เมื่อได้รับมอบหมายงานยาก


งานนี้เสร็จด้วยความภูมิใจเขยิบเข้าใกล้ความหมายที่การจัดการความรู้ที่ขึ้นต้นจากการจัดการตัวเอง มั่นใจในความสามารถของตน ....ลองทำ...ทำได้....ทำให้ได้...

ประชุมคณะกรรมการอำนวยการพัฒนาบุคลากรมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์....ซึ่งปกติจะมีการประชุมปีละ 2 ครั้ง....ครั้งแรกเป็นการให้นโยบาย...กรอบแนวทางก่อนขึ้นปีงบประมาณใหม่ รายงานแผนผลการดำเนินงาน  อีกครั้งพอทำไปได้ 6 เดือนก็จะมีการทบทวน คุยกันระหว่างทาง...กรรมการชุดนี้จะเป็นทีมบริหารและผู้ทรงคุณวุฒิด้านการพัฒนาบุคลากร คณะกรรมการชุดใหม่ให้โจทย์จากการประชุมเมื่อ 2 เดือนก่อนนี้  นัดประชุมทุก 2 เดือน โจทย์การประชุมครั้งหน้า ทำให้หัวหน้างานตัวน้อยอย่างดิฉั้นเกิดอาการกังวลได้พอควร
1.ให้ประมวลภาพการพัฒนาบุคลากรนำเสนอให้เห็นภาพรวมของทั้งมหาวิทยาลัย ทำไงก็ได้ให้เห็นเป็นจิกซอร์ต่อกันทั้งมหาวิทยาลัย2.จากการประมวล บอกให้ได้ว่าแต่ละเรื่องแต่ละประเด็นที่แยกย้ายกันทำในมหาวิทยาลัย ตอบสนองกลยุทธ์อะไรขององค์กร 3.ส่วนที่งานคุณทำอยู่....อยู่ตรงไหนของภาพใหญ่ และหากเป็นไปได้ให้4.ชวนคนที่รับผิดชอบจิกซอร์เหล่านั้นมาเล่าให้ฟังว่า...เขานำกลยุทธ์ต่างๆสู่การปฏิบัติได้อย่างไร (เขาทำไปถึงไหนกันแล้ว)
         สองเดือนที่ผ่านมามีอุปสรรคในการทำงานที่ได้รับมอบหมายข้างต้น คือมีงานเข้ามาไม่เว้นแต่ละวันเป็นงานเฉพาะหน้าที่ต้องบริหารจัดการ..มีงานด่วนงานเร่ง..งานหาเช้ากินค่ำ...(ปกติทำงานไม่ค่อยทันกับเวลาอยู่แล้ว)  
                 แต่ด้วยเลือดนักสู้ดิฉั้นก็ไม่เคยปล่อยให้โอกาส (ที่ดิฉั้นจะได้นำเสนอประเด็นให้ที่ประชุมผู้บริหารฟัง)ที่ผู้หลักผู้ใหญ่ต้องนิ่งฟังดิฉั้นนำเสนอ ดิฉั้นคิดทุกที่ว่าจะทำงานชิ้นนี้ให้ดีได้อย่างไร มันเป็นงานยากในความรู้สึกของดิฉั้น หากจะประเมินตัวเองให้เห็นภาพเป็นเสมือนไก่ที่ก้มจิกกินแต่เมล็ดข้าวตรงหน้า........วันหนึ่งถูกบอกให้บินขึ้นไปดูให้ได้เหมือนนก ...ไก่จะไม่กลุ้มใจได้อย่างไรแต่ไก่มีแรงฮึดสู้...ไม่จำนนต้องทำได้ซิน่า...พยายามเตรียมการประชุมแบบตั้งใจ...ทุกวันไก่จะตื่นขึ้นมานั่งดร้าฟความคิดอ่านเอกสารที่พอจะช่วยให้เห็นภาพรวมได้ คุยกับผู้เกี่ยวข้อง... เก็บทำวันละนิด จนประมวลเป็นรูปเป็นร่างได้งานนี้เสร็จด้วยความภูมิใจเขยิบเข้าใกล้ความหมายที่การจัดการความรู้ที่ขึ้นต้นจากการจัดการตัวเอง มั่นใจในความสามารถของตน ....ลองทำ...ทำได้....ทำให้ได้...
                   

หมายเลขบันทึก: 79502เขียนเมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2007 17:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 พฤษภาคม 2012 18:16 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)

ขอเอาใจช่วยคุณเมตตา

  ถือว่าคุณเมตตาได้รับงานที่ยิ่งใหญ่ต่อองค์กร  และ สังคม  เพราะ  การจัดการความรู้เป็นสิ่งใหม่ที่สำคัญต่อสังคม  ณ  วันนี้.....  วันหนึ่งคุณเมตตาจะเป็นเหยี่ยวที่บินแล้วมองเห็นสรรพสิ่งในปฐพีนี้  สามารถมุ่งตรงไปสู่เป้าหมายอย่างรวดเร็ว  แม่นยำ   ....  เพราะได้ใช้การจัดความรู้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาจากไก่  ไป  เป็น เหยี่ยว

    พวกเราชาวเครือข่ายประชาสังคม  คาดหวัง  ว่า  มอ.  จะเป็นแหล่งขุมความรู้ของภาคใต้  และ  คุณเมตตาคือ  คน  คน  หนึ่ง  ที่จะสร้างให้  มอ.  เป็นดังที่หว้ง    .....  เอาใจช่วย  สู้ ๆ

คุณเมตตาคะ ... อนาคตไม่ไกล เราก็จะได้เห็นไก่บินได้เหมือนนกสิคะเนี่ยะ ... วันนั้นมาถึงเมื่อไรบอกด้วยนะคะ ... จะตามไปเก็บข่าวค่ะ

... เอาใจช่วยสุด สุด ด้วยคนนะคะเนี่ยะ

นั่นไง...คุณจิ๊บของครูอ้อย  ต้องเก่งนะคะ  ต้องทำได้  ครูอ้อยเอาใจช่วย  สู้..สู้

คุณจิ๊บ ....สู้สู้

  • เพียงเพราะมนุษย์มิได้เกิดมาเพื่อจำยอมต่ออุปสรรค...หลายบันทึกของ อ.เมตตา  ก็สื่อความหมายในทำนองนี้อย่างชัดเจน
  • ประเมินตัวเองให้เห็นภาพเป็นเสมือนไก่ที่ก้มจิกกินแต่เมล็ดข้าวตรงหน้า........วันหนึ่งถูกบอกให้บินขึ้นไปดูให้ได้เหมือนนก ...ไก่จะไม่กลุ้มใจได้อย่างไร  ผมชื่นชอบการวิเคราะห์และเปรียบเปรยนี้มาก  เพราะเป็นการหยั่งคิดในตนเองได้อย่างลึกซึ้ง รู้ตนและประมาณตนได้ชัดเจน จนสามารถที่จะกำหนดวิถีการเดินของตนเองได้อย่างเป็นรูปเป็นร่าง
  • ท้ายที่สุด KM ก็เป็นเสมือนการมองสะท้อนศักยภาพของตนเอง  สังเคราะห์กลั่นกรองและนำพาไปสู่การเผยแพร่ไปสู่สาธารณชน  เสมือนที่ อาจารย์มักเรียกว่า "ขายไอเดีย"  (ประมาณนี้)  ประโยชน์ก็ตกอยู่กับตัวเรา และองค์กร
  • ขอบคุณครับ....
     งานของคุณเมตตา เป็นการประมวลภาพจากงานย่อย หรือแผนงานที่แต่ละหน่วยงานทำ แล้วมาขมวด จัดเป็นกลุ่มๆ เพื่อดูว่าแต่ละกลุ่มกิจกรรมนั้นเขาทำเพื่อตอบสนองต่อนโยบายข้อใด ซึ่งเป็นวิธีการที่แปลกครับ เพราะเป็นการทำงานย้อนกลับจาก action plan ขึ้นไปสู่ เป้าประสงค์ หรือ objective ของมหาวิทยาลัย
     ปกติที่ผมค่อนข้างคุ้นเคย จะเห็นแต่การกำหนดวิสัยทัศน์ การทำ SWOT analysis เพื่อประเมินจุดอ่อนจุดแข็ง โอกาส และภัยคุกคาม และมาฝันร่วมกัน ว่าต่อไปจะกำหนดนโยบาย หรือ objective อย่างไรบ้าง เมื่อได้ objective แล้วค่อยมากำหนดแผนงาน ดูว่าจะมี action plan อะไรบ้าง เพื่อให้ตอบสนองต่อ objective แต่ละข้อ มี KPI อะไรมาเป็นตัววัด มีใครรับผิดชอบแต่ละแผนงาน แล้วแต่ละแผนจะทำกันเมื่อไร ใช้งบประมาณ หรือทรัพยากรอะไรบ้าง เท่าไร ฯลฯ การแปลงจากแผนกลยุทธ หรือ objective มาเป็น action plan ในทางปฏิบัติ มีวิธีการใช้ balance score card (BSC) มาเป็นเครื่องมือช่วยและเป็นแนวทางในการทำได้ครับ คุณเมตตาสามารถ หาเรื่อง BSC มานั่งอ่านทำความเข้าใจเล่นๆได้ครับ ผมเคยยืมหนังสือเรื่องนี้จาก สหกรณ์ออมทรัพย์มอ. มาอ่านเล่นเมื่อนานมาแล้วครับ หากสนใจลองติดต่อขอยืมจากผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ มอ ได้ครับ 

ทดลองตอบโจษย์นะคะ

ข้อ 1 น่าจะรวบรวมการจัด Km ของ มอ ทั้งที่ เป็นเจ้าภาพ UKM และ จัดย่อยในมอ เท่าที่รวบรวมได้

ข้อ 2 นำหัวข้อเรื่องที่จัด กลุ่มผู้เข้าร่วมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แต่ละครั้งมาเทียบกับกลยุทธ์ของ มอ.

ข้อ 3 คุณเมตตาน่าจะเป็น ฝ่ายสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาบุคลากร

ข้อ 4 จัด Km  รวมดาว อาจจะเป็นกลุ่ม เช่น สายสนับสนุนด้วยกัน นักวิจัยด้วยกัน เป็นต้น 

โอย ช่วยอะไรได้ไหมเนี่ย เป็นกำลังใจค่ะ 

เย้...ไก่บินสูงได้แล้วครับ..เอาใจช่วยครับผม งานยิ่งยากยิ่งได้เรียนรู้..โถๆๆพี่เมตตาครับ..งานยากแค่ไหนถ้าใจเราสู้..ก็เป็นหมู..ให้เราเชือดทั้งนั้นแหละ..ครับ..
คุณทวีวัตร ขอบคุณค่ะที่มาให้กำลังใจเป็นคนแรก..ภารกิจขององค์กรหลายๆ คนช่วยกันทำอย่างตั้งใจ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นสถาบันการศึกษาที่ตั้งโดยภาษีประชาชน โดยความตั้งใจและปณิธานจะต้องไปให้ถึงการเป็นแหล่งความรู้ของภาคใต้ 
อยู่แล้ว...
คุณเพื่อนร่วมทาง  ไก่จะบินได้เหมือนนกมั๊ยเนี่ย....หากจะเป็นได้คงต้องทำตัวให้เบา...กว่านี้...เนอะ..ขอบคุณสำหรับแรงเชียร์ตามอ่านตอนที่ 2 นะคะ
ครูอ้อย และคุณแผ่นดิน....ขอบคุณค่ะเพียงเพราะมนุษย์มิได้เกิดมาเพื่อจำยอมต่ออุปสรรค เท่านี้ก็มีแรงอีกมากค่ะ
คุณMitochondria คะ...ปกติที่ผมค่อนข้างคุ้นเคย จะเห็นแต่การกำหนดวิสัยทัศน์ การทำ SWOT analysis เพื่อประเมินจุดอ่อนจุดแข็ง โอกาส และภัยคุกคาม และมาฝันร่วมกัน ว่าต่อไปจะกำหนดนโยบาย หรือ objective อย่างไรบ้าง เมื่อได้ objective แล้วค่อยมากำหนดแผนงาน ดูว่าจะมี action plan อะไรบ้าง
กระบวนการนั้นเป็นการทำในกลุ่มผู้บริหารระดับสูง....แจกงานกันไปหลายหน่วยหลายกอง ตั้งแต่รองอธิการบดีฝ่ายต่างๆ จนไปถึงกอง...คณะที่รับผิดชอบ
งานพัฒนาบุคลากร มาทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมผลการดำเนินงาน....ของคนโน้นคนนี้....นำมาโยงให้เห็นภาพรวมของทั้งมหาวิทยาลัยที่ว่ายากคือ....ผิดจากธรรมชาติเดิมที่ทำและรู้แต่งานของตน..ในพื้นที่รับผิดชอบ....แต่มาครานี้ถูกออกแบบให้ตามงานจากคนอื่นมารายงานในที่ประชุมใหญ่ เชิญผู้รับผิดชอบอื่นๆ มาแถลงมาเล่า...งาน...ให้กรรมการฟัง...มันเหมือนเป็นศูนย์กลางอะไรสักอย่างที่ 100 % เราทำเพียง 7 % แต่ต้องเอาผลงานอีก 93 % มาให้เห็นเป็นภาพด้วย
       ขอบคุณค่ะ....คุณเมตตาจะหาเรื่อง BSC มานั่งอ่านทำความเข้าใจค่ะ... และจะเป็นประเด็นที่เราจะคุยแลกเปลี่ยนกันต่อไปค่ะ

ไม่ขึ้นที่สูงจะรู้ได้อย่างไรว่า

ท้องฟ้า ปุยเมฆ สวยงามอย่างไร

ไม่ลงลึกในหุบเขา จะรู้ได้อย่างไรว่า

ใต้พื้นแผ่นดินชุ่มชื่นอย่างไร

ไม่ต่อสู้อุปสรรค จะรู้ได้อย่างไรว่า

ความสำเร็จเป็นเช่นไร

ความสำเร็จ เกิดจากความเข็มแข็ง

เกิดจากการเรียนรู้

และการต่อสู้อย่างถึงที่สุด

นำภาพพระอาทิตย์เช้านี้ (ตื่นไปตักบาตร)  มาฝากเป็นกำลังใจค่ะ

คุณใบบุญ คะ...ดีใจค่ะที่เจอพี่ที่บันทึกนี้ ขอบคุณนะคะคำแนะนำที่มีประโยชน์ จะลองทำตาม 4 ข้อที่พี่แนะนำค่ะ แล้วจะเอาผลมารายงานให้ทราบ....จะบอกความลับให้ว่า....(งาน KM ที่หนูทำไม่ได้ถูกนับเป็น KPI หรอกค่ะ...เป็นงานฝาก) ส่วน KPI ที่นับได้คืองานพัฒนาบุคลากรค่ะ.... ระยะหลังเพื่อให้ตัวเองมีความสุขขึ้น จึงมีความคิดดังบันทึกนี้ค่ะ

คุณภูคาคะจริงดั่งว่าค่ะ...มีใจซะอย่างทุกอย่างสำเร็จ...แต่...หากมีแต่ "ใจ"......อาจเป็นหมูถูกเชือดได้ค่ะ
คุณsomporn... เลือดนักสู้มิเหือดแห้ง...เจือจางบ้างเข้มข้นบ้างตามสิ่งกระทบค่ะ..คงต้องฝึกอีกนานอยู่...ขอบคุณค่ะ
งานอย่างนี้ต้องใช้ mind map เข้าช่วยท่าจะดีนะค่ะ เช่น ดูวัตถุประสงค์ เป้าหมาย ของโครงการแต่ละชิ้น แล้วเชื่อมโยงและจัดกลุ่มค่ะ หรือจะใช้เทคนิค cardsorting มาประยุกต์ก็ได้ค่ะ ที่ สคส. ใช้เป็นเทคนิคเวลาทำ km workshop ค่ะ
ดร.แจน...งานนี้พี่ก็ใช้ mind manager ในการนำเสนอค่ะจะเขียนในตอนถัดไปว่า ลงมือทำมันอย่างไร..ตามอ่านนะคะ ขอบคุณค่ะ
เยี่ยมค่ะ ใช้บล็อกได้เนียนในงานอย่างยอดเยี่ยมค่ะพี่จิ๊บ :)
วิไลพรรณ ลีลามานิตย์
อ่านแล้ว อดไม่ได้ที่จะขอร่วมแสดงความเห็น - ก่อนอื่น ขอเอาใจช่วยคุณเมตตาให้ทำงานยากชิ้นนี้สำเร็จค่ะ ชื่นชมความตั้งใจที่จะ ทำงานให้ได้ตามที่ได้รับมอบหมาย - งานพัฒนาบุคลากร สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ มีบุคลากร 8,000 กว่าคน ยากเหลือเกินที่เห็นภาพทั้งหมด เดิมรู้สึกว่า มหาวิทยาลัยใช้นโยบาย คณะไหนคณะนั้นทำกันเอง เมื่อต้องมองให้เห็นภาพรวมทั้งมหาวิทยาลัย จึงเข้าใจว่า ยากกกก จริง ๆ - สำหรับคณะแพทย์ แม้แต่สำนักงานคณบดีก็จัดทำโครงการพัฒนาบุคลากรของเราเอง ด้วย concept ที่ว่า หัวหน้างานมีหน้าที่และควรมีส่วนร่วมในการพัฒนาลูกน้อง ที่น่าสนใจคือ KM เข้ามามีบทบาทสูงมากในวิธีการพัฒนาบุคลากรของสำนักงานคณบดี เครื่องมือ story telling เข้ามาแทนที่การบรรยาย ปัญหาที่พบ ยังเป็นเรื่อง ความสามารถในการฟัง การสรุปประเด็นเพื่อให้ได้ความรู้เผยแพร่ การให้เวลาที่เพียงพอสำหรับการเล่าเรื่อง และ การสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมต่อการสนทนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แต่ถ้าคิดว่า KM เป็นเพียงเครื่องมือ เป้าหมายในการพัฒนาคน คือเพื่อพัฒนาองค์กร การทำโครงการพัฒนางานจะย้อนกลับไปเห็นความสามารถในการพัฒนาบุคลากรขององค์กรด้วยหรือไม่

ถึง พี่เมตตา

เข้ามาติดตามและเป็นกำลังใจให้นะครับ

กัมปนาท (มมส.)

เป็นกำลังใจ สู้ๆ นะคะและเชื่อว่าพี่เมตตาทำได้แน่นอนคะ พี่จำกราฟสถิติกระโดดสูงที่พี่ทวีสินโชว์ให้ดู ในการอบรมคุณเอื้ออำนวยได้ไหมคะ รูปนั้นทำให้เรารู้ว่า "ศักยภาพของเรามีมาก ไม่มีขีดจำกัด เพียงเราเรียนรู้วิธีใหม่ หาจุดที่จะ Click ให้ได้มันก็เสมือนการปรับปรุงกระบวนท่ากระโดดที่ทำให้เราสามารถกระโดดได้สูงขึ้น...สู้ๆ นะคะแล้วจะเอาใจช่วยคะ
สู้ๆ นะค่ะ ...รอดูผลงานค่ะ เพราะมั่นใจว่า คุณเมตตาทำได้ค่ะ......
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท