เมื่อผู้บันทึก สำเร็จการศึกษากลับมาสอนหนังสือ ความตั้งใจหนึ่งที่คิดไว้คือ .....การสนับสนุนให้นักศึกษาได้มีโอกาสไปศึกษาต่อ...
ดังนั้น สิ่งหนึ่งที่ทำ คือ....ติดต่ออาจารย์ญี่ปุ่นทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก...ขอให้รับเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาให้ลูกศิษย์พร้อมกับขอสมัครทุนรัฐบาลญี่ปุ่น ภายใต้การเสนอจากอาจารย์ท่านนั้น ซึ่งการติดต่อนี้ จะเลือกติดต่อกับอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยของเรามีข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกัน
การสมัครทุนรัฐบาลญี่ปุ่นมี 2 วิธี คือ 1) สมัครและสอบผ่านการคัดเลือกโดยสถานทูต และ 2) สมัครโดยตรงไปยังอาจารย์ที่ปรึกษาที่ญี่ปุ่นเพื่อให้เสนอชื่อไปยังคณะ และมหาวิทยาลัยคัดเลือกเสนอชื่อไปยัง กระทรวงศึกษาธิการญี่ปุ่นให้พิจารณาจัดสรรทุนให้ ซึ่งเงื่อนไขคุณสมบัติของทั้งสองวิธีจะแตกต่างกัน ….การสมัครโดยตรงไปยังอาจารย์ที่ปรึกษาจะมีโอกาสมากกว่าเพราะเงื่อนไขไม่ได้เข้มงวดมากเนื่องจากผู้แข่งขันน้อยกว่า
ผู้บันทึกใช้วิธีการติดต่อสมัครทุนผ่านอาจารย์ที่ปรึกษาญี่ปุ่น…..ซึ่งอาจารย์ที่ได้ติดต่อเพื่อให้รับนักศึกษาให้นั้น ส่วนใหญ่ได้เคยพบและรู้จักกันมาก่อนหรือบางท่านก็ได้มีโอกาสพบภายหลัง....แต่มีอยู่ท่านหนึ่ง ที่ไม่เคยพบกันเลย......ที่ผ่านมา ใช้วิธีการติดต่อกันโดยทาง e-mail และโทรศัพท์ ...อาจารย์ท่านนี้คือ Prof.Dr.Satoru Okamoto อยู่ที่ Saga University ซึ่งต่อมาเมื่อประมาณ 4 ปี ที่แล้ว ได้เกษียณอายุราชการ อายุ 65 ปี
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ท่านได้ให้ความกรุณารับลูกศิษย์ของผู้บันทึกไปเรียนต่อปริญญาโทคนแรกเมื่อ 10 ปี ที่แล้ว และหลังจากการสมัครทุนอยู่ 3 ปี ลูกศิษย์อีกคนหนึ่งก็ได้รับทุนไปศึกษาต่อปริญญาโท เมื่อ 5 ปีที่แล้ว และขณะนี้กำลังศึกษาในระดับปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัย Saga </p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">และแล้ววันหนึ่งก็ได้ข่าวว่า Prof.Okamoto กำลังจะมาเมืองไทย และมาขอนแก่นเพื่อพบผู้บันทึก พร้อมคณะที่จะมาพบศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัย Saga……ผู้บันทึกดีใจมาก และนับวันรอด้วยความตื่นเต้น ….</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">…วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2550 เป็นวันที่ Prof.Okamoto จะมาถึงขอนแก่น และเป็นวันเดียวกับการประชุม UKM9 ซึ่งเป็นเราที่จะได้พบชาวบล็อกที่ยังไม่เคย F2F …ฉะนั้น วันนั้นจึงเป็นวันที่จะมีเรื่องตื่นเต้น 2 เรื่องซ้อนกัน…….</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ช่วงเช้า…ความตื่นเต้นแรกก็คือ…ได้พบกับเพื่อนชาวบล็อกจากแดนไกล….ซึ่งได้มีการบันทึกความประทับใจนี้ ไว้ในหลาย Blog แล้ว</p><p> ช่วงเย็น…ความตื่นเต้นที่สอง ก็คือการได้พบกับ Prof.Dr.Satoru Okamoto ที่ร้านอาหารที่คณะผู้บริหารคณะเกษตร มข ได้เลี้ยงรับรองคณะจาก Saga University </p><p></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">เมื่อผู้บันทึกเดินเข้าไปทักทาย Prof.Dr.Satoru Okamoto รีบเดินมาทักทาย แล้วพูดคุยกับ ผู้บันทึกอย่างเป็นกันเอง และก็รู้สึกสนิทสนมเหมือนคนที่รู้จักกันมานาน </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">Prof.Dr.Satoru Okamoto</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p>และก่อนจะจากกัน อาจารย์ Okamoto ได้ชวนให้ผู้บันทึกไปเยี่ยมเยือนที่ Saga ด้วย และเมื่อกลับถึงญี่ปุ่น ก็ได้จดหมายถึงลูกศิษย์ผู้บันทึกว่า ท่านอยากจะกลับมาที่ขอนแก่นอีกเร็วๆนี้ ดังจดหมายนี้</p><p>本日、朝帰ってきました。
予定通り、帰国しましたが、コンケンでは Parwadee 先生 には逢(あ)えました.
コンケンでは大学の皆様に大変おせわになり、きもちよくすごすことが出来ました。Parwadee 先生は9日の夕方 のパーテイで会うことが出来、短い時間でしたが、いろいろとはなしが出来ました。
また、近いうちにぜひコンケンに行きたいと思います。
岡本 悟 </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้ง 2 เหตุการณ์ ทำให้คิดว่าการที่เราได้รู้จักเพื่อนๆชาวบล็อกนี้ แม้จะไม่ได้ F2F หรือพบตัวเป็นๆ แต่มิตรภาพ ความรัก ความผูกพัน ความสุข ก็เกิดขึ้นได้อย่างสนิทใจ และให้ความช่วยเหลือ เอื้ออาทรกันได้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน….แล้วผลที่จะเกิดขึ้นต่อบุคคล ต่อองค์กร และประเทศชาติ…ก็คงไม่ต้องพูดกันอีกยืดยาว</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">……เพราะเพียงแค่นี้ก็น่าจะตอบได้นะค่ะว่า Gotoknow : Blog มีประโยชน์อะไรบ้าง……..</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">เพื่อนๆ ชาวบล็อกละค่ะ คิดอย่างไรบ้าง?</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>
ผมรู้สึกได้เลยว่าอบอุ่นมากคับ
เห็นด้วยกับพี่แผ่นดินคับ อาจตื่นเต้นบ้างนิดหน่อย อิอิ
เราคนทำงานนี่หน่า ไม่ใช่หนุ่มสาวนัดเจอกัน
จิงไหมคับพี่แป๋ว
สวัสดีครับอาจารย์
เห็นด้วยกับอาจารย์ลูกหว้าครับ ทุกวันนี้ผมจะให้เวลามานั่งอ่าน g2k วันละหลายๆ ชั่วโมง (หลังงานครับ) ครับ มีประโยชน์มาก และที่สำคัญได้เรียนรู้ และรู้จักผู้รู้เยอะไปมหดเลยครับ (แม้จะรู้จักทาง net ก็เหอะ)
แต่ว่าผมเองไม่ค่อยได้เขียนเท่าไหร่ เอาเป็นว่าถ้ามีเรื่องสนุก มาเล่าให้ฟังจะมาเขียนให้ฟังครับ
อ.แป๋วครับ ผมเป็นคนนึงที่ชอบวัฒนธรรม ญี่ปุ่นครับ เคยไปครั้ง แลกตอนที่เป็นตัวแทนเยาวชนไทย เข้าร่วม เรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ (Ship for southeast asian youth program: SSEAYP) ครับ ต่อมาก็เลยไปนำเสนอผลงานวิจัยที่ญี่ปุ่นครับ (นี่คือรูปบางส่วนครับ)
แม้ว่าพึ่งได้เข้ามาสัมผัสก็รู้สึกถึงความเป็นกันเองค่ะ
รู้สึกว่าได้ความรู้แล้วก็ได้ใช้อินเตอร์เน็ท
ในทางสร้างสรรค์มากขึ้น กว่าตอนเป็นนักศึกษา
แต่ถ้าเป็นเด็กๆ ....ก็คงต้องศึกษาไปก่อน
ยังไม่ค่อยมีเรื่องราวมาแลกเปลี่ยนมากนักค่ะ อ.แป๋ว
หวัดดีจ้า น้องหมู
เรียน คุณ paew
สำหรับดิฉันแล้ว ตอนนี้ ดิฉัน มีเพื่อนรายล้อม ดังนี้ เพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมเรียน เพื่อนร่วมบ้าน และเพื่อนใน gotoknow
จากสัมพันธ์ที่เริ่มต้น จากปลายนิ้วสัมผัส ผ่านทางแป้นพิมพ์ ตอนนี้เริ่มก่อร่างสร้างตัว เสมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน คือ ครอบครัว gotoknow
ถึงแม้จะมีบ้างบางคราว ที่ภาระงานเร่ง ทำให้ห่างหายไปจากสังคมนี้บ้าง แต่ทุกครั้งที่ได้มีโอกาสได้แวะเวียนมา จะพยายามตามอ่านบันทึกของ คนคุ้นเคย คอยซึมซับสิ่งที่แต่ละท่านถ่ายทอด และไม่เคยรู้สึกว่าสายเกินไปเลย ถึงแม้จะมาตามอ่านทีหลัง แต่หลาย ๆ อย่างที่ได้รับจากที่นี่ คิดถึงทีไร อบอุ่น และขนลุก เสมอค่ะ
ดีใจที่ได้มีโอกาสได้รู้จักหลาย ๆ ท่าน ถึงแม้จะเป็นเพียง ทาง b2b ก็ตาม
ด้วยความเคารพ
ขอบคุณนะค่ะ ที่แวะเวียนเยี่ยมยาม ถามข่าวคราวเสมอ เช่นกันค่ะ หลังเลิกงาน บางทีก่อนช่วงพักเที่ยง ก็เข้าบล็อก ตระเวนไปอ่านบล็อกที่คุนเคย บล็อกเพื่อนๆ แต่บางช่วงเวลาน้อยก็ได้แต่เพียงมาดูบ้านเราเองว่ามีใครมาเยี่ยมบ้าง....ใครหายไปก็จะตระเวนไปโผล่หน้าถามข่าวคราวค่ะ....จริงๆแล้วอยากไปเยี่ยมเพื่อนๆในบล็อกทุกท่านค่ะ ...แล้วเราก็จะรู้สึกว่าเวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน.....
เนื่องจากเคยเรียนที่ญี่ปุ่น ก็ซึมซับ และเข้าใจบางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นบ้างค่ะ ... อยู่ที่ไหนเราต้องเปิดใจกว้างกับวัฒนธรรมของเค้าค่ะ ถ้าดีก็นำมาเป็นแบบอย่าง ถ้าไม่ดีก็ผ่านเลยไปค่ะ....ญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมดีๆหลายอย่างค่ะ
รออ่านเรื่องสนุกๆ จากคุณสุรศักดิ์นะค่ะ ยังไงก็มาเคาะเรียกด้วยนะค่ะ....ขอบคุณค่ะ
หวัดดีหมูน้อย
สวัสดีค่ะคุณรัตติยาขา
อ่านแล้วก็ดีใจจังค่ะ...ที่ได้เกิดมาเป็นลูกศิษย์อาจารย์ภาวดีค่ะ...หนูคงทำบุญไว้เยอะ....ก็เลยได้รู้จักอาจารย์...ถูกไม๊ค่ะ...อิอิ...
ถ้าไม่ได้อาจารย์หนูก็คงไม่ได้ไปเหยียบเมืองปลาดิบ
แล้วหล่ะค่ะ....
คราวที่แล้วไม่มีเวลาตอบค่ะ....ก็อ่านเฉยๆ....
วันนี้รู้สึกเหงาก็เลยกลับมาตอบอาจารย์อีกค่ะ...
หวังว่าอาจารย์คงสบายดีนะค่ะ...
แป้งเปียก
น้องหมูคับ.....เหนียวขึ้นเรื่อยๆ เลยนะค่ะ ....จากแป้งเปียก เป็นลาเทกซ จาก ลาเท็กก็มีตราช้าง....
พี่แป๋วนอนดึกจังคับ ระวังตาเป็นหมีแพนด้านะคับ
อิอิ
อาจารย์แป๋ว จอมพลังค่ะ
คนถ่ายรูปที่สวยๆนี่ ก็คือคนชมนั่นแหละค่ะ
ต้องชมคนถ่ายมากกว่านางแบบค่ะ
ที่อุตส่าห์เห็นมุมที่สวย ภาพจึงออกมาดูดีกว่าตัวจริง
paew เมื่อ |
อ.ขจิต ขา
โอ ไฮ โย โค ไซ มัส
มาสาย ก็ยังดีกว่าไม่มานะครับ อาจารย์
blog มีประโยชน์มากจริงๆครับ ผมขอขอบคุณมาสเตอร์โกทูโนนะ ที่ต้องทำงานหนัก
ที่ทำให้เรามีช่องทางหาความรู้
และอยากให้คนไทยทุกคนระดมกันหาความรู้ให้มากๆแล้วนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
ใช้ความรู้จริง แทนข้อคิดเห็นที่มีอยู่เต็มฟ้าเมืองไทย ให้มากขึ้นๆ
มิตรภาพไร้พรมแดน ครับอาจารย์