เพราะเชื่อว่า “วันพรุ่งนี้ยังมีอยู่” ... นี่คือบทสนทนาหลัก ๆ ที่ผมเอ่ยกับนิสิตกลุ่มหนึ่งในวันนี้ ผมและพวกเขาปลีกวิเวกไปคุยกันในสถานที่แห่งหนึ่งอันไกลโพ้นจากมหาวิทยาลัย เราพูดคุยสรุปผลการก้าวเดินด้านการจัดกิจกรรมขององค์กรนิสิตในรอบปีที่ผ่านมา โดยน้องนิสิตส่วนใหญ่สะท้อนปัญหาเรื่องต่าง ๆ นานาประการ รวมถึงความสิ้นหวัง สิ้นพลังในการขับเคลื่อนกิจกรรม
เป็นธรรมดาเมื่อเดินทางไปนอกสถานที่ผมมักจะสะพายย่ามเสมอ และในย่ามนั้นก็จะมีสมุดบันทึก ปากกา หนังสืออ่านเล่น รวมถึงหนังสือทำมืออยู่ในนั้นด้วย
ผมอ่านบทกวีที่เคยได้ร่วมกับเพื่อนเขียนไว้เอยังหนุ่มแน่น และจัดพิมพ์ไว้ในหนังสือทำมือชื่อหวานเล่มหนึ่ง คือ "ห้วงยามแห่งความรัก" โดยอ่านให้พวกเขาฟัง เผื่อว่าจะเป็นเสมือนกำลังใจที่ส่งถึงพวกเขา .. ให้พวกเขามีความสุขที่จะพักเหนื่อย และมีความสุขที่จะลุกขึ้นมาก้าวเดินไปข้างหน้าอีกครั้ง
ทั้งที่ชีวิตต้องลุกขึ้นเดิน
เพื่อเผชิญกับปัญหา
หลายครั้งอ่อนล้า
แต่ยังต้องฟันฝ่าก้าวไป
เพราะชีวิตต้องยืนหยัด
เพื่อร้อยรัดฝันยิ่งใหญ่
ทางข้างหน้าที่แสนไกล
ยังต้องทุ่มใจก้าวเดิน
ทั้งที่ชีวิตมีอุปสรรค
ก็ยังรักการสู้เผชิญ
เพราะกำลังใจที่ไม่ห่างเหิน
ทุกสิ่งจึงไม่เกิน “พยายาม”
การเพาะปัญญามนุษย์นั้นให้เริ่มต้นที่โคลงกลอน
เพิ่มความสมบูรณ์ของชีวิตด้วยดนตรี
สร้างความมั่นคงของชีวิตด้วยพิธีกรรม
ที่อาจารย์แผ่นดินเพียรกระทำมา ถูกต้องแล้วครับ+++
อ. paew |
การเพาะปัญญามนุษย์นั้นให้เริ่มต้นที่โคลงกลอน
เพิ่มความสมบูรณ์ของชีวิตด้วยดนตรี
สร้างความมั่นคงของชีวิตด้วยพิธีกรรม
เป็นวรรคทองที่ผมต้องท่องจำให้ขึ้นใจ
ขอบคุณครับ