ฉันยอมแพ้แล้ว


“ ขอให้เรานึกถึงคนอื่นเข้าไว้ “

    

     เคยมีพี่ที่อยู่สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ พาเพื่อนรุ่นพี่อีกคนมาคุยกับฉัน  พี่เรียนจบมาทางพยาบาล  พี่มาด้วยความทุกข์ กังวลในเรื่องโรค...โรคเดียวกับฉันเลย

      พี่ เตรียมเส้นแขน ทำชั้นที่แขนข้างซ้าย แล้ว รอ ฟอกเลือด ใบหน้าพี่เศร้ามาก  กังวลกับอนาคต และการงาน ครอบครัว

      เป็นเส้นทางเดียวกันของผู้ป่วยที่มาคู่กับความวิตกกังวล เป็นเรื่องที่ห้ามกันไม่ได้ ที่จะเศร้า ที่จะรู้สึกสูญเสีย ผู้ป่วยต้องเป็นอยู่สักระยะหนึ่ง แล้วค่อยขยับไปทีละขั้น บางคนก้ขยับช้า บางคนนานมากกว่าจะขยับ บางคนต้องมีแรงจากภายนอกมากระตุ้น ...และมีหลายคนที่ไม่ขยับเลย...ฉันยอมแพ้แล้ว

      พี่ให้ฉันเล่าว่า แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไป เมื่อฟอกเลือดแล้ว ไปไหนต่อ ทำยังไงจะได้ไตใหม่ ทำยังไงจะได้เปลี่ยน ...ดูเหมือนเป็นเรื่องที่อยู่ในอากาศ ไม่มีอะไรที่น่าจะเป็นจริง หรือ จับต้องได้เลย

      ฉันสงสารพี่จับใจ ...พี่ถามฉันว่า แล้วน้องทำใจยังไงตอนที่ฟอกเลือดและรอไตใหม่....

      ฉันบอกว่า      

    ขอให้เรานึกถึงคนอื่นเข้าไว้ 

มันจะเป็นความดีงาม ที่สิ่งคนอื่นชื่นชม หรือคนยกย่องอะไรก็ตาม ไม่ใช่เราเป็นคนดี   เราก็ปถุชนธรรมดา ...แต่อะไรเล่า ที่จะทำให้เรา

ไม่ยอมแพ้

     นึกถึงคนอื่น ทำไม....

     เมื่อเราข้ามพ้นความทุกข์ของเรา เราก็จะมองไม่เห็นทุกข์ของตัวเอง การมองไม่เห็นทุกข์ ก็ทำให้เรารู้สึก แค่รู้สึกทางใจนะ ..รู้สึก เออ ...ดีว่ะ...

     จากนั้นก็แจกยิ้ม  ...ยิ้มไปเรื่อยๆ บังคับให้ร่างกายดูดีขึ้นด้วย ช่วยตัวเองโดยการยิ้มกับตัวเอง ยกระดับใจ ระดับกายให้มาฟูขึ้น   อย่าจม....

     ฉันพูดแบบนี้ เป็นโจทย์ที่ดูยาก สำหรับพี่มาก ....ทุกข์จะตาย ปวดจะตาย เหงาแทบตาย แน่นแทบตาย ....จะไปนึกถึงคนอื่นได้อย่างไร...จะไปหายิ้มมาจากไหน.....

      ฉันพูด ฉันเล่า  แล้วพี่ก็จากไปด้วยความเศร้าเหมือนเดิม บางทีฉันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเท่าไหร่ หลังการคุย....

 

 

 

 

คำสำคัญ (Tags): #นึกถึงคนอื่น
หมายเลขบันทึก: 80246เขียนเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2007 14:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:31 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

เป็นกำลังใจให้นะครับ...

ดำเนินชีวิตต่อไปด้วยความหวัง...

เพื่อคนที่รักเราและคนที่เรารักครับ...

 

คะ กำลังใจให้ผู้ป่วยเป็นเรื่องสำคัญ

และผู้ป่วยก็ต้องสร้างขึ้นมาเองด้วย 

บางคนป่วยกาย แต่ใจไม่ป่วย

แต่บางคน พอกายป่วย ใจก็หมดแรงเอาดื้อๆ

คุณดอกแก้ว เข้มแข็งจริงๆ ค่ะ สู้..สู้  ^_^

ขออนุญาติ เรียก อาจารย์ นะคะ

ดิฉันคิดว่า แต่ละคนก็มีเรื่องป่วยกันไปคนละอย่างสองอย่าง

อย่างที่ อาจารย์ว่าแหละคะ แยกกาย แยกใจ

กายยังไม่ไป แต่ใจพาไปก่อน

ใจเรานี่มีอิทธิพลมากจริงๆนะคะ 

ขอบคุณครับสำหรับประโยค เมื่อเราข้ามพ้นความทุกข์ของเรา เราก็จะมองไม่เห็นทุกข์ของตัวเอง การมองไม่เห็นทุกข์ ก็ทำให้เรารู้สึก แค่รู้สึกทางใจนะ


ผมสังเกตว่า ผู้ป่วยมะเร็งของผมส่วนใหญ่ที่สามารถ ทำใจ และยิ้มรับโรคร้ายได้ มักสนใจ ปัจจุบัน มากกว่า ความไม่แน่นอน ความคาดหวัง ใน อนาคต ครับ


อยากชวนอ่านเรื่อง มุมที่ต่างกัน ของผู้ป่วย เรื่องนี้นะครับ


เป็นกำลังใจครับ

ไปอ่านมาแล้วคะ ขอบคุณคะ มุมมองดีๆ ที่ต้องเผยแพร่

ให้มองกันเยอะๆ

บางที ชีวิตจะอยู่ หรือ ไป ก็แค่เราเห็นแบบไหน

เลือกมองแบบไหน

ไม่ใช่หลอกตัวเอง  แต่อะไรก็ไม่ทราบ 

ขอให้กำลังใจและใช้ชีวิตอย่างมีสุขค่ะ...น้องๆที่ทำงานดิฉันถูกตามให้ขึ้นมาดมยาสลบเปลี่ยนไตบ่อยขึ้น..แปลว่ามีผู้บริจาคมากขึ้นและโอกาสของผู้ป่วยก็มีมากขึ้นค่ะ...ขอให้พระคุ้มครองค่ะ

คะ คิดว่า ปัจจุบันมีผู้ที่เข้าใจ และบริจาคอวัยวะกับ

สภากาชาติ มากที่เดียว

ถือว่าเป็นการให้ ที่ยิ่งใหญ่เพื่อเพื่อนมนุษย์ 

 

ตามอ โอ๋มา ชอบจังค่ะบันทึกนี้

โดยเฉพาะ

อะไรเล่า ที่จะทำให้เรา ไม่ยอมแพ้

     และ

     เมื่อเราข้ามพ้นความทุกข์ของเรา เราก็จะมองไม่เห็นทุกข์ของตัวเอง การมองไม่เห็นทุกข์ ก็ทำให้เรารู้สึก แค่รู้สึกทางใจนะ ..รู้สึก เออ ...ดีว่ะ...

     จากนั้นก็แจกยิ้ม  ...ยิ้มไปเรื่อยๆ บังคับให้ร่างกายดูดีขึ้นด้วย ช่วยตัวเองโดยการยิ้มกับตัวเอง ยกระดับใจ ระดับกายให้มาฟูขึ้น   อย่าจม....

 กำลังจะจัดค่ายให้เด็ก ที่เชียงราย ได้อะไรดีๆไปฝากเด็กๆอีกแล้ว

ขอบคุณค่ะ   

 

P

พญ รวิวรรณ หาญสุทธิเวชกุล

  ขอบคุณคะ....ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมคะ....

จ ะจัดค่ายเด็กที่ เชียงราย หรือคะ....ดีจังคะ

คุณหมอ ทำงานได้ หลากหลายจังนะคะ

เด็กๆต้องสนุกแน่นอนเลยคะ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท