เมื่อคืนดู ฅนค้นคน ที่เป็นเรื่องของคุณตาลอบ คนเชียงคาน ผู้ชายสูงอายุที่เฝ้าปรนนิบัติคุณยายภรรยาที่ป่วยเป็นอัมพาตมาหลายปี..อย่างสม่ำเสมอ เพราะคำมั่นสัญญาก่อนแต่งงานว่า จะดูแลจนกว่าจะตาย แล้วตื้นตัน จนอดไม่ได้ที่จะต้องเขียนถึง.. ความรัก..ที่ย่ิงใหญ่ ของคนธรรมดาคนนี้
น้ำตาซึมก่อนนอนเลยครับ ตรงประโยคสุดท้ายของคุณตา ที่ทางรายการทิ้งท้ายเอาไว้ให้ติดตามตอนสอง อาทิตย์หน้า คุณตาพูดว่า
ทั้งหมดที่ทำนั้น ..สุดใจ..สุดหัวใจ
สั้น..แต่ทรงพลังเหลือเกิน
ผมคิดว่า มันได้ก่อให้เกิดกระแสพลังแห่งความรักอันบริสุทธิ์ แพร่กระจายไปทั่วได้อย่างมหัศจรรย์
คำพูดนั้นทำให้ผมแทบนอนไม่หลับ คิดถึงตัวเองว่า เราเคยรักใคร สุดใจ สุดหัวใจ..จริงๆอย่างคุณตาหรือเปล่า ความรักที่แสดงออกด้วยการกระทำอย่างสม่าเสมอ ไม่ใช่แค่ลมปากที่พูดให้ดูดี
แล้วผมก็ได้คำตอบว่า ตัวเองไม่น่าจะเคย..รัก..ใครได้ขนาดนั้นเพราะไม่เคยมีครอบครัว ไม่เคยมีลูก ไม่เคยได้สัมผัสความรักผู้อื่นก่อนตนเองอย่างแท้จริงแบบผู้เป็นพ่อเป็นแม่คน หรือแบบคู่ชีวิตอย่างคุณตา แต่ผมได้สัมผัส..รัก..แบบนี้ จากคุณพ่อคุณแม่มาตลอดจนถึงทุกวันนี้
อยากชวนให้ดูรายการนี้ภาคสอง อังคารหน้าทางช่องเก้านะครับ แล้วจะทำให้รู้สึกว่า ละครหลังข่าวนั้น ธรรมดาไปเลย
คุณหมอค่ะ
หนูพลาด อดดู เพราะลืมนะค่ะ ตั้งใจจะดูแล้ว แต่ดันลืมซะงั้น อาทิตย์หน้าไม่พลาดค่ะ
วันนี้ไปโรงพยาบาลสงขลานครินทร์มาด้วยค่ะ คิดว่าอาจจะเจอสมาชิกใน gotoknow อย่างบังเอิญ แต่ก็ไม่เจอใครเลย ตอนบ่ายเลยแวะไปหาอาจารย์จันทวรรณ มาค่ะ
ขอบคุณครับ คุณจินตนา
ดอกไม้สวยจัง
ใช่เลยค่ะคุณหมอ ^__* ซึ้งจนตาแฉะอ่ะค่ะ
น้องมะปรางเปรี้ยว ครับ
คุณหนิง ครับ
วันนี้ก็แวะจะไปตรวจหูละค่ะ แต่เปลี่ยนใจไปตอนเย็นแทน ไปหาคุณหมอวันดี ที่คลีนิคค่ะ
วันเสาร์นี้ต้องไปอีกค่ะ ตัดไหมแล้ว
ถ้าหายดี คุณหมอจะเลี้ยง iberry ใช่ไหมค่ะ (รอกินของฟรี.... ล้อเล่นค่ะ)
ได้ยินเรื่องนี้ (คือไม่ได้ดูนั่นเอง) นึกถึงสิ่งที่พึ่งได้อ่านวันนี้เอง เป็นบทความถอดเทปสนทนาที่อาจารย์เจิมศักดิ์เป็น moderator และผู้สนทนาก็มีพระไพศาล อ.สุลักษณ์ อ.นิธิ และหมอพรทิพย์ สนทนากันเรื่อง "ความตาย" เปรียบเทียบกันระหว่าง "ยุคเก่า" กับ "ยุคใหม่"
ว่ากันว่าคนยุคเก่าๆนั้น อยู่ใกล้ชิดความป่วย แก่ เจ็บ ตาย มากกว่าเดี๋ยวนี้เยอะ เลยสามารถ "เข้าใจ" อะไรๆได้ดีกว่ายุคใหม่ พอเข้าใจแล้วจึงเกิด ปัญญา
ตัวคุณลุงเองคงไม่ได้ตั้งใจจะเรียก หรือคิดว่าเป็นปัญยง ปัญญาอะไร แต่ด้วยความเรียบง่าย และคิดว่าขณะนี้ "ควร" จะทำอะไรดี ก้ "แค่ทำ" แค่นั้นเอง แต่ทำไมเราถึงได้สะเทือนใจมาก? เพราะมันช่างธรรมดา commonsense และพวกเรามีต่อมรับเรื่องเหล่านี้อยู่แล้วทุกคน เพียงแต่สังคมปัจจุบันพยายามทำทุกวิถีทางที่จะ "หลีกเลี่ยงสัจธรรม" ไปเรื่อยๆ ยิ่งห่าง ยิ่งแปลกประหลาด ความแปลกหรือไม่เข้าใจคืออวิชชา ความไม่รู้เปลี่ยนเป็นความกลัว
ผมไม่ค่อย "กล้า" ดูหนังแบบนี้บ่อยๆ เพราะมันสะเทือนใจ มาเอะใจว่าทำไมเราจึง "ไม่อยากสะเทือนใจ" หนอ? เพราะเราเอาตัวเราไป experiencing นั่นเอง และกำลังสัมผัสกับสุนทรีย์ของอารมณ์มนุษย์ (ที่ถูกออกแบบมาอย่างดีให้ "รู้สึก") อนิจจา เรากลับ ไม่ชอบ มันเสียอย่างนั้น คิดว่าถ้าดูบ่อยๆขึ้น เราอาจจะลด sympathy ลงมาเหลือ empathy ได้ เราจะได้ยังอยู่ใน "หนทาง" ไปสู่ "อุเบกขา" ได้
สวัสดีค่ะ คุณหมอเต็มศักดิ์
เสียดายจังที่ไม่ได้ดู ไว้อังคารหน้าจะไม่พลาดเด็ดขาด ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆ ที่นำมาแนะนำค่ะ
อยากให้หนุ่มสาวรุ่นใหม่ ได้มีโอกาสดูด้วยจัง จะได้ซึมซับว่า คำว่ารัก นั้นมีค่า และยิ่งใหญ่เสมอ วัตถุหรือคำพูดหวานหูใด ๆ ไม่สำคัญไปว่า การกระทำ และความรู้สึกดี ๆ ที่คอยห่วงใยกันเสมอมา
ครับ
ครับ
ครับ
คุณหมอเต็มศักดิ์ค่ะ
น้องมะปรางเปรี้ยวครับ
เสียใจด้วยนะครับ วันเสาร์นั้น ผมมีนัดนอนผึ่งพุงกับเพื่อนโต๊ะกายวิภาค ที่ ี่ี่เกาะลันตา ครับ
ได้ดูตอนสองของตาลอบกับยายทองหรือเปล่า
ได้คำเด็ดมาอีกคำครับ เต็มหัวใจ
ดูแล้วรู้สึก อิ่ม .เต็ม หลับสบายเลย
คุณหมอเต็มศักดิ์ ไปเที่ยวเกาะลันตา แล้วหนูก็อดเจอตัวแล้วล่ะสิค่ะ เสียดายจังค่ะ
หนูได้ดูตาลอบกับยายทองค่ะ ต้องบอกว่าซึ้งใจในความรักของคุณตา มาก ๆ ค่ะ
ปล.แวะมาตอบช้าไปนิดนึงค่ะ