เคล็ดลับ...ในการปฏิบัติงาน (Trick tag)...ของพี่เม่ย

รับมา...แล้วก็ส่งต่อ....

คุณจูน k-jira   ส่งข่าวมาบอกว่า อยากรู้ trick ส่วนตัวของพี่เม่ยจัง.....

รับ tag มาเรียบร้อย...อืมม์....พอคิดว่าจะตอบ ไม่ใช่หาได้ง่ายๆนะคะ  ความจริงมี trick เล็กๆน้อยๆที่เก็บได้ขณะปฏิบัติงาน แต่ก็ได้เล่าไว้บ้างแล้วใน... เรื่องเล่า ประสบการณ์ทางโลหิตวิทยา  คราวนี้จึงพยายามหาเคล็ดลับที่เรามักจะนำมาปฏิบัติในการทำงานร่วมกับผู้อื่นค่ะ  ลองดูนะคะ ไม่แน่ใจว่าจะได้กี่ข้อ......

1. ไม่ว่าจะเรียนรู้เรื่องอะไรจากใคร หรือถ่ายทอดความรู้เรื่องอะไรให้ใคร.....ทุกอย่างพี่เม่ยต้องเริ่มจาก "เบสิค" เสมอค่ะ

• อันนี้เป็นเรื่องที่ผู้เคยได้เกี่ยวข้องจะทราบกันดีค่ะ  ใครมาแนะนำการใช้เครื่องมือทดสอบตัวใหม่ละก้อ  พี่เม่ยต้องขอความรู้ตั้งแต่หลักการของเครื่องว่าอย่างไร...ใช้ทดสอบอะไร.....ถ้ายังไม่เคลียร์ก็จะต้องไปหาความรู้พื้นฐานให้ครบถ้วนก่อน.......กว่าจะได้ใช้งานก็เสียเวลากันหน่อยล่ะค่ะ...
• สอนงานใครก็เช่นกัน พี่เม่ยร่ายยาวตั้งแต่เบสิคกันเลยล่ะ  ไม่มีทางว่าจะกระโดดข้ามขั้นตอน  ต้องว่ากันให้เข้าใจถ่องแท้ เป็นขั้นเป็นตอนเสมอ   เช่น สอนนักศึกษาฝึกงานดูเซลล์เม็ดเลือด ก็ต้องเริ่มตั้งแต่บอกเรื่องคุณสมบัติของสีย้อมก่อน  จากนั้นฝึกใช้กล้องจุลทรรศน์  จากนั้นฝึกเรียนรู้ว่าสไลด์ที่คุณภาพดีเป็นอย่างไร ...โอ๊ย...กว่าจะได้รู้จักเซลล์ตัวแรกจากพี่เม่ยเนี่ย หลายชั่วโมงค่ะ....เป็นที่อิดหนาระอาใจกับน้องๆเป็นยิ่งนัก
• ด้วยวิธีการนี้ พี่เม่ยพบว่าการเรียนรู้ในเรื่องนั้นๆบรรลุวัตถุประสงค์ทุกครั้งไป  รวมไปถึงเรื่องอื่นๆที่นอกเหนือจากงานด้วยนะคะ เช่นการเล่นกีฬา เรียนรู้การใช้คอมพิวเตอร์  ทำกับข้าว ทำขนม ก็จะเริ่มจากเบสิคทั้งสิ้นค่ะ (เป็นบทสรุปให้กับตัวเองได้อย่างนึงค่ะ ว่าสมองไม่ดี กระโดดข้ามขั้นตอนไม่ค่อยจะได้....)

2. ทำงานร่วมกันหลายคน  พี่เม่ยยึดหลักการ เคารพในความเป็นอาวุโสกว่าเสมอ...

• ไม่ว่าผู้ร่วมงานจะเป็นใคร ตำแหน่งอะไร ทำงานอะไรก็ตาม ถ้าสูงวัยกว่าละก้อ...เคารพและให้เกียรติเสมอค่ะ...จะไม่วางอำนาจหรือใช้กิริยาที่ไม่เหมาะสมอย่างเด็ดขาด (แต่....อาจมีบางครั้งที่ทำไปโดยขาดสติ...คงมีบ้างค่ะ) ช่วยให้บรรยากาศในการทำงานราบรื่นค่ะ...

3. รู้จักเขาให้เหมือนกับรู้จักตัวเอง แล้วเลือกปฏิบัติให้เหมาะสม จะได้ win-win ทุกฝ่าย (วิธีนี้ใช้ได้ผลดีมาก  โดยเฉพาะเมื่อครั้งที่ต้องทำหน้าที่พี่เลี้ยงในโครงการ Patho-otop ค่ะ)

• ฟังดูเป็นนามธรรมจัง จะทำได้รื้อ....ก็พอทำได้นะคะ เช่นงานชิ้นนึงถ้ามอบหมายให้นาย ก. ทำ อาจต้องเริ่มจากการทำให้ดู จ้ำจี้จ้ำไช ตามเป็นระยะๆ ทิ้งไม่ได้ เพราะบางคนต้องการให้ดูแล  แนะนำ และเอาใจใส่ตลอดเวลา...
• แต่...งานประเภทเดียวกัน ให้นาย ข.ทำ อาจโยนผลุงบอกโจทย์เสร็จ นัดหมายเวลา  แล้วห้ามไปคอยตามคอยถามนะ รอรับผลงานไปเลย เพราะเขาต้องการเป็นตัวของตัวเอง ชอบคิดเองทำเอง และต้องการความไว้วางใจจากเรา...

โอย...สามข้อก็ขุดแคะกันเหนื่อยแล้วค่ะ 

เอาเป็นว่า อีกสองข้อที่เหลือของเป็นเคล็ดลับส่วนตัวที่ค้นพบจากที่บ้านดีกว่าเนาะ! ติดค้างคุณ k-jira  ไว้ก่อนค่ะ จะไปปล่อย tacit ที่บล็อก สองคนยลตามช่อง ในเวลาไล่เลี่ยกันนี้ก็แล้วกันนะคะ...

นึกไม่ออกว่าจะ tag ใครต่อดีหนอ.....ติดค้างไว้ก่อนดีกว่า!

[คุณ รัตติยา เขียวแป้น]

แวะมาทักทายก่อนกลับบ้านค่ะพี่เม่ย

      อยากทำให้ได้ ทั้ง 3 ข้อเลยค่ะ  เป็นแง่คิด ข้อคิด ที่หากใครทำได้แบบนี้ เยี่ยมเลยค่ะ

        ข้อ 1 เนี่ย  ปกติ จะเป็นคนชอบสอนงานแบบ learning by doing  ซึ่งบางอย่างสงสัยคงต้องปรับบ้างแล้วค่ะ  เพราะเพื่อนร่วมงานแต่ละท่านไม่เหมือนกัน

         ข้อ 2 อันนี้ ทำอยู่เสมอ และตลอดเวลาค่ะ  จะนับถือหลักอาวุโสเป็นหลัก  ไม่ว่าเขาจะตำแหน่งอะไรก็ตาม

      ข้อ 3 นี่สิคะ  พี่เม่ย มีหลักอย่างไร ในการดูว่า น้องแบบไหน ที่เราต้องตามติด  และต้องแบบไหน ที่เราปล่อยให้ทำเองได้  ขอเคล็ดลับอีกนิดสิคะ

[พี่เม่ย]

คุณแป๊ดคะ  ข้อ 3 เนี่ย...ก็เอาใจเขา มาใส่ใจเขา...เอ๊ยไม่ใช่...มาใส่ใจเราค่ะ

[k-jira]

• ขอบคุณมากค่ะ สำหรับ trick ดีๆ
• เห็นด้วยทุกข้อเลยค่ะ ^__^
• โดยเฉพาะข้อ 1  สำหรับจูนที่เป็นคนความจำไม่ค่อยดี  สารภาพการทำความเข้าใจ ศึกษาให้รู้ในหลักการทำงานนั้นๆ หรือให้เข้าใจใน concept ของสิ่งนั้นๆ  จากนั้นพอเราเกิดความเข้าใจแล้วเราก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องยึดติดกับกรอบของวิธีการ อีกต่อไป
• สำหรับข้อ 3  การเข้าใจคน บางครั้ง ก็เหมือนการเดาเสี่ยง โดยเอาประสบการณ์และความรู้สึกของตนเอง ไปทำนายเขานะ ทายถูก็ดีไป ทายผิดก็แย่เหมือนกัน ^^'
• ^___^ เดี๋ยวตามไปอ่านบันทึกที่ 2 ค่ะ

[Handy]

สวัสดีครับ

• ข้อ 1 เหมือนกันเลยครับ ผมก็เป็นอย่างนั้น บางคนเขารำคาญ  บ่นว่าถามแค่นี้ทำไมตอบยาว  ก็เราไม่อยากให้เขาได้คำตอบแบบ ไร้ที่มาที่ไป หรือพูดแรงหน่อยว่า แบบ ไร้ปัญญา ก็เลยทำอย่างที่ พี่เม่ย ทำเสมอ 
• เรื่อง อาวุโส หรือให้เกียรติคนตามวัยวุฒิ ผมก็เป็นครับ .. ไม่ต้องฝืนใจเลย เพราะเรามีคติประจำใจ และเชื่อมั่นมาตลอดว่า There is no man on the road from whom you can’t learn something of value.  ยิ่งคนที่ผ่านโลกมาก่อนเราไม่ว่าเขาจะทำอาชีพอะไร เขาเป็นครูเราได้แน่นอน ไม่มุมใดก็มุมหนึ่งครับ

[สิงห์ ป่าสัก]

• ตามเข้ามาล้วงความลับกับเขาบ้าง
• ข้อ 2 และข้อ 3 ก็ตรงกันกับผมนะครับ
• จะรออ่านอีก 2 ข้อนะครับ

[พี่เม่ย]

คุณจูน k-jira  ค่ะ

• ต้องขอบคุณไอเดีย trick tag จากคุณน้องนั่นแหล่ะค่า ทำให้ได้บันทึกนี้ออกมา
• สำหรับข้อ 3 เนี่ย จะทำได้ก็ต้องใช้เวลาที่เราอยู่ร่วมกันมานาน จนเรียนรู้กันและกันได้ก่อนค่ะ  ก็มีบ้างเหมือนกันนะ ที่วิธีการเช่นนี้ถูกแปลความหมายไปเป็นการ "เลือกปฏิบัติ" ได้เหมือนกันค่ะ....

[พี่เม่ย]

คุณ Handy ค่ะ

• ดีใจที่ท่านมาช่วยสนับสนุน ทำให้พี่เม่ยมั่นใจกับการใช้เคล็ดวิชาเหล่านี้ต่อไปค่ะ
• ขอบคุณมากค่ะ

[พี่เม่ย]

คุณยุทธ์ สิงห์ป่าสัก ค่ะ

• อีกสองข้อ  ต้องตามไปอ่านที่ เคล็ดลับส่วนตัวที่ค้นพบจากที่บ้าน นะคะ
• ขอบคุณค่ะ

[ศิริ]

พี่เม่ยค๊ะ ขอบคุณค่ะ

จริง ๆ แล้วผู้เขียนทราบตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ กะว่าจะไปเปิด Net เขียนที่บ้าน ปรากฏว่าต่อไม่ได้ค่ะ ว่าแต่เคล็ดลับของผู้เขียนเยอะซะจน ไม่แน่ใจว่าจะเป็นเทคนิคหรือ Trick ได้รึเปล่า ??

[ดร.อ้อ สุชานาถ]

•  สวัสดีค่ะพี่เม่ย
• อ่านเรื่อง trick ของพี่เม่ยแล้วได้ประโยชน์มากเลยค่ะ
• ต้องขอบคุณพี่เม่ยค่ะ ที่ ส่งไม้ trick ต่อให้อ้อ แต่อ้อขอเวลานิดนึงนะคะ แล้วจะ trick ให้พี่เม่ยฟัง
• ขอบคุณค่ะ

[ศิริ]

เขียนแล้วค่ะ ที่นี่ กว่าจะนึกได้เหนื่อยมาก....กกกก

[นายพัฒนพงศ์ ชูส่งแสง]

ต้องขอโทษพี่เม่ยจริงๆครับ ผมไม่ได้อ่านบันทึกเลยครับ ช่วงก่อนหน้านี้ไม่ค่อยว่างเลยครับ แต่ตอนนี้พอมีเวลา ตอบให้พี่เม่ยครับ เคล็ดลับการทำงานของผมมีดังนี้ครับ 1.ทำวันนี้ให้ที่สุดครับ แล้วทุกอย่างก็จะดีเอง 2.เป็นมิตรกับทุกคน แม้กับคนที่เราไม่ชอบก็ตาม 3.จงรักในงานที่ทำทุกๆอย่าง อย่างจริงใจ 4.ขยันและตั้งใจ 5.ช่วยเหลือคนอื่นๆ เท่าเราช่วยได้