(อ่านเรื่องเล่าเดิมจาก Dialogue: Thinking Together (บันทึกที่ ๑) และ Dialogue: Thinking Together (บันทึกที่ ๒) )
หลังจากที่ อ.ประพนธ์ โยนคำถามให้กับวงประชุม จากการที่นั่งแยกเป็นกลุ่มย่อย ๓ กลุ่ม ก็หันเกาอี้ล้อมวงเป็นวงใหญ่ ๑ วง (ที่ไม่ค่อยจะกลมนัก) เพราะการคุยกันโดยที่มองไม่เห็นหน้ากันมันคุยไม่สนุก ไม่ถึงรสถึงชาติเท่าไรนัก
ต่างคนต่างแสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย แต่มีบางช่วง บางตอน ที่ดิฉันจับประเด็นได้และทำให้ได้คิด มีดังนี้
คุณทรงพล
: ถ้าถามคน สคส. ว่า งานที่ทำอยู่นั้นทำให้ตัวเองมีพลังมากขึ้นหรือน้อยลง แล้วตัวเองได้รับประโยชน์อะไรจากการทำงานนั้น
: ทำอย่างไรเมื่อใช้ KM แล้วทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้น โดยที่ประโยชน์เกิดขึ้นกับตัวเองและคนอื่นพร้อมกัน ให้ตรวจดู KM ในตัวเอง เป็นการตรวจดูพลังภายในตัวเองตลอดเวลา
: KM ไม่สามารถแยกออกมาเดี่ยวๆ จากตัวเรา, องค์กร และสังคมได้ เพราะ KM เป็นกระบวนการที่เรามีศรัทธาต่องานของเราและเมื่อทำแล้วจะเกื้อหนุนกัน .... ขอให้คิดแบบเชื่อมโยง
: KM เป็นแนวคิด หลักการ และเครื่องมือ เราต้องตีความ KM ให้กว้างที่สุด เพราะคนเรามักคิดว่า รูปแบบ KM ที่มีอยู่ ที่เห็นอยู่ ที่นำเสนออยู่ ของคนๆ หนึ่ง หรือ องค์กรหนึ่งๆ ที่เค้าคิดมาให้นั้น คือ รูปแบบ KM ทั้งหมดแล้ว แต่ในความจริงมันยังมีมากกว่าที่เสนอกันอยู่
: โดยส่วนตัวแล้วมีแนวคิดว่า ทำอย่างไร เราเองจึงสนุกกับการเรียนรู้ที่หลากหลาย ซึ่งเมื่อเครื่องมือหรือ เทคนิค ต่างๆ เราใช้จนหมด จนชำนาญแล้ว สิ่งที่จะท้าทายความสามารถของเราต่อไปคือ การเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมาย หรือ กลุ่มเป้าหมายที่เปลี่ยนไป ซึ่งการใช้ คำพูดหรือการสื่อสารให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจมีความสำคัญมาก
อ.ประพนธ์
: กลุ่มเป้าหมายของ สคส. เรา คือ อะไร หรือ สคส. เองที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของหน่วยงานต่างๆ ให้ช่วยเรื่อง KM
คุณทรงพล
: ขอเปลี่ยนคำถาม สคส. ควรทำอะไร? กับใคร? เพื่ออะไร?
คุณปรียาภรณ์ ซึ่งมีความเห็นแตกต่างออกไปคือ
: อยากให้มองภาพใหญ่ก่อนแล้วมาดูว่า สคส. จะทำอะไร ส่วนไหนบ้าง
นี่เป็นข้อคิดเห็นเพียงบางส่วน...... เนื่องด้วยทุกคนมีความคิดเห็นที่หลากหลายและบรรยากาศค่อนไปทางตรึงเครียด... อ.ประพนธ์ จึงเห็นว่าหากร่วมกันเสนอในวงใหญ่เช่นนี้...วันนี้คงไม่ได้ข้อสรุปเป็นแน่ จึงเสนอให้แยกเป็นกลุ่มย่อย ๓ กลุ่มกันดีกว่า แล้วให้แต่ละกลุ่มคิดว่าภาพใหญ่ของสังคมไทยเป็นอย่างไร แล้ว KMI อยู่ตรงไหน โดยให้แต่ละกลุ่มสื่อออกมาโดย.....การวาดภาพ......
uraiMan
๒๕ ก.พ.๕๐
ไม่มีความเห็น