Emergent: ตัวอย่างระบบ (7) - Laser


"Light amplification by stimulated emission of radiation" คือชื่อเต็ม

เรียกให้สั้น ก็ว่า Laser

พูดถึงคำนี้ แต่ละคนจะจินตนาการต่อไปในแนวของตัวเอง

เป็นตัวอย่างคำสำหรับการทำจิตวิเคราะห์ที่ดีมากคำหนึ่ง

  • บางคนจะนึกถึงฟิสิกส์
  • บางคนจะนึกถึงผับ
  • บางคนจะนึกถึงของเล่น
  • บางคนนึกถึงคอมพิวเตอร์
  • บางคนนึกถึงมนุษย์ต่างดาว
  • ...บางคนก็นึกไม่ออก ว่าจะนึกอะไรดี...

Laser เป็นตัวอย่างของระบบผุดบังเกิดที่เด่นมากระบบหนึ่ง

ออกตัวไว้ก่อนว่าผมคงอธิบายได้หยาบมาก

หลักการแบบละเอียด หาอ่านเองนะครับ อาจเริ่มที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Laser

ก็ได้ 

หลักการอย่างย่อคือ ตามปรกติแล้ว เมื่อมีโมเลกุลของตัวกลางบางชนิดอยู่ หากเราอัดฉีดพลังงานเข้าไป เมื่อโมเลกุลได้รับพลังงาน ตามปรกติแล้ว เราจะเห็นพฤติกรรมของโมเลกุลเป็นไปตามกฏของ Boltzman ที่ว่า มีโมเลกุลส่วนน้อย ได้รับพลังงานส่วนมาก และโมเลกุลส่วนมาก ได้รับพลังงานส่วนน้อย

ธรรมชาติข้อนี้ บางคนก็เรียก กฎของ 20-80 ของ Pareto 

บางคนก็เรียก Power law

คือเมื่อโยนเงินลงไปสักก้อนหนึ่งในสังคม จะเกิดการกระจายแบบนี้ คือ มีคนเพียงหยิบมือหนึ่ง ได้เงินมาก และคนส่วนมาก จะได้ส่วนแบ่งเงินเพียงหยิบมือเดียว

ทีนี้ เมื่อได้รับพลังงานอัดฉีดเข้ามาแล้วล่ะ ?

โมเลกุลใดมีพลังงานมากเกิน ก็จะบ้วนพลังงานทิ้งออกมาในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นแบบไม่เป็นระเบียบ ซึ่งความเข้มข้นพลังงานจะต่ำ

ตรงนี้จะคล้าย ๆ กับพฤติกรรมมนุษย์่วาด้วยเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ นะครับ

คือถ้ามีการ'อัดฉีด'เงินเข้ามาให้ อย่างที่เรียกว่าลาภลอย ก็จะเกิดการ'บ้วนทิ้ง'ด้วยการช็อปกระหน่ำ

ปีเตอร์ ลินช์ ใช้คำว่า 'เงินเหมือนฉี่ คือมีแล้วอั้นไม่อยู่หรอก ต้องรีบหาทางปลดเปลื้อง'

นี่คือกรณีทั่วไป ที่ไม่ได้เกิดเลเซอร์

ที่เลเซอร์เป็นระบบผุดบังเกิด เพราะเลเซอร์เป็นพฤติกรรมที่แหวกไปจากปรกติ เกิดเมื่อโมเลกุลมีการสมาคมกันเอง เนื่องจากโครงสร้างการรับพลังงาน และการจัดการพลังงานมีความลงตัว

นั่นคือ ่หากจัดการเชิงโครงสร้างอย่างเหมาะสม ระบบจะปล่อยแสงเลเซอร์ที่เป็นระเบียบออกมาได้ ซึ่งความเข้มข้นพลังงานจะสูง ทำให้สามารถนำไปใช้งานต่อได้สารพัด

ที่เรียกว่าการจัดการเชิงโครงสร้างลงตัว เช่น

  • ใช้ปริมาณ ความเข้มข้น รูปทรง ของตัวกลางที่ลงตั
  • มีการบังคับให้แสงที่คายออก มีการสะท้อนกลับไปกลับมา เพื่อให้เกิดการ resonant หรือเข้าจังหวะกันอย่างทั่วถึง จนเกิดปรากฎการณ์พลิกกลับของพฤติกรรมประชากร population inversion หรือนั่นคือ โมเลกุลส่วนใหญ่ สามารถมีพลังงานสูงกันได้ถ้วนหน้า (ซึ่งไม่เป็นไปตามกฎการกระจายของ Boltzman) ก็จะปล่อยเลเซอร์ออกมา

ที่น่าทึ่งคือ โมเลกุลจำนวนมากมีวิธีการ 'นัดแนะ' ประสานงานกันอย่างไร จึงได้เกิดความพร้อมเพรียงเช่นนั้น ?

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ

หากเราเปลี่ยนคำว่า โมเลกุล เป็น คน

เปลี่ยนคำว่า พลังงาน เป็น สติปัญญา หรือเป็น เงิน หรือเป็น ข้อมูลข่าวสาร

ท้าทายอยู่เหมือนกันนะครับ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นตามมา

รูปแบบที่เทียบเท่าเลเซอร์ในระดับสังคม มีอยู่หรือไม่ ?

ถ้ามี จะอยู่ในรูปโฉมแบบใด ? 

 

คำสำคัญ (Tags): #emergent
หมายเลขบันทึก: 80034เขียนเมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2007 11:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 พฤษภาคม 2012 21:16 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
ลองเปลี่ยนดูแล้วครับ


คนส่วนน้อย ได้รับสติปัญญามาก และคนส่วนมาก ได้รับสติปัญญาน้อย

คนส่วนน้อย เป็นกลุ่มคนที่มีรายได้สูงกว่า คนส่วนมาก จึงเข้าถึงการศึกษาได้มากกว่า

คนส่วนน้อย ทำให้สังคมไทย เกิดปัญหาจนกระทบคนส่วนใหญ่

คุณ..นายบอน!-กาฬสินธุ์..

ผมยังมองคำ "สติปัญญา" ในด้านที่เป็นบวกมาก ๆ

ปัญหาที่เกิด ผมมองว่า เกิดจากขั้วตรงข้ามสติปัญญา

คือขาดแคลนสติปัญญาอย่างหนักถ้วนหน้า

แต่ที่ก่อปัญหา คงเป็นเรื่องการกระจายโอกาส 

คือคนส่วนน้อย มีโอกาสมาก คนส่วนมาก มีโอกาสน้อย

โอกาสที่ว่า คือโอกาสที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะดีหรือเลว ที่มีผลกระทบในวงกว้าง

ซึ่งพอขาดสติปัญญามากำกับ ก็เลยกลายเป็นการ ฉวยโอกาส ไป

ปัญหาก็คือ การศึกษา เกี่ยวข้องกับ สติปัญญา หรือไม่ ผมไม่รู้

บางคน ทึกทักว่าเกี่ยว

ไม่เชื่อก็ลองกลับไปอ่านรัฐธรรมนูญฉบับปี 40 ดูสิครับ มีเขียนไว้โต้ง ๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท