"Light amplification by stimulated emission of radiation" คือชื่อเต็ม
เรียกให้สั้น ก็ว่า Laser
พูดถึงคำนี้ แต่ละคนจะจินตนาการต่อไปในแนวของตัวเอง
เป็นตัวอย่างคำสำหรับการทำจิตวิเคราะห์ที่ดีมากคำหนึ่ง
Laser เป็นตัวอย่างของระบบผุดบังเกิดที่เด่นมากระบบหนึ่ง
ออกตัวไว้ก่อนว่าผมคงอธิบายได้หยาบมาก
หลักการแบบละเอียด หาอ่านเองนะครับ อาจเริ่มที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Laser
ก็ได้
หลักการอย่างย่อคือ ตามปรกติแล้ว เมื่อมีโมเลกุลของตัวกลางบางชนิดอยู่ หากเราอัดฉีดพลังงานเข้าไป เมื่อโมเลกุลได้รับพลังงาน ตามปรกติแล้ว เราจะเห็นพฤติกรรมของโมเลกุลเป็นไปตามกฏของ Boltzman ที่ว่า มีโมเลกุลส่วนน้อย ได้รับพลังงานส่วนมาก และโมเลกุลส่วนมาก ได้รับพลังงานส่วนน้อย
ธรรมชาติข้อนี้ บางคนก็เรียก กฎของ 20-80 ของ Paretoบางคนก็เรียก Power law
คือเมื่อโยนเงินลงไปสักก้อนหนึ่งในสังคม จะเกิดการกระจายแบบนี้ คือ มีคนเพียงหยิบมือหนึ่ง ได้เงินมาก และคนส่วนมาก จะได้ส่วนแบ่งเงินเพียงหยิบมือเดียว
ทีนี้ เมื่อได้รับพลังงานอัดฉีดเข้ามาแล้วล่ะ ?
โมเลกุลใดมีพลังงานมากเกิน ก็จะบ้วนพลังงานทิ้งออกมาในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นแบบไม่เป็นระเบียบ ซึ่งความเข้มข้นพลังงานจะต่ำ
ตรงนี้จะคล้าย ๆ กับพฤติกรรมมนุษย์่วาด้วยเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ นะครับคือถ้ามีการ'อัดฉีด'เงินเข้ามาให้ อย่างที่เรียกว่าลาภลอย ก็จะเกิดการ'บ้วนทิ้ง'ด้วยการช็อปกระหน่ำ
ปีเตอร์ ลินช์ ใช้คำว่า 'เงินเหมือนฉี่ คือมีแล้วอั้นไม่อยู่หรอก ต้องรีบหาทางปลดเปลื้อง'
นี่คือกรณีทั่วไป ที่ไม่ได้เกิดเลเซอร์
ที่เลเซอร์เป็นระบบผุดบังเกิด เพราะเลเซอร์เป็นพฤติกรรมที่แหวกไปจากปรกติ เกิดเมื่อโมเลกุลมีการสมาคมกันเอง เนื่องจากโครงสร้างการรับพลังงาน และการจัดการพลังงานมีความลงตัว
นั่นคือ ่หากจัดการเชิงโครงสร้างอย่างเหมาะสม ระบบจะปล่อยแสงเลเซอร์ที่เป็นระเบียบออกมาได้ ซึ่งความเข้มข้นพลังงานจะสูง ทำให้สามารถนำไปใช้งานต่อได้สารพัด
ที่เรียกว่าการจัดการเชิงโครงสร้างลงตัว เช่น
ที่น่าทึ่งคือ โมเลกุลจำนวนมากมีวิธีการ 'นัดแนะ' ประสานงานกันอย่างไร จึงได้เกิดความพร้อมเพรียงเช่นนั้น ?
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ
หากเราเปลี่ยนคำว่า โมเลกุล เป็น คน
เปลี่ยนคำว่า พลังงาน เป็น สติปัญญา หรือเป็น เงิน หรือเป็น ข้อมูลข่าวสาร
ท้าทายอยู่เหมือนกันนะครับ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นตามมา
รูปแบบที่เทียบเท่าเลเซอร์ในระดับสังคม มีอยู่หรือไม่ ?
ถ้ามี จะอยู่ในรูปโฉมแบบใด ?
คุณ..นายบอน!-กาฬสินธุ์..
ผมยังมองคำ "สติปัญญา" ในด้านที่เป็นบวกมาก ๆ
ปัญหาที่เกิด ผมมองว่า เกิดจากขั้วตรงข้ามสติปัญญา
คือขาดแคลนสติปัญญาอย่างหนักถ้วนหน้า
แต่ที่ก่อปัญหา คงเป็นเรื่องการกระจายโอกาส
คือคนส่วนน้อย มีโอกาสมาก คนส่วนมาก มีโอกาสน้อย
โอกาสที่ว่า คือโอกาสที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะดีหรือเลว ที่มีผลกระทบในวงกว้าง
ซึ่งพอขาดสติปัญญามากำกับ ก็เลยกลายเป็นการ ฉวยโอกาส ไป
ปัญหาก็คือ การศึกษา เกี่ยวข้องกับ สติปัญญา หรือไม่ ผมไม่รู้
บางคน ทึกทักว่าเกี่ยว
ไม่เชื่อก็ลองกลับไปอ่านรัฐธรรมนูญฉบับปี 40 ดูสิครับ มีเขียนไว้โต้ง ๆ