รับสมัครแกนเคลื่อนภาคีพัฒนาบูรณาการในจังหวัด


ตอนนี้ยกเลิกกรอบตัวชี้วัดจากส่วนกลางแล้ว

ได้อ่านบันทึกของคุณ ไอศูรย์ จากชุมพรทำให้อยากมาโฆษณาให้ผู้คนในจังหวัดต่างๆ ได้รู้จัก ศอสส และวิธีทำงานของ ศอสสให้มากขึ้น เพราะเชื่อว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับ ภาคีทั้งภาครัฐ และเอกชน ที่กำลังพยายามทำงานในจังหวัดต่างๆ  

เป้าหมายหนึ่งของการจัดตั้ง ศอสส คือเป็นกลไกที่จะมาสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาบูรณาการทั้งจังหวัด

แต่ความที ศอสส อยู่ภายใต้กระทรวงสาธารณสุข จะมีคนมาถามอยู่เรือยว่า นี่เป็นเรื่องของมหาดไทยไม่ใช่หรือ

คำตอบที่พวกเราชาว ศอสส มักจะบอกก็คือว่า เรื่องอยู่เย็นเป็นสุข เป็นเรื่อง สุขภาพแนวใหม่ ที่ไม่ได้จำกัดตัวเองที่ เรื่องโรคภัยไข้เจ็บ ถ้าสามารถทำให้ทุกฝ่ายในสังคมมาร่วมกันทำงาน โดยมีเป้าหมายอยู่เย็นเป็นสุข ทำเรื่องสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ เรื่องการมัสัมมาชีพ  เรื่องการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เรื่องการทำมาหากินภายใต้ฐานคิดเศรษฐกิจพอเพียง ฯลฯ  สุขภาพคนไทยต้องดีขึ้นแน่ๆ

แต่ถ้าเรามัวทำแต่เรื่องรักษาพยาบาล หรือให้บริการสาธารณสุข การป้องกันโรคระบาด การออกให้บริการในชุมชน ฯลฯ สุขภาพประชาชนก็จะดีขึ้นในระดับหนึ่งเท่านั้น

เมื่อมีโอกาสที่ผู้คนทั่วประเทศ ชูธงอยากสร้างสังคมอยู่เย็นเป็นสุข สิ่งที่ชาวสาธารณสุขควรทำจึงได้แก่การ ระดมภาคีให้เข้ามาช่วยกันทำเรื่องดีๆ ภายใต้ความสามารถ และความสนใจของแต่ละภาคี ไม่ใช่ระดมภาคีให้มาช่วยงานสาธารณสุข

วิธีทำงานของ ศอสส ตอนนี้่ คือหากลุ่มคนในจังหวัดต่างๆที่มีความสนใจ และอยู่ในฐานะที่จะเป็นตัวเชื่อโยงภาคีต่างๆเข้าด้วยกัน เพื่อเป็นกลไกเสริมการทำงานของ่ผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีหน้าที่หลักอยู่ในทุกจังหวัดอยู่แล้ว

ขณะนี้เป้าหมายหลักของ ศอสส คือทีมงานด้านสาธารณสุขในจังวัดต่างๆ แต่หากมีกลุ่มอื่นไม่ว่าจะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (เช่น อบจ อบต) หรือกลุ่มประชาคม (อย่างกรณีทีมคุณ ไอศูรย์ที่ ชุมพร หรือกลุ่มประชาคมน่านที่ จว น่าน) ทาง ศอสส ก็ยินดีเข้าไปทำงานด้วย และหาทางพัฒนารูปแบบ และศักยภาพในการเป็นตัวเชื่อมประสาน

ด้วยเชื่อว่าจะเป็นกลไกที่น่าจะสร้างความต่อเนื่องในระยะยาวได้ดีกว่า

ไม่ต้องมาคอยตอบคำถามว่า ถ้ารัฐบาลชุดนี้ไปแล้ว จะยังทำต่ออยู่หรือเปล่า

แม้ ศอสส จะเกิดมากับรัฐบาลชุดนี้ แต่แนวคิดเรื่องการสร้างพัฒนาบูรณาการทั้งจังหวัดมีมาก่อนหน้านี้แล้ว และ ศูนย์เมืองไทยแข็งแรงก็มีแนวคิดนี้ แต่ในช่วงแรกมัวไปยุ่งกับการทำงานตามกรอบตัวชี้วัดที่กำหนดจากส่วนกลาง

ตอนนี้ยกเลิกกรอบตัวชี้วัดแล้ว แต่จะหันมาสนับสนุนกลไก และการสร้างภาคีให้เกิดแผนพัฒนาบูรณาการทั้งจังหวัดแทน

ส่วนเรื่องตัวชี้วัด และเรื่องข้อมูล ยังคงถือเป็นยุทธวิธีการทำงานที่สำคัญ แต่จะให้เป็นไปตามความต้องการของแต่ละพื้นที่ ไม่ใช้วิธีกำหนดจากส่วนกลางเหมือนที่ผ่านมาครับ

ช่วยกันสร้าง ช่วยกันทำ โดยยึดประโยชน์ประชาชนในพื้นที่เป็นตัวตั้งนะครับ ไม่ใช่เงื่อนไข และกรอบกติกาของส่วนราชการ

 

หมายเลขบันทึก: 80542เขียนเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2007 14:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:32 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)
  • อ่านบันทึกฉบับนี้ของท่านอาจาย์ฯ มีความชัดเจนในการทำงานของ ศอ.สส. เพิ่มขึ้นมากครับ

  • ขออนุญาตนำไปถ่ายทอดให้เพื่อนพ้องน้องพี่เครือข่ายยุทธศาสตร์สังคมฯ ของ จ.ชุมพร ได้รับทราบโดยทั่วกัน

  • ขอบคุณครับ.

 

             หลายคนภาคราชการมักชาชินและพูดติดปากว่า เปลี่ยนอีกแล้วนโยบาย  พูดจนเคย....และไม่หันกลับมามองตัวเอง  ว่าเขาเปลี่ยนทำไม เดิมอย่างไร ใหม่อย่างไร ดี  ด้อยต่างกันอย่างไร  ทุกอย่างล้วนมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา  พูดให้น้อยลงและเข้าถึงปัญหาโดยรวมของชาติบ้านเมือง  และตัวเองทำแล้วหรือยัง  ดีหรือยัง  ต้องปรับกระบวนการทำงานมั๊ยหรือทำแต่วิธีการเดิมๆหมดเงินภาษีไปเท่าไหร่ คุ้มหรือเปล่า  มาอ่านในบล็อกรู้สึกมีพลัง..และกำลังใจ...มีเพื่อน.....แต่ละคนทำจุดเล็กๆช่วยกัน  อยากให้จุดเล็กๆของภาคีกระจายไปเต็มท้องฟ้า  โลกจะได้สงบสุขขึ้นบ้าง......โดยเฉพาะ 3จังหวัดภาคใต้ 

ขอบคุณทั้งคุณ ไอศูรย์ และคุณภาคีตัวเล็ก

สิ่งที่ยากที่สุดคือทำให้คนในระบบราชการเห็นว่าสิ่งที่จะทำเป็นประโยชน์ และไม่ติดกับนโยบายรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่งเท่านั้น

แต่ก่อนไม่ค่อยยากครับในกระทรวง เพราะคนกระทรวงโดยเฉพาะในชนบท ทำงานระยะยาว มองปัญหาของจริงในพื้นที่เป็นหลัก

เมื่อระบบการเมืองมาเขย่า ระบบการแต่งตั้งโยกย้ายมากๆ ผู้คนก็หวั่นไหวไปกับแรงเขย่า และหันไปสนองความคิด และทิศทางของคนเขย่ามากขึ้น

ส่วนจะสนองมากน้อยก็ขึ้นกับการประเมินว่าคนเขย่ามีนำ้้ยาแค่ไหน อยู่นานหรือเปล่า 

เป็นนักวิชาการสาะารณสุขสมัครได้ไหมีครับ
ศอสส เน้นที่ ทีมงานเพื่อเชื่อมประสานครับ ที่ชัยภูมิ ทีมงาน สธเป็นไงครับ
ทีมงานสาธารณสุขมีการประสานงานกันเป้นอย่างดีดดยเแพาะในชุมชขมีอสม.ที่สามารถประสานได้ทุกเครือข่าย
หมอวีรพัฒน์ รพ หาดใหญ่

เรียน พี่สมศักดิ์ ครับ 

ผม มีความคิด เกี่ยวกับเรื่องทำนองนี้ เขียนที่

thai.gotoknow.org 

ผมเคยพยายามลุ้น ให้ รพ หาดใหญ่ เป็น focal point  คือ รับซื้อสมุนไพรสด ที่มีมาตรฐาน  แปรรูป ให้ชุมชนใช้ต่อ ด้วยความรู้เดิม ผสมกับ ผลการวิจัยของอาจารย์มหาวิทยาลัย

แต่ฟ้ายังไม่เปิด จึงต้องรอลุ้น  พวกเรามีทุนเดิมเรื่องการผลิตยา น้อย  แต่ บางโรงพยาบาลมีทุนเดิมสูง แต่ ตลาดหรือกำลังซื้อ ความสนใจใช้ของเขามีน้อย

ยังนึกอยู่เลยว่า ที่สงขลา  จะสร้างทีมหนุนเสริมชุมชนอย่างไรดี    

 

เอ...มหาสารคาม เขามีคนสมัครหรือยังน๊า...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท