คลังอัดงบลงทุนอีก 1.3 พันล. ขยับตามสูตรราคากลางใหม่ 3% "เอกชน" เฮรับได้ค่าก่อสร้างเพิ่ม


คลังอัดงบลงทุน
             คลังเร่งชี้แจงหน่วยงานรัฐ กรณี ครม.อนุมัติเพิ่มราคากลางสูงขึ้นกว่าเดิม 3% โดยปรับหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางงานก่อสร้างใหม่ ดีเดย์ 21 มีนาคมนี้ พร้อมกับต้องของบลงทุนด้านคมนาคมเพิ่มอีก 1.3 พันล้าน แต่มีสิทธิ์ขึ้น-ลงได้ตามภาวะเศรษฐกิจ ด้านภาคเอกชนเฮรับ เพราะได้ค่าก่อสร้างสูงขึ้น             นายมนัส แจ่มเวหา รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่าจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่อนุมัติให้ใช้หลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางงานก่อสร้างที่ปรับปรุงใหม่ โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2550 เป็นต้นไปนั้น กรมบัญชีกลางประเมินว่าจากมาตรการดังกล่าว จะส่งผลให้รัฐบาลจะมีรายจ่ายจากงบลงทุนในปี 2550 เพิ่มขึ้นอีก 3.6% ของงบลงทุนด้านคมนาคมทั้งหมดจำนวน 65,776 ล้านบาท หรือประมาณ 1,300 ล้านบาท จากงบลงทุนเดิมทั้งหมดจำนวน 179,514.6 ล้านบาท

             สำหรับงบลงทุนที่เพิ่มขึ้นนั้นกรมบัญชีกลางจะนำมาจากงบกลางที่ในงบประมาณปี 2550 นั้นกำหนดไว้ที่ 11,835 ล้านบาท อย่างไรก็ตามสำหรับโครงการหรืองานก่อสร้างใดที่คำนวณราคากลางตามหลักเกณฑ์เดิม และได้ทำการประกาศราคา สอบราคา หรือประกาศร่างทีโออาร์แล้วก็ให้ใช้ราคาเดิมต่อไป อย่างไรก็ตามเชื่อว่า     ที่ผ่านมาก่อนที่จะมีการประกาศราคากลางใหม่นั้น มีส่วนราชการที่ประกาศทีโออาร์ตามราคากลางรูปแบบเดิมไปแล้วส่วนหนึ่งประมาณ 1 ใน 3 ของงลงทุนทั้งหมด  ดังนั้นตนจึงเชื่อว่ามาตรการดังกล่าวคงที่ไม่มีผลบังคับใช้ย้อนหลังนั้น ไม่น่าจะมีผลกระทบต่องบลงทุนให้เพิ่มจำนวนมากขึ้นนัก "สาเหตุที่ต้องปรับราคากลางขึ้นนั้นเนื่องมาจากเวลานี้ค่าแรง ค่าเครื่องจักรวัสดุและค่าน้ำมัน ซึ่งส่วนใหญ่จะกระทบต่องบลงทุนด้านคมนาคมเท่านั้นสูงขึ้น  ดังนั้น เพื่อความเป็นธรรม กรมบัญชีกลางจึงมีการปรับสูตรการคำนวณราคากลางใหม่สูงกว่าเดิมประมาณ 3% ซึ่งหมายความว่า รัฐต้องจ่ายค่าก่อสร้างสูงขึ้นจากเดิม ภาคเอกชนก็ชอบใจกับมาตรการในครั้งนี้" นายมนัสกล่าว  อย่างไรก็ดี มติ ครม. ได้กำหนดให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมให้แก่ส่วนราชการตามความจำเป็นต่อไป ซึ่งเวลานี้ยังไม่ได้คำนวณตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างแท้จริง  

            ทั้งนี้หลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางงานก่อสร้าง ได้จำแนกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ งานก่อสร้างอาคาร งานก่อสร้างทาง สะพาน และท่อเหลี่ยม และงานก่อสร้างชลประทาน โดยราคากลางจะต้องประกอบไปด้วย 2 ส่วนคือ 1.ค่างานต้นทุน คือ ปริมาณงาน วัสดุ แรงงานคูณด้วยราคาวัสดุก่อสร้าง ค่าขนส่ง ค่าแรงงาน ค่าดำเนินงานและค่าเสื่อม 2.ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานก่อสร้าง หรือ Factor F ได้แก่ ค่าอำนวยการ ดอกเบี้ย กำไรและภาษี คูณด้วยค่างานต้นทุนของแต่ละโครงการ

                                                                             แนวหน้า 17 ก.พ. 50

คำสำคัญ (Tags): #คลัง
หมายเลขบันทึก: 79421เขียนเมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2007 11:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:28 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท