"ในชีวิตของคนทุกคน ต้องเคยผ่านร้อนและหนาว และพบเรื่องราวบางอย่างฝังใจ ทุกครั้งที่เธอปวดร้าว หมดสิ้นกำลังจะก้าวเดินไป เธอจงมองไปนอกหน้าต่าง" แหมไม่ต้องตกใจนะค่ะ ไม่ได้มาร้องเพลง Bird ธงไชย ให้ฟังหรอกค่ะ แต่อยากให้ทุกคนอารมณ์ดีและผ่อนคลายก่อนจะเข้าเรื่องนะค่ะ จากเพลงก็สามารถเข้าเรื่องได้เหมือนกัน ในยามที่คนเราท้อแท้ หรือหมดกำลังใจ เพลงก็สามารถช่วยคุณได้
คนเราแต่ละคนเกิดมา ต่างพ่อต่างแม่ ต่างสถานที่ ต่างบ้านต่างเมือง สูงบ้าง ต่ำบ้าง แต่ละด้าน แต่ละมุมของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน แต่ละด้านก็จะมีสิ่งที่แตกต่างกัน อยู่ที่เราจะนำมุมไหนมาแสดงอยู่ในชีวิตประจำวัน เริ่มตั้งแต่กินไม่เหมือนกัน ชอบไม่เหมือนกัน เป็นต้น
ของแต่ละสิ่งในชีวิต มักมีของคู่กันเสมอ คือมีทั้ง2 ด้าน มีทั้งด้านบวกและด้านลบ มีหน้าร้อนก็ต้องมีหน้าหนาว มีด้านขาวต้องมีด้านดำฯลฯ (แหม ไม่งั้นไม่เกิด blog tagแน่เลยเราฮิ ฮิ เดี๋ยวก็อดรู้ความลับคนอื่น นอกเรื่องอีกแล้วราณีเนี่ย) คนเราจะมีแต่สิ่งดี ๆ ตลอดก็ไม่ได้ เดี๋ยวคนก็บอกว่าพระเจ้าจอร์จ คุณยอดมาก คุณเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริง ๆ เลย อะล้อเล่น
..........คนเรามีหลายด้าน มีทั้งข้อดี ข้อเสีย มีสาระบ้างไม่มีสาระบ้าง การที่คนเราจะคบกัน หรือมีมุมมองเหมือนกันในสิ่งที่ตนเองชอบนั้นไม่เป็นสิ่งที่ผิดหรือถูก ก็ขึ้นอยู่กับว่าท่านมองมุมไหนกันแน่ มีชอบหรือไม่ชอบ บางคนอยู่ภาคเหนือชอบกินข้าวยำก็ได้ แต่บางคนอยู่ภาคใต้ อาจชอบกินแคปหมูน้ำพริกอ่องก็ได้ เอาอะไรมาวัดค่ะ ...ว่าคนใต้ต้องกินแกงเหลืองเสมอไป จริงหรือไม่จริงบอกด้วยนะคะท่านผู้ชม
แต่มีสิ่งหนึ่งที่แต่ละคนเหมือนกัน คือเลือกที่จะทำ เลือกที่จะเป็น เลือกที่จะชอบ ได้เสมอค่ะ อย่าลืมอ่านให้จบนะค่ะอย่าหลับซะก่อนละ......
เช่นเมื่อวันก่อนราณีเข้าไปในblog ท่านครูบาเพราะท่านขึ้นต้นหัวข้อ blog ว่า "บ่ายนี้มีนัดที่สวนดอกไม้" เข้าไปอ่านได้ที่ http://gotoknow.org/blog/sutthinun/79538 ครูบาท่านชอบต้นไม้ ชอบดอกไม้ ถึงแม้ราณีจะสอนด้านบัญชี แต่ราณีก็ชอบของสวย ๆ งาม เรื่องดอกไม้ต้นไม้เหมือนกัน แ ต่อาจจะไม่ได้เชี่ยวชาญรู้เรื่องดอกไม้ทุกชนิด หรือทุกอย่าง แค่ชอบผิดด้วยหรือ ท่านครูบามองหาคนที่ชอบเหมือน ๆ กัน บางครั้งอาจจะไม่ได้แทรกสาระการเรียนการสอนที่หนักๆ ลงไปเป็นเชิงทฤษฎี เข้าไปดูของท่านครูบา.. อ่านแล้วได้แง่คิดในหลายด้าน
ยกตัวอย่างนะคะ ราณีชอบประโยคที่ว่า "มันเป็นวินัยชีวิตที่ควรจะเดินสายกลางแบบดูตาม้าตาเรือเสียบ้าง" สำนวนนี้โดนเลยค่ะ วันนี้ครูบามีอะไรมากมายแทรกอยู่อย่างไม่น่าเชื่อ มีอย่างน้อยก็ เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง จะพอเพียงอย่างไร ทุกอย่างมันขึ้นที่ใจ ถ้ายับยั้งชั่งใจเป็น มันก็เห็นความพอเพียงพอประมาณแห่งตน ถ้าใครอ่านทุกตัวอักษร จะเห็นได้ว่าท่านเป็นนักปฏิบัติตัวยงที่หาตัวจับยาก (ไม่ใช่นินจานะค่ะ)โปรดติดตามที่ 2ต่อไปhttp://gotoknow.org/blog/Ranee/80094
ผมก็เรียนรู้อย่างพอเพียงครับ
เรียนให้รู้ ใช้ความรู้ให ้
ถูกทาง ถูกที่ ถูกธรรม
.
แต่ความรู้ของผม ยังไม่เพียงพอ
ก็ต้องขอเรียนรู้ จากผู้รู้ต่อไปครับ
สวัสดีค่ะพี่
ขอบคุณที่เข้ามาให้กำลังใจแล้วอย่าลืมไปอ่าน ต่างมุมต่างมอง ตอนที่2 ตามไปดูกันค่ะhttp://gotoknow.org/blog/Ranee/80094
สวัสดีค่ะคุณตาหยู
ขอบคุณที่อ่านแล้วกรุณาให้ข้อคิดเห็นคนหัดเขียนมือใหม่ http://gotoknow.org/blog/Ranee/77629เรื่องจิตใจพอเพียงได้หรือยัง เข้าไปอ่านหรือยังค่ะเข้ามาแนะนำได้นะค่ะสำหรับราณีผู้อ่อนด้วยประสบการณ์แต่ใจอยากเขียน เรียกทำนองใจสั่งมาค่ะ
เรียนอ.ขจิต
ขอบคุณค่ะที่เข้ามา อ่านทุกตัวอักษร และอย่าลืมเข้ามาวิจารณ์ได้นะค่ะ
สวัสดีค่ะอ.ขจิต
ขอบคุณที่แวะมาเติม rating อีกกี่รอบราณีก็ยังไหว แต่ออาจารย์ขจิตก็ตามทันจนได้นะค่ะ ( แป่วววววว)
Thank you ลูกหว้าเพื่อนคนสวย ติดหนี้ราณีเรื่องออกกำลังกายกันอยู่นะอย่าทำเป็นลืมละ หนังอีก (ฮิ ๆ) มีเวลาจะคุยกับเราไหมค่ะท่าน ผชช.
อาจารย์ครับ เข้ามาอ่านแล้วครับ จะเข้ามาอ่านอีกหลาย ๆ รอบ
เรียนอ. Beeman
แวะมาอ่านตามเทียบเชิญ...
ธรรมชาตินั้นมีสองด้าน ตามโลกวิสัยแต่ธรรมะนั้นมีเพียงหนึ่ง
มีขาว มีดำ มีกลางคืนมีกลางวัน มีสุข มีทุกข์ มีคุณ มีผม มีคนหล่อ มีคนขี้เหร่...
หลายคนหลายมุม หลายความคิด หลายความชอบ หลายบันทึกไง หลายชุมชน หลายแฟนคลับ
ไม่แปลกกระไร...ความแตกต่างย่อมมีค่าในตัวมันเอง เช่น ศิลปะเกิดขึ้นได้เพราะความต่าง และเป็นความแตกต่างที่มีคุณค่า
คุณราณีก็งามตามแบบฉบับเฉพาะตน ส่วนผมนั้นหล่ออย่าบอกใคร
ล้วนเป็นความแตกต่างที่น่าค้นหาครับ
สวัสดีค่ะคุณเม้ง
คุณเม้งเล่นเหมือนรายการหมอซ้งเลย (ไม่รู้เกิดทันกันหรือเปล่า) ขอบคุณนะค่ะที่ตอบได้แจ้งแว้งมากเลยค่ะ ถ้าคนเราหาจุดลงตัวได้ สังคมก็จะอยู่อย่างปกติสุข