ตื่นมาเมื่อตะวันสายโด่ง ... รีบกุลีกุจอ อาบน้ำ เพราะวันนี้ต้องไปเข้าเวรที่ศูนย์ประสานงาน หอพักนักศึกษา แดดร้อนยามสาย ๆ ต้องผิว ขณะที่ปั่นจักรยานออกไปจากที่พัก ไปถึงมีสาวสวย เพื่อนร่วมเวร รออยู่แล้ว สีหน้าเธอสดชื่น แสดงว่ายังไม่ใส่ใจกับการมาสายของเรา อะฮ่า ... ว่าแล้วก็ทำทีทักทาย ชวนไปทานข้าว ... แต่มีลูกแห้ว มาให้รับประทานแต่เช้า เพราะเธอทานเรียบร้อยแล้ว ....
... สั่งข้าวแกงรดเด็ด เป็นแกงส้มปลาใส่หน่อไม้ดอง แถมด้วยไข่เจียวชะอม อีกฟอง เท่านี้ก็พอประทังชีวิตในครึ่งวันแรก ... กลับมาศูนย์ประสานงานนั่งคุยโน่นนี่ ไปเรื่อย ดูเหมือนวันนี้ไม่มีอะไรมากนัก เพราะมีน้องนักศึกษามาทำงานแทน
กลับมาที่หอพัก .... เปิดเวป GOTOKNOW จนกระทั่งเวลานี้
ระหว่างนั้นก็โทรกลับบ้านบอกความคิดถึงกับคุณพ่อ น้องชายคนเล็ก
ในใจคิดถึงและอาลัยน้องชายคนรองที่จากไป ดูเหมือนวันนี้จะครบรอบหนึ่งเดือนของการจากไป ....
ปลอบใจตัวเอง...และพยายามเข้าใจใน ความตั้งอยู่ และดับไปของชีวิต ว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เพียงแต่เยื่อบาง ๆ ของความอาวรณ์ ยังไม่หมดสิ้นเสียทีเดียว
จึงยังเหงา ๆ อยู่ตลอดมา
*** ภีรตา ***
วิถีชีวิตที่ปกติๆนะค่ะ
อ่านมาถึงบันทึกย่อหน้าท้ายๆดูเศร้าๆ ยังไง ก็เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
ขอบคุณครับ สำหรับกำลังใจที่มีให้
บางครั้ง ความเศร้าก็อยู่กับเราตลอดมา เพียงแต่เราเลือกที่จะเก็บไว้ หรือบอกกล่าว ใครสักคน หรือ หลายคน
หากการบอกกล่าวใครต่อใคร และได้กำลังใจดี ๆ กลับมา ก็สามารถทำให้ชีวิตดูไม่เงียบเหงามากนัก
ขอบคุณอีกครั้งครับ สำหรับมิตรภาพตั้งต้น
ขอเป็นเป็นกำลังใจให้อีกคนนะคะ รักษาสุขภาพด้วย
ขอให้รู้นะว่า "ในยามที่นายเหงา รู้สึกเศร้า ยังมีมิตรอีกกลุ่มเติบคอยเป็นห่วงอยู่นะ..." นายอาจไม่เห็น เพราะไม่ได้มองสองข้างทางที่เดินผ่านไป แต่ถ้านายล้มลงเพราะสะดุดอะไรบางอย่างนายจะเจ็บตัวไม่มากและไม่เจ็บตัวคนเดียว เพราะนายยังมีมิตรอีกกองโตคอยรับนายอยู่เน้อ
หวังเหวิด
นาราเศรษฐ์ |
คนขี้คร้าน4055159 |