KM อมตะคู่จักรวาล


คนทำงานที่ใช้เทคนิค KM ควรมีการเตรียมตัวของเราเองให้พร้อมที่จะทำงาน โดยการพัฒนาระบบชีวิตของเราให้มี KM อยู่ในระบบคิด ระบบชีวิต และ ระบบทำงาน
 

เพื่อเป็นการสนับสนุนการทำงานที่ใช้เทคนิค KM เพื่อ

 

·        ทำงานวิจัย (KM research)

 

·        งานสนับสนุนการเรียนรู้ (KM learning)

 

·        งานอาจารย์ที่ปรึกษา (KM supervision) และ

 

·        งานบริการวิชาการสังคม/งานพัฒนา (KMธรรมชาติ)

  

ผมคิดว่าคนทำงานที่ใช้เทคนิค KM ควรมีการเตรียมตัวของเราเองให้พร้อมที่จะทำงาน โดยการพัฒนาระบบชีวิตของเราให้มี KM อยู่ในระบบคิด ระบบชีวิต และ ระบบทำงานอย่างครอบคลุมทุกๆด้าน

 

ผมจึงใคร่ขอคิดดังๆ ในเชิงแนวคิด ความจำเป็น ตามที่ผมเคยเห็นมาจากการทำงานจริงๆกับชุมชน และการใช้แนวคิด KM ในการพัฒนาในระดับต่างๆ ดังนี้

  

1.     ระบบชีวิตตัวเองและครอบครัว

  

ที่เน้นการทำความเข้าใจระบบคิด ระบบชีวิต ทั้งของตนเองและครอบครัว เพื่อพิจารณาว่า ยังมีจุดอ่อน หรือข้อด้อยที่จำเป็นต้องพัฒนา ปรับปรุง แก้ไข และเปลี่ยนแปลง ทั้งในส่วนขององค์ประกอบ โครงสร้าง และระบบการใช้งานขององค์ความรู้ ด้านต่างๆ ที่ต้องเริ่มจากการวิเคราะห์ระบบชีวิตตัวเอง อย่างตรงไปตรงมา และนำความรู้ด้านต่างๆมาพัฒนาตนเอง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหลักธรรมะ หรือหลักปฏิบัติของศาสนาต่างๆ

  

2.     ระบบการพัฒนาองค์ความรู้

  

ที่เน้นการพัฒนาการศึกษา ค้นคว้า วิจัยในรูปแบบต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้ความรู้ที่ไม่พอเพียง ไม่พอใช้ ไม่เหมาะสม หรือไม่ถูกต้อง ให้เป็นความรู้ที่ดี และเหมาะสมกว่าเดิม ที่เป็นประโยชน์กับทุกคน ทั้งตัวเอง ผู้ใช้ประโยชน์และสังคมโดยทั่วไป

  

3.     ระบบการพัฒนาการเรียนรู้

  

ที่เน้นการสนับสนุนการเรียนรู้ของผู้เรียนในระดับต่างๆ ทั้งในระบบ นอกระบบ ในชุมชน ในระบบการทำงาน และการดำรงชีวิตในทุกระดับ เพื่อแก้ไขปัญหาการเรียน การสอน เพื่อการดำรงชีวิตและการทำงานที่ถูกต้อง ตามบทบาท หน้าที่ ความรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมายจากทั้งหน่วยงาน และจากสังคมโดยรวม

  

4.     ระบบการทำงานโดยทั่วไป และการพัฒนาองค์กร

  

ที่เน้นการนำความรู้ในหลักและวิธีการทำงานมาแก้ไขข้อด้อยหรือจุดอ่อนของระบบการทำงานแบบ SWOT analysis แล้วค้นหาแหล่งความรู้ และ/หรือ ตัวบุคคลที่เหมาะสมที่จะมาพัฒนาระบบการทำงาน และระบบองค์กร

  5.     ระบบการพัฒนาแผนและนโยบาย 

ที่เน้นการใช้และจัดการความรู้ องค์ความรู้ โครงสร้างความรู้เพื่อพัฒนาความเข้าใจถึงขีดจำกัดการในการพัฒนาที่สืบเนื่องมาจากแผนและนโยบายที่ไม่พอเพียงหรือไม่เหมาะสม โดยการวิเคราะห์จินตภาพที่ทำให้พัฒนาและเข้าใจวิสัยทัศน์ กระบวนทัศน์ เข้าใจยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ ในการทำงาน ทั้งในระดับท้องถิ่น ภาค ประเทศ ระดับนานาชาติ และระดับโลก หรือแม้กระทั่งนอกโลกไปจนถึงระดับจักรวาล (เช่น การตัดสินว่าโลก หรือ อะไรอย่างอื่นเป็นศูนย์กลางของจักรวาล เป็นต้น )

  

จากที่ผมพยายามแจกแจงการดำเนินชีวิต และวิถีการใช้ KM เพื่อการพัฒนาความเข้าใจในการดำรงชีวิตในมุมต่างๆ ที่ทำให้ KM เป็นวิถี และเป็นทุกส่วนของชีวิตที่เป็นจริงของทุกคน อย่างมีความสุข ความสำเร็จ ตามใจปรารถนา บุญ และวาสนา โดยไม่ต้องมาแสดงอาการอกหักกับ KM มาทำใจกับ KM หรือมองว่า KM ตายแล้วที่ใดในโลก ให้คนทั่วไปสับสนไปเปล่าๆ

  

เพราะ KM ไม่มีวันตาย

  

ข้อความนี้อ้างจากที่ผมฟังการบรรยายของ ดร. อาจอง ชุมสาย ในงาน NKM3 ที่กล่าวว่า แม้คนหรือสิ่งที่มีชีวิตจะตายไปแล้ว ผลของKMธรรมชาติ ก็จะยังคงอยู่ในจิตวิญญาณที่ล่องลอยอยู่ในจักรวาล นอกเหนือไปจากความรู้ที่อยู่ในสมอง (ระบบคิด)ของสัตว์ และ DNA ของสิ่งที่มีชีวิตทุกชนิด ในโลก

  

นี่เป็นเพียงความคิดดังๆของผม ตามที่ผมเข้าใจนะครับ

  ลองคิดดูนะครับ
หมายเลขบันทึก: 80540เขียนเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2007 14:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 พฤษภาคม 2012 09:26 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

แอบมาฟังความคิดดังๆของอาจารย์ดร.แสวง อีกแล้วค่ะ

"KM ธรรมชาติยิ่งใหญ่ และล้ำลึก มากกว่าที่คิดไว้"

ขอร่วมเรียนรู้กับท่านอาจารย์ด้วยคนค่ะ

ยินดีต้อนรับคนฟื้นไข้ครับคุณหนิง ดีใจด้วยที่หายแล้วครับ

ยินดีครับคุณกรรณิการ์

ท่านเป็นญาติทางไหนกับคุณจตุพรครับ เห็นท่าทางเก่งทั้งคู่เลยครับ

ขอบคุณครับคุณหนิง

แล้วชือ่ โท หรือเปล่าครับ

ท่าน ผอ ดิศกุล ครับ

ผมเห็นคนชอบพูดว่า KM ตายแล้ว ผมก็เลยมองต่างมุมนะครับ

เหมือนกับบางคนบอกว่า The end of the world นั้นแหละครับ

ผมก็ยังไม่เห็นสักที  แต่คนที่พูด End ก่อนทุกทีครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท