่าไร้ความสามารถ ทำมาทั้งปี ทำได้แค่งานเดียว ไม่มีหลักฐาน ไม่มีพยาน ไม่มีอะไรทั้งสิ้น เมื่อต้องแสดงหลักฐานด้วยการบ่งชี้เป็นเบื้องต้นดังนี้ จึงไม่รู้จะเอาอะไรมาเขียน เพราะโจทย์ที่ให้ ไม่ตรงกับ..งาน.. ตามความเป็นจริงที่ดิฉันทำ


และที่สำคัญก็คือ ครูจำนวนมากในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ทำ..งาน..ที่นับไม่ได้นี้มาก่อนดิฉัน ท่านเหล่านั้นตอบโจทย์ได้ทุกข้อ แล้วก็ยังทำ..งาน..เช่นที่ดิฉันว่านี้ได้ดีอย่างไม่มีที่ติ


ดิฉันกลัวภาระงานไม่ครบ อายที่จะบอกว่าดิฉันทำอยู่งานเดียวที่มุ่งมั่น ตั้งใจ ..ทำด้วยหัวใจทั้งดวง.. แล้วก็มีความสุขเหลือหลาย แม้ว่างานนี้จะเอาเวลาของดิฉันไปเกือบทั้งชีวิต เพราะมันนับเป็น หนึ่ง สอง สาม ไม่ได้ เอาหลักฐานมาให้ดูไม่ได้ ถึงให้ดูแล้วก็นับไม่ค่อยได้ เพราะไม่รู้จะเอาหน่วยอะไรมานับ


เมื่ออนุวัฒน์(นามสมมุติ) ไม่มีค่าเทอม ดิฉันให้แกไปห้าร้อย รู้ว่าไม่ได้คืนแน่แต่ก็เต็มใจให้ จะนับเป็น 500 คะแนนหรือ


เมื่อน้องออยล์ (นามสมมุติ) อกหัก พร้อมกับที่พ่อแม่หย่ากัน ร้องไห้มาหาดิฉัน ดิฉันเหน็ดเหนื่อยกับการปลอบโยนและชี้ให้เห็นว่าชีวิตครอบครัวนั้นเป็นเช่นนี้ ส่วนเรื่องอกหักนั้นก็ขอยืนยันว่าป้ายหน้ายังมี (ดูครูเป็นตัวอย่างซี) แล้วก็ไล่แกกลับไปเรียน ..น้องออยล์แฮปปี้เรียนดีสนุกสนาน จะนับเป็นกี่คะแนนดี


เมื่อนักศึกษากลุ่ม 2 กับกลุ่ม 7 ในภาควิชาของดิฉัน แทบจะตีกันสิ้นชีวิต เพียงเพราะแบ่งงานกันไม่ลงตัว ดิฉันคิดออกแบบการสื่อสารอย่างละเอียดรอบคอบ แล้วขึ้นแท่นวางแผนเทศนาติดต่อกันทั้งเทอมจนน้ำตาร่วงไปทั้งสองกลุ่ม หันมาสามัคคีร่วมกันจนกิจกรรมดีเด่นทั้งห้อง กลายเป็นโรคกิจกรรมดีเด่นติดต่อไปถึงรุ่นน้อง ต่อเนื่องมาจนบัดนี้ จะนับเป็นกี่คะแนนดี


เมื่อเห็นขยะ ดิฉันเก็บโชว์ สอนให้เก็บ สาธิตการเก็บขยะฟรีตัวตัวทั่วมหาลัย ไม่เลือกวัน เวลา และสถานที่ (เก็บทันทีเมื่อนึกออก) จะนับเป็นกี่คะแนนดี


ฯลฯ ของงานที่ดิฉันทำ เป็นงานเล็กๆของครูธรรมดา 1 คน ที่ทำ Port Folio ไม่ได้ เพราะไม่เข้ามาตรฐานภาระงาน ISO ใดๆในโลกนี้


ดิฉันจึงอ่านข้อความในแบบรายงานผลความดีความชอบด้วยความมั่นใจที่หดสั้น ถ้าการรายงานผลนี้เป็นการนับคะแนน ก็แสนจะไม่ตรงจุด ไม่ตรงโจทย์ ..ข้อมูลที่ดิฉันจะเขียนก็หดจนสั้นกุดจุ๊ดจู๋ ถ้าเป็นกางเกงคงไม่มีใครกล้าใส่เดินโชว์


ดิฉันรักมหาวิทยาลัยและไม่เดือดร้อนกับ 0 หรือ 2 ขั้น แต่งานเล็กๆที่ดิฉันตั้งใจทำทุกวัน นับเป็นภาระงานไม่ได้ ไม่ตรงตามนโยบาย ไร้ซึ่งความเป็นนักวิชาการ ...ดิฉันหวั่นใจ เพราะดูเสมือนตนเองเป็นบุคคลไร้ความสามารถ หมดความหมาย และไม่ได้แต่งงาน !


ช่างเป็นชีวิตที่รันทดอะไรเช่นนั้น !

ดิฉันเดินหงอยๆไปที่เซ็นชื่อประจำวัน หยิบเอกสารในช่องจดหมายที่วันนี้ดูหนากว่าปกติ ดิฉันสะบัดดู มีไปรษณียบัตรร่วงลงมาฉบับหนึ่ง พลิกอ่านเห็นลายมือโย้เย้เขียนว่า

อาจารณ์........ที่เคารพ
ผมได้งานแล้ว ถึงเป็นอนุปริญญาแต่ก็มีงานทำ ผมมุ่งมั่นตั้งใจจริงตามที่อาจารณ์สอน    ตอนนี้ขับรถให้สำนักงาน (โย้เย้อ่านไม่ออก) และพิมพ์งานที่เขาใช้ ผมปลูกผักขายด้วย         ไม่เป็น..ลูกจ้างตลอดชีวิตไม่คิดทำเอง… เหมือนที่อาจาร์สอน ผมคิดถึงอาจารย์ ถึงได้เขียนไปรษณีมา ขอบคุณที่สอนให้ผมเป็นคนดี ขอให้อาจาร์ได้แต่งงานเร็วๆ
เคารพ
(โย้เย้อ่านไม่ออก)

ปล.ทุกสิ่งที่อาจารย์สอนมีค่าต่อชีวิตผม


ดิฉันอ่านไปรษณียบัตรจบแล้วก็เดินยิ้มกริ่ม ยิ้มกริ่ม ตลอดทางไปคณะ เพื่อนทักถามว่าถูกหวยมาหรือ

ดิฉันได้แต่ยิ้มกริ่มตอบไป หัวใจมันยิ้มกริ่ม ยิ้มกริ่ม ตลอดวัน


โจทย์ของท่าน ดิฉันตอบไม่ได้ แต่คำถามของดิฉัน มีคนตอบแล้ว...


......มีคนตอบดิฉันแล้ว ! ……

ที่มา  เว็บไซต์วิชาการด็อตคอม กระทู้  การรู้เท่าทันการสื่อสาร   ความเห็นเพิ่มเติมที่ 120  (10 ก.ย. 2549) 

คำสำคัญ (Tags): #บทความ
หมายเลขบันทึก: 81444เขียนเมื่อ 1 มีนาคม 2007 20:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:36 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (21)
คำตอบอยู่ในใจค่ะ  หลาย ๆ คนคงเจออย่างอาจารย์ ค่ะ  แต่เราจะภาคภูมิใจที่สุดเมื่อเด็กนึกถึงเราเมื่อเขาจบไปแล้ว  เป็นกำลังใจให้คนทำงานด้วยใจค่ะ

ขอบพระคุณมากค่ะ อาจารย์ราณี   :)

ดิฉันเขียนเรื่องนี้เพราะนึกสนุกขึ้นมาในใจ  เมื่อเห็นใบประเมินผลน่ะค่ะ      ดิฉันคิดว่าคนที่เป็นครูเพราะความรักนั้น  จะสุขกายสบายใจดีเมื่อได้ทำหน้าที่ของครู  โดยไม่ใคร่กังวลกับใบอะไรๆที่ว่านี้เท่าใดนัก 

แต่ดิฉันอยากสื่อสารกับท่านที่ยังก้ำกึ่งๆอยู่ว่าไม่ทราบจะรู้สึกอย่างไรดีนั้น  หากอ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกดีขึ้นมาบ้างแม้สักเล็กน้อย.......

ดิฉันก็จะดีใจมากค่ะ  \^_^/

เห็นด้วยครับผม เป็นครูเพราะหัวใจที่รักในจิตวิญญาณแห่งครู มีคุณค่ามากกว่ากระดาษเพียงแผ่นเดียวหลายล้านเท่า ... : )

ผมเปิดที่อยู่ตามที่อาจารย์บอกไว้แล้วครับ  สร้างชุมชนตัวเองขึ้นมาแล้วครับ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับผม ขอบพระคุณมากครับ

ขอให้คุณนายสติ มีความสุขที่ได้ทำในสิ่งที่รัก  และอย่าลืมเล่าสู่กันฟังบ่อยๆนะคะ 

ดิฉันอ่านอ่านบล็อกที่คุณ นายสติ ลิงก์ให้แล้วก็เห็นว่าคุณใช้ภาษาได้ดี อ่านแล้วจับใจ  ถ้าเขียนข้อเขียนเชิงสร้างสรรค์ประเภท เรื่องสั้น บทกวี ร้อยแก้วสั้นๆที่นำเสนอจินตนาการหรือความคิดคำนึง  คงน่าอ่านมากเลยค่ะ......

ขอบพระคุณสำหรับคำชมเชยครับ ... ผมกำลังฝึกรับผิดชอบในสิ่งที่เขียนอยู่ครับ วันหลังผมจะเล่าให้ฟังนะครับ ว่าผมทำอะไรบ้าง ... ทำไมต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เขียน ...

เข้ามาเขียนความเห็นตั้งยาว แล้วเผลอไปคลิก copy ชื่อคุณ ดอกไม้ทะเล แรงไปหน่อย หลุดออกไปเลยค่ะ เสียดายจัง

แต่อยากบอกใหม่สั้นๆว่า เข้าใจ๊ เข้าใจค่ะ ดีใจที่คุณ ดอกไม้ทะเล มองเห็นรางวัลชีวิตที่ไม่ติดกับการประเมินค่ะ ถ้าเขายังไม่ไล่ออกเพราะคะแนนประเมินไม่เข้าเกณฑ์ก็คงความเป็นเราเอาไว้เถอะค่ะ

อ่านแล้วเหมือนได้ "ส่องกระจกความคิด"ของตัวเองเลยค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าเราช่างคิดอะไรๆเกี่ยวกับระบบได้เหมือนกันจังค่ะ ตัวเองไม่โชคดีเหมือนคุณ ดอกไม้ทะเล ที่ได้อบรมสั่งสอนคนอื่นให้มีจิตสำนึกดี คิดดี ทำดี

ทำดีๆต่อไปนะคะ คะนงคะแนนประเมินอะไรนั่น ช่างเขาเถอะค่ะ จะมีคนคิดนอกระบบประเมินแบบเราๆบ้างก็คงไม่แปลกอะไรมาก เราประเมินแบบของเราว่าเราได้ทำเต็มที่แล้วก็เพียงพอค่ะ

มีบันทึกที่เขียนแล้วนานแล้วเหมือนกันค่ะ แต่ดูเหมือนจะเข้ากับบรรยากาศของบันทึกนี้เลยนำมาฝากค่ะ

แว่บไปอ่านแล้วค่ะ    คุณโอ๋เขียนได้กระชับเข้าประเด็นดีจัง  ตรงใจด้วย  ทำให้คิดถึงพระคุณของครู ...และรู้สึกอยากขอบคุณ "คนทุกคน" ที่ทำให้ได้รู้ ได้เข้าใจ  ได้เห็นอีกหลายแง่มุมของชีวิต

สำหรับระบบประเมินฯ นี่ก็สนุกดี  ดิฉันเขียนแล้วก็ขำตัวเองทุกที  เพราะมีงานตรงตามโจทย์อยู่ไม่กี่ช่อง  นอกนั้นเป็นงานที่เราหาเรื่องทำโดยไม่มีในโจทย์  แต่เราหาเรื่องตั้งโจทย์ของเราเอง  แล้วก็ทุ่มเททำไปอย่างตั้งใจ  (คือพูดตรงๆว่าล้มลุกคลุกคลานไปตามประสา)

อย่างไรก็ตาม ความน่าชื่นใจก็อยู่ที่ว่าเราเห็นผลในตัวคนเป็นๆจริงๆ  และคนผู้นั้นจะมาบอกเราเอง  ในสักวันหนึ่ง ซึ่งไปกำหนดล่วงหน้าไม่ได้ 

เพราะไม่ใช่การทดลองในห้องทดลองวิทยาศาสตร์ ที่อาจกำหนดและควบคุมตัวแปรได้    แต่เป็นการสร้างให้ซึมซับเข้าไปในใจคนตัวเป็นๆที่เราไม่มีวันบังคับอะไรได้เลย..... นอกจากการทุ่มเทสร้างด้วยหัวใจทั้งดวง  ....แล้ววันหนึ่งเขาก็จะจากเราไป....   

....แล้วเราก็รอจนกว่าจะถึงวันที่เขากลับมาบอกเราว่าที่เราทุ่มเททำไปนั้น ....เขาได้อะไร..... (วงเล็บ   รอเพราะเราอยากรู้   จะได้หาวิธีทำที่ดีที่เหมาะกว่าเก่า   ...มิใช่เพื่อรอทวงเอาความดีแต่อย่างใด)

และต้องทำใจด้วยว่าอาจไม่มีวันนั้น  เพราะเขาอาจลืมเราไปแล้ว.....   ....เหมือนกับที่เราเคยลืมครูของเรา......

ดิฉันยังคงมีความสุขเงียบๆกับงานที่ดิฉันรักอยู่เสมอค่ะคุณโอ๋  เป็นงานครูพื้นๆธรรมดา  ก็เหมือนกับงานแม่บ้านธรรมดา

ดิฉันได้เห็นแล้วว่าการทำงานบ้านของแม่บ้านนั้น  จะไปเรียกร้องเอาความดีมิได้  เพราะเป็นหน้าที่สามัญที่พึงทำโดยปกติวิสัยของคนที่เป็นแม่บ้านอยู่แล้ว  

....เหมือนกับความเป็นปกติวิสัยของคนทุกคนที่เป็นแม่....  ก็ต้องทำหน้าที่ของแม่ไป 

 อย่างไรก็ตาม    ความยิ่งใหญ่ของคนที่เป็นแม่ คือความรักลูกอันท่วมท้น และการเสียสละทุกสิ่งเพื่อลูกได้นั้น ไม่อาจวัดและจัดลำดับได้  ไม่สามารถนำไปตีค่าเป็นระดับปริญญาได้

จึงไม่เคยได้ยินว่ามีองค์กรการศึกษาใด   ที่จะนำคุณแม่ไปจัดลำดับเพื่อให้ปริญญา   "มารดาดุษฎีบัณฑิต มารดามหาบัณฑิต  หรือมารดาบัณฑิต"   แก่คุณแม่ในโลกนี้เลยแม้แต่คนเดียว 

ดิฉันจึงไม่ใคร่กังวลแก่การจัดลำดับ และการนับชิ้นคุณงามความดี  เพื่อให้รางวัล  เพราะไม่ตรงกับความเชื่อของดิฉัน 

แต่ดิฉันกังวลกับการสอนหรือฝึกคนให้ทำความดี"โดยไม่ต้องหวังผลตอบแทน"จากการทำความดีนั้น  อันเป็นเรื่องยากชะมัด 

และที่ยากกว่านั้นคือ   ก่อนจะฝึกคนอื่น ตัวดิฉันเองก็ต้องทำให้ได้เสียก่อน  

ฝึกอะไรก็ไม่ยากเท่ากับฝึกใจตัวเองอ่ะค่ะ..... :-)

คุณดอกไม้ทะเลแวะไปอ่านบันทึกต่างๆในบล็อกคุณ Handy บ้างหรือยังคะ อาจจะอิ่มอกอิ่มใจเพิ่มขึ้นอีกด้วยนะคะ กับความเป็นครู เป็นคนธรรมดาแบบเราๆที่ไม่เหมือนใคร ไม่หวังอะไรตามแบบแผนที่คนปกติเค้าเป็นกันน่ะค่ะ

คุณโอ๋คะ  ก่อนหน้านี้ดิฉันเคยแวะแบบเข้าบ้านโน้นออกบ้านนี้  ตามบันทึกที่โชว์เป็นปัจจุบัน   จึงไม่ได้อ่านเจาะตรงๆนานๆ  อีกทั้งเวลาก็ไม่อำนวย จึงอ่านได้แบบไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย

เมื่อกลับถึงบ้านหนนี้     ดิฉันกะว่าจะใช้เวลาให้เต็มที่ทั้งสัปดาห์  เจาะตรงเข้าแต่ละบล็อกไปเลย   ที่สำคัญคือ   การมีสารบาญสวยน่ารักมาก อ่านง่าย เลือกได้ดังใจ  ทำให้อ่านสะดวกรวดเร็วขึ้น

ดิฉันเลยได้โอกาสอ่านๆๆๆๆๆๆ บล็อกของอาจารย์ทุกท่าน ท่าน ศ.นพ.วิจารณ์ อาจารย์ Phoenix  อาจารย์พินิจ   และคุณดอกแก้ว( สาวน้อยที่มีหัวใจอันอบอุ่น)  อย่างมีความสุขมาก    และได้คิดอะไรต่อมิอะไรเพิ่มเติมไปมากมาย  

สำหรับท่าน ศ.นพ.วิจารณ์ นั้น ดิฉันเข้ากูเกิ้ลและพบบทความของท่าน ทำให้รู้จัก gotoknow  เป็นครั้งแรก แต่ยังไม่ได้เข้ามาเพราะยังโพสต์อยู่ในวิชาการ.คอม

จากนั้นเมื่อมาเป็นสมาชิกที่นี่ ดิฉันก็ได้ตื่นตาตื่นใจกับห้องสื่อสารด้วยตัวอักษรกับผู้เราอาจไม่มีวันเข้าถึงได้ในชีวิตจริง

บล็อกของอาจารย์พินิจ     ทำให้ดิฉันยิ่งมีกำลังใจที่จะทำงานมากขึ้นนะคะ  ดิฉันชอบหมดทุกบล็อก  ชอบเลยไปถึงลิงก์ที่อาจารย์ให้ไว้ด้วย  อาจารย์มีวิธีสอนและวิธีคิดที่ดิฉันประทับใจมาก  

เห็นด้วยกับคุณโอ๋อีกแล้ว...ว่าอ่านแล้วอิ่มใจอ่ะค่ะ 

สวัสดีครับ ดอกไม้ทะเล

  • ขอคารวะในความเป็นครู อารมณ์ขันชั้นครู
  • ทำผมกรามค้างแล้วครับ
  • อาจารย์รู้ไหมครับว่าทำไมเขาจึงมองไม่เห็นสิ่งที่อาจารย์เล่ามาข้างต้น?
  • ทำไมเขามองไม่เห็นสิ่งที่อาจารย์ได้ทำ(ดี)ไว้
  • ก็สิ่งที่อาจารย์ได้ทำไว้มันเป็น วิญญาน ครับ วิญญานความเป็นครู ไงครับ...ทั่นอาจาน
  • แล้วไอ้คนธรรมดาทั่วไป  คนที่ไม่มีวิญญาน มันจะเห็นได้อย่างไรเล่าครับ....ทั่นอาจาน

ขอคารวะครับ

  • ขอบคุณมากค่ะ คุณธรรมาวุธ 
  • ตามสำนวนหนังกำลังภายใน ดิฉันต้องตอบว่า "ผู้น้อยมิกล้า...."   และต่อด้วย  "ขอคารวะสองจอก...."   (คือทำไมหนังจีนต้องพูดยังงี้ด้วยก็ไม่รู้นะคะ)
  •   ดิฉันนึกแซวใจว่าพี่เขาน่าจะยกคารวะกันให้หมดทั้งไหนั่นเลยอ่ะ  ....อิอิ..
  • สำหรับแบบประเมิน  ดิฉันยังรู้สึกสนุกสนานที่ได้อ่านและกรอกข้อมูลอย่างที่เป็นจริงตามโจทย์อยู่เสมอ   คืออาจจะตอบได้น้อยหน่อย  แต่ก็เข้าใจสิ่งที่เราเลือกทำมากขึ้น  รู้วิธีทำมากขึ้น  และรู้วิธีตอบให้ตรงโจทย์มากขึ้น
  • หมายเหตุ ทั้งนี้โดยไม่สนใจคะแนนแต่อย่างใด.....   คือสนใจแต่งานที่เราทำมากกว่าอ่ะค่ะ.. :)

 

 

P
  • อาจารย์ครับ ขอรับคารวะสองจอกนั้นนะครับ 
  • แต่ผมแบ่งคารวะคืนให้อาจารย์หนึ่งจอก
  • เพราะในวงเรามีแค่สองจอก
  • แล้วคารวะกลับไปกลับมากันให้หมดไหเลยนะครับ
  • เอิ้ก

ธรรมะสวัสดีครับ

  • ดิฉันแพ้แอลกอฮอล์แบบรันทดมากค่ะ ทานแล้วเป็นผื่นน่าหวาดหวั่นมาก  เลยทานน้ำส้มแทน  หรือไม่อีกทีก็น้ำเปล่าใส่น้ำยาอุทัยก็ดูสง่าสมวัยดีอ่ะค่ะ  :-)
  • น้ำส้มอุทัย..อิอิ..ผมนึกว่าอาจารย์จะเอาน้ำส้มสายชูผสมน้ำเสียอีกครับ
  • งั้น วงเราคงแตกตั้งแต่จอกแรกแล้วครับ
  • เพราะผมก็กินเหล้าไม่เป็น ตั้งแต่ดูโลกถึงตอนนี้
  • นับได้ 15  ปี เศษๆ(เศษอาจมากกว่าอายุก็ได้นะ) ยังไม่เคยดื่มเหล้าเลยครับ

สวัสดีครับ

สวัสดีครับ อ.ดอกไม้ทะเล

ความจริง.. เมื่อวานอ่านบันทึกของอาจารย์จบ
ไปทีหนึ่งแล้วละ    แต่มิได้ทิ้งร่องรอยไว้   เรื่องพิจารณาผลงาน ความดีความชอบนี่คล้ายๆกันทั่วไป
ในประเทศนี้       บางคนทำผลงานอาจารย์ 3  แต่ดูผลงานด้านการสอนเด็กแล้วคนละเรื่องเลย

เข้าใจ เห็นใจอาจารย์และเพื่อนครูที่มีอุดมการณ์อีกหลายคนที่ตกในสภาพที่เล่ามา ครับ

เอ๊ะ ชื่ออาจารย์เหมือนจะคุ้นหูในห้อง
"ราชดำเนิน"ของพันทิพใช่ไหมนะ

มีเวลาจะคอยติดตามข้อเขียนของอาจารย์ ครับผม

สวัสดีค่ะอาจารย์จำนง

  •  ขอบพระคุณที่อาจารย์แวะมาค่ะ 
  • ในพันทิพ ดิฉันไม่เคยโพสต์ในห้องราชดำเนินเลยค่ะ  :)    ........เคยแวะไปอ่านบ้างเหมือนกัน  แต่ไม่ค่อยถนัดเรื่องการเมืองค่ะ 
  • ดิฉันเข้าห้อง 'ไกลบ้าน'   กับ  'ห้องสมุด'  เป็นส่วนมาก และนานๆจะสื่อสารสักที 
  •  ส่วน ห้อง 'หว้ากอ' ก็น่าสนใจเวลามีประเด็นทางวิทยาศาสตร์ ผู้รู้ท่านโต้กันไปโต้กันมาอ่านเพลินดี  ดูเขาจะรื่นเริงบันเทิงใจกันทั้งห้อง  อย่างไรก็ตามดิฉันจะนั่งอ่าน(และหัวเราะ)อย่างเงียบๆ    เพราะรู้ตัวว่าขืนเข้าไปก็จะโต้กับเขาไม่ทัน  ....คือแต่ละท่าน...สุดยอดอะค่ะ  :)
  • ความเป็นเว็บบอร์ด แบบพันทิพ  สอนอะไรดิฉันเยอะค่ะอาจารย์   ดิฉันชื่นชมผู้สร้างและผู้ใช้สังคมที่นั่น
  • และถ้าให้เลือกที่จะสื่อสาร  ดิฉันสบายใจที่จะ"ส่งสาร"ใน GotoKnow   เพราะได้รู้ว่าเราสนทนากับใคร   ได้เป็นตัวเอง  และสามารถแสดงตัวตนเมื่อต้องรับผิดชอบการสื่อสารของตนเองได้ด้วยด้วย   
  • ดิฉันอยากคุยกับเด็กๆที่ดิฉันสอนในเรื่องนี้ด้วยค่ะ   เขาอยู่ในโลกแบบที่ "สามารถแสร้งเป็นคนอื่นได้"  และบางทีเขาอาจคิดและสื่อสารอะไรไป  แบบที่เขาจะต้องกลับมาเสียใจทีหลัง.... หากอาจารย์มีข้อคิดที่จะแนะนำ ดิฉันจะยินดีอย่างยิ่งนะคะ  
  • ดิฉันชอบหลักคิดแบบที่อาจารย์เขียนในคำประพันธ์ต่างๆมากค่ะ   อาจารย์เอกไทยที่สอนดิฉันมา หลายท่านมีแนวคิดคล้ายๆอาจารย์ค่ะ
  • ขอบพระคุณอาจารย์มากค่ะ

สวัสดีครับผมท่าน

 

P

ดอกไม้ทะเล

อาจจะค้นพบบันทึกนี้ช้าไปหน่อย แต่คงไม่มีปัญหากับการศึกษา  ผมเลยขอตัดข้อความบางตอนไปใช้ให้เป็นประโยชน์ครับ    ดังนี้

http://gotoknow.org/blog/amparticles/81444

http://gotoknow.org/blog/paew/100316

ขอบคุณมากครับ

สวัสดีค่ะ ตามมาอ่านตามที่คุณสิทธิรักษ์ลิงค์ไปให้ค่ะ เข้าใจมากเลยค่ะ ความสุขหรือความภูมิใจในงานของครูอยู่ที่ลูกศิษย์เป็นคนดีมีประโยชน์ของสังคมค่ะ...ขอชื่นชมคุณครู/อาจารย์อย่างคุณดอกไม้ทะเลมากค่ะ

สวัสดีค่ะคุณสิทธิรักษ์

ด้วยความยินดีและขอบพระคุณมากค่ะ   ช่วงนี้เปิดเทอม  เป็นช่วงเร่งงานและเตรียมสอน   จึงทำได้แค่แว่บมาเป็นช่วงๆ  และบางช่วงก็ขัดข้องทางเทคนิค จึงค่อนข้างโพสต์ยากสักนิด 

แต่ยังคงติดตามการสื่อสารของคุณสิทธิรักษ์อยู่อย่างสม่ำเสมอนะคะ   

คารวะเล่าฮูสามจอก กับอีกหนึ่งกาค่ะ  (เผื่อเติมอะค่ะ)    : )

สวัสดีค่ะ อาจารย์แป๋ว

ขอบพระคุณที่อาจารย์แป๋วแวะมาเยี่ยมและให้กำลังใจค่ะ  หลังจากที่อาจารย์แป๋วกรุณาแนะนำให้ดิฉันเอารูปขึ้นบล็อกได้แล้ว  รู้สึกว่าว่าฮวงจุ้ยแถวนี้จะดีขึ้นมาก

เพื่อนบอกว่าถ้าจะให้ดี ก็เอาภาพขึ้นให้เข้ากับนามแฝงจะได้เด่นสะดุดตากว่าใคร  แต่ดิฉันยังไม่ใคร่เชื่อ  เพราะตอนพูด  เธอทำหน้าตาเจ้าเล่ห์มากอะค่ะ  : )

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท