เมื่อคราวบวชและจำพรรษา ณ วัดโตนด อ.บางแก้ว จ.พัทลุง (ปี 2536) สิ่งหนึ่งที่ตาหลวงสอนให้ปฏิบัติทันที คือ การเดินจงกรมในช่วงหัวรุ่งก่อนออกไปบิณฑบาต โดยหลักการจะเป็นการเดินเพื่อชดเชยที่เราได้นั่งรถยนต์ ไปทำกิจธุระ โดยให้ใช้เวลาเดินจงกรมเท่า ๆ กับเวลาที่เราต้องเดินเท้าไป
ในขณะที่เดินจงกรมจะต้องเลือกบริเวณที่สงบ ๆ ซึ่งผมมักจะเลือกเอารอบ ๆ เมรุเผาศพ ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กุฏิที่พัก เดินวนไปเรื่อย ๆ กะพอได้เวลาที่ต้องชดเชย โดยขณะเดินจะภาวนาในใจว่า ยก-ย่าง-เหยียบ เป็นจังหวะที่สัมพันธ์กับการเดินจริง ๆ การกำหนดรู้จะช่วยทำให้จิตภายในนิ่ง สำหรับอานิสงส์มี 5 ประการ คือ
1. สมาธิที่ได้ จะอยู่ได้นาน
2. ความเพียรที่เกิดจากความอดทน
3. อดทนในการเดินทางแม้จะไกล (แม้เมื่อใช้ยานพาหนะ ก็ต้องชดเชย)
4. อาหารย่อยจะได้ดี
5. อาพาธน้อย หรือไม่หนัก
ผมเขียนบันทึกนี้ขึ้นเพราะไปอ่านพบบทความของ รศ.พญ.พรทิพย์ ภูวบัณฑิตสิน สาขาจิตวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่อง การออกกำลังกายแบบเดินจงกรม เข้า ซึ่งควรที่จะได้เชื่อมต่อกันเข้ากับสิ่งที่ได้เคยปฏิบัติมาแล้ว พบว่าทำให้เกิดสมาธิได้ดี อยากให้ได้นำไปปฏิบัติกันโดยเฉพาะกับผู้ที่ไม่สามารถออกกำลังกายแบบคนทั่วไปได้ สนใจอ่านรายละเอียดจากบทความเพิ่มเติมตามที่ได้ทำ link ไว้แล้วครับ
ไม่มีความเห็น