สวัสดีค่ะ อ.อ้อม
หนูจำไม่ได้ค่ะว่าเคยใช้ประโยคเหล่านี้ไหม แต่ถ้าเป็นประโยคที่ใกล้เคียงกันกับแบบนี้ น่าจะเคยใช้ สำหรับข้อ 6 ก่อนจะพูดประโยคนี้มันก็ต้องมีเรื่องราวหรือเหตุการณ์ที่บ่งบอกได้ว่าเราน่าจะพูดคล้ายกับประโยคนี้ อย่างเช่น เราไปงานๆ หนึ่ง แล้วก็มีเพื่อนเก่าไปด้วย แล้วก็ไปพบเพื่อนใหม่ มันก็ต้องมีการแนะนำกันนิดหน่อย แต่เราควรจะแนะนำเพื่อนโดยใช้ชื่อแทนไปเลยดีกว่าไหมค่ะ เช่น John/Joy is my friend. หรือ This is John/Joy. He/she is my friend.
แต่หนูขอตอบข้อ ก. ค่ะ
ปล. ภาษาคือการสื่อสาร ถ้าพูดผิด (ก็ไม่ได้อยากจะพูดผิด แต่ความรู้ยังน้อยอยู่...ก็เรียนรู้จากสิ่งที่ผิด แก้ไข ปรับปรุงไปเรื่อยๆ) แต่ถ้ายังพอมีคนเข้าใจ ความหมายของเรา ก็น่าจะอภัยให้กันได้ค่ะ
เฉลยเจ้าค่ะ
หัวเรื่องบอกว่า Redundancy in Language. การใช้ประโยคเหล่านี้ ดูเผินๆ อาจจะไม่ผิด แต่มันเป็นลัก๋ษณะการใช้ภาษาของ non-native speakers ที่ภาษาแม่มีอิทธิพลต่อการใช้ภาษาต่างประเทศ มาดูเป็นข้อๆ ไป
1. Vegetables are cheaper here. อะไรที่มากกว่าจะเติม More ไว้ก่อน เป็นลักษณะจากภาษาไทยที่ว่า ผัก ถูก กว่า ที่นี่(ที่ตลาด) เขา แก่ กว่า ฉัน ภาษาไทยไม่มีการเปลี่ยนรูปคำเพื่อบอกความหมายในระดับขั้นกว่าหรือขั้นสุด (comparative and superlative) นักเรียนไทยจึงไม่คุ้นเคยกับการเปลี่ยนรูปคำ แต่นิยมเติมคำลงไป
2. I like blue color.
What does blue mean? If it means "สีฟ้า หรือน้ำเงิน", why do we need "color". มีคนแย้งว่า blue ในความหมายนี้แปลว่า ความเศร้า
แต่อย่างไรก็ตาม ประโยคมันไม่สื่อความถ้าแปลอย่างนั้น
I like to sing Bird Thongchai's songs.
บอกไปเลยว่าชอบร้องเพลงแบบไหน
ดูดีกว่าเยอะ...
I read the physics text on chapter 4.
ข้อนี้ให้ดูน้องแววตอบข้างบน
นี่สิสมเป็นลูกศิษย์ อ.คริส
ขอบคุณน้องแววนะจ๊ะที่ช่วยอ่านช่วยตอบ
ผมอยากพูดภาษาอังกฤษได้ในสามเดือน เพื่อทำงานร่วมกันกับเจ้านาย อยากให้อาจารย์แนะนำให้ด้วยครับว่าต้องทำอย่างไร
พูดภาษาอังกฤษให้ได้ภายในสามเดือน มีทางเดียวคือต้องพูดกับฝรั่งหรือใครก็ได้ที่สามารถโต้ตอบภาษาอังกฤษกับเราได้ทุกวัน ห้ามพูดภาษาไทยโดยไม่จำเป็น ที่ว่ามานี้เรื่องจริงเพราะนักเรียนต่างชาติที่มานิวซีแลนด์แล้วไปอยู่กับครอบครัวชาวนิวซีแลนด์ พูดภาษาอังกฤษตลอดเวลาไม่พูดภาษาแม่เลย ก็พูดพอได้ภายในสามเดือน คุณอยู่เมืองไทยหากไม่บังคับตนเองให้อยู่ในสถานการณ์คล้ายๆ อย่างนี้ ซึ่งหายากมากก็คงต้องฝึกวันละนิดไปเรื่อยๆ ดิฉันเองฝึกมา 20 กว่าปีแล้วค่ะ ตั้งแต่ม.ต้น ยังไม่ค่อยดีจนป่านนี้ ก็คงต้องฝึกกันต่อไป
ขอบคุณครับ รบกวนอาจารย์แนะนำอีกนิดครับว่า
ผมอยู่ที่พิษณุโลกจะทำอย่างไรให้สร้างสภาพแวดล้อมการพูด(กับฝรั่ง)ได้ทุกๆวันยกเว้นการจ้างอาจารย์มาสอนครับ
เอาง่ายๆ อาจจะสร้างข้อตกลงว่าที่ทำงานเราพักเที่ยงต้องพูดภาษาอังกฤษนะ ใครพูดไทยโดนปรับ พูดถูกผิดช่างมันไม่ต้องอาย แล้วเพื่มชั่วโมงหรือเป็นวันเลยก็ได้ หรือคุยกันเรื่องความรู้ภาษาภาษาอังกฤษใหม่ที่ไปได้ยินมา แบบนี้ไม่ได้ลงทุนก็ฝึกภาษาอังกฤษได้ค่ะ ว่าแต่ต้องสามัคคีกันหน่อย
ขอบคุณครับ ได้ผลอย่างไรจะนำมาแจ้งครับ
สวัสดีค่ะ อาจารย์อ้อม (ขออนุญาตเรียกอาจารย์เหมือนกระทู้ด้านบนนะคะ) กำลังสนใจศึกษาความซ้ำซ้อนในภาษาไทยพอดีเลยค่ะ แล้วเข้ามาเห็น ข้อความที่อาจารย์เขียนไว้ แล้วสนใจค่ะ เข้ามาอ่านเพื่อหาความรู้ได้มากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ