การทำงานส่งเสริมการเกษตร ที่ดิฉันได้ปฏิบัติในภาระหน้าที่ของการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อนำมาใช้ส่งเสริมและสนับสนุนการเรียนรู้ให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อร่วมกันทำงานกับชุมชนได้อย่างมีความศรัทธานั้น คือ เป้าหมายสูงสุดที่จะเดินไปให้ถึง
แต่มาถึงวันนี้ 1 ปีเต็มๆ เมื่อได้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมงานจัดการความรู้ขององค์กร ดิฉันได้เห็นความมุ่งมั่นของทุก ๆ คนในทีมงาน ที่ต่างค้นหาตนเอง ค้นหาเพื่อนร่วมงาน ค้นหามิตรภาพที่แท้จริง และค้นหาองค์ความรู้ที่แต่ละคนมีอยู่ แล้วเราต่างนำมากองรวมกัน โดยใช้หลากหลายของเทคนิควิธีการ เพื่อตะล่อมทีมงานให้มีมุมมองในเรื่องการจัดการความรู้ที่เป็นมุมมองเดียวกัน เพราะถ้าเราเชื่อว่า "เครื่องมือชิ้นนี้เป็นของดีจริง"
ฉะนั้น การศึกษาค้นคว้าและทดลองได้ถูกนำไปใช้กับการพัฒนาบุคคล จึงเริ่มมีการพิสูจน์ภายใต้การทำงานและโครงการต่าง ๆ และกับการพัฒนาคน ได้แก่ โรงเรียนเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน การสร้างเครือข่าย และอื่น ๆ
ส่วนคำตอบที่เกิดขึ้นคือ
1) ถ้าเรา เป็นในเรื่อง Facilitator เราก็จะเข้าใจเรื่องการจัดการความรู้ได้ไวขึ้น
2) การสร้างเครือข่าย เป็นแนวทางที่พัฒนาคนให้เข้าใจการจัดการความรู้ได้ดีมาก
3) การจัดการความรู้ เป็นทางลัดของการจัดการงานส่งเสริมการเกษตร ได้อย่างรวดเร็วมาก
แต่ปัญหาที่ดิฉันกำลังพบก็คือ
1) ใจของเจ้าหน้าที่ยังไม่เป็น "การจัดการความรู้"
2) เราต่างต้องการ "ดาว" ดวงนี้มาเป็นของตัวเราเอง
3) เรายังมีความรู้สึก "ยอมรับไม่ได้...กับสิ่งที่เราไม่รู้ หรือเรายังทำไม่เป็น"
4) เรายังมองตัวเราเองไม่ออก...แต่เรามองตัวตนของคนอื่นออก
5) เรายังไม่สามารถจัดการใจของเราให้เป็น KM ได้
ดังนั้น ดิฉันจึงย้อนกลับไปดูหลักการและทฤษฎีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง คือ หลักการเรียนรู้ของผู้ใหญ่ ความแตกต่างระหว่างบุคคล การยอมรับ และอื่น ๆ จึงทำให้คิดและเกิดทางออก ได้แก่
1) ทุกคนต่างมีดาวคนละดวงเป็นของตนเอง ฉะนั้นทำอย่างไร? ให้เกิดการนำดาวที่มีอยู่มารวมกัน เพื่อเป็น "ดาวดวงเดียวกันหรือกลุ่มเดียวกัน" ที่เป็นดาวขององค์กร
2) มุมมองของการจัดการความรู้ที่เจ้าหน้าที่มองเป็น "มุมเดียวกัน"
ซึ่งคงต้องใช้ระยะเวลา อาจจะเป็น "วิสัยทัศน์ KM 3 ปี หรือ 5 ปี" ที่ทุกคนต่างมาร่วมกันวาง แล้วแยกกันเดิน เพื่อเดินไปให้ถึงเป้าหมายที่เป็นมุมมองเดียวกัน
3) การเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้ามา "ร่วมกันปั้นดาว...การจัดการความรู้" ให้กับองค์กร เพื่อนำไปสู่การปรับเปลี่ยนทัศนคติในการทำงานส่งเสริมการเกษตร
ฉะนั้น หลักคิดของดิฉันก็ คือ 1) พรหมวิหาร 4 และ 2) ถ้าเชื่อว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งดี ก็จงทำไป และเมื่อทำไปแล้วก็ให้ละเสีย แต่สิ่งเหล่านี้จะสำเร็จไม่ได้ ถ้าเราไม่รู้จักคำว่า.....
คำที่ 1 ทีมงาน
คำที่ 2 เพื่อส่วนรวม
คำที่ 3 มองและค้นหาจุดดี ๆ
คำที่ 4 .................
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถ้าได้นำมารวมและจัดองค์ประกอบแล้วก็จะช่วยในการพัฒนาบุคลากรเพื่อทำงานส่งเสริมการเกษตรได้ดีมาก.