หน้าแรก
สมาชิก
กาญจนา
สมุด
มารายงานตัว
a-kanjana
กาญจนา
นางสาว กาญจนา พัชรวาสนันท์
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
a-kanjana
อยากให้อ่าน????
อยากให้อ่านปาฐกถาพิเศษ
“
การจัดการความรู้
:
กระบวนการปลดปล่อย มนุษย์ สู่ศักยภาพ เสรีภาพ และความสุข
”
(นำมาบางส่วน)
โดย ศ.นพ.ประเวศ
วะสี
กระบวนการจัดการความรู้ที่ได้เห็นอยู่ในขณะนี้ เป็น
การปฎิวัติเงียบ
ความรุนแรง การใช้ความรุนแรงบ่อยๆครั้ง หรือเกือบทั้งหมดไม่ใช่การปฎิวัติความรุนแรง แต่การปฏิวัตินั้นต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ เปลี่ยนคุณค่าใหม่ ซึ่งสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นของการจัดการความรู้ เห็นได้อย่างชัดเจนว่าได้มีการนำไปสู่ความคิดใหม่ การเปลี่ยนคุณค่าใหม่ๆ ที่สำคัญนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างลึกซึ้ง(
tranformation
) ซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงขององค์กรและสังคม เราได้เห็นแล้วว่ากระบวนการใช้กฎหมายต่างไม่นำไปสู่
transformation
เพราะขาดการเปลี่ยนแปลงอย่างละเอียดลึกซึ่งเป็นเพียงกลไกลที่นำไปสู่กลโกง ไปสู่อะไรต่างๆ ต่างปัจจุบันตามที่ท่านเห็นการจัดการความรู้เข้าไปสู่การผลักจิตสำนึกนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงตนเองอย่าลึกซึ้ง นำไปสู่การปลดปล่อย นำไปสู่การมีเมล็ดพันธุ์แห่งความดี
คุณธรรมและศีลธรรม 8 ประการ
เราเคารพ
ความรู้ในตัวคน
ทุกคนมีเกียรติและศักดิ์ศรี แต่
การจัดการความรู้
ช่วยไปเสริมกระบวนการธรรมชาติ
ให้มีการเรียนรู้มีการแลกเปลี่ยน มีการงอกงามไปตามธรรมชาติ
,
มีการหยั่งลึก มีการฟังอย่างลึกซึ้ง ซึ่งจะทำให้เรารู้ความหมายภายในของคนคนนั้น แต่ถ้าเป็นการฟังแบบตื้นๆ จะเป็นการรู้แบบ
“
รู้เปรี้ยง ทำเปรี้ยง
”
อย่างที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันในสังคม
เป็นอารมณ์ เป็นเหยื่อของกิเลสเข้ามาก็ดี
ซึ่งคนเยอรมัน
ได้สร้างทฤษฎีตัวยู
คือ การได้รับรู้อะไรมาอย่าเพิ่งตัดสิน ให้แขวนความรู้นั้นไว้ก่อน และนำมาพินิจพิจารณา
สงบและมีสติ แล้วก็จะเกิดปัญญา
เมื่อเราเกิดปัญญาแล้วจะสามารถเชื่อมโยง อดีต ปัจจุบัน อนาคต ทำให้เห็นอนาคตและกลับไปพิจารณาอดีตปัจจุบันด้วยกระบวนการทางปัญญา
ซึ่งพระพุทธเจ้าบอกไว้ว่า ใครพูดอะไรอย่าเพิ่งรับ อย่าเพิ่งปฏิเสธ ให้แขวนไว้ก่อน
หรือ พิจารณาอย่างลึกซึ้ง
มีสติก็จะทำให้ปัญญาเกิดขึ้น
ซึ่งเป็นวิธีการทางบวกที่เรามองความสำเร็จ ทำให้เกิดพลังเพิ่มขึ้น และ
ไม่เริ่มต้นจากความทุกข์
เมื่อเราพูดว่าทุกข์มากความทุกข์ก็จะท่วม แล้วเกิดการทะเลาะกัน
,
เจริญธรรมมะ 4 ประการ คือการเรียนรู้ร่วมกันที่เรียกว่า
interactive learning
แต่ตามปกติมนุษย์จะไม่เรียนรู้ร่วมกัน มีการเกลียดกันบ้าง
ดังนั้นการที่จะเรียนรู้ร่วมกัน ต้องมีความเอื้ออาทรต่อกัน เปิดเผยต่อกัน
มีความจริงใจต่อกันและ มีความไว้วางใจกันได้ ซึ่งจะมีความสุขมโหฬาร ซึ่ง
การเรียนรู้ร่วมกันในการปฏิบัติ ถือเป็นหัวใจของการจัดการความรู้
,
ถักทอไปสู่โครงสร้างใหม่ขององค์กรและสังคม มีทั้งแบบใช้อำนาจและแบบตัวใครตัวมัน แต่การจัดการความรู้ทำให้เกิดการสร้างเครือข่ายระหว่างคนกับคน คนกับกลุ่มคน กลุ่มคนกับกลุ่มคน ซึ่งจะทำให้เกิดโครงสร้างใหม่ขึ้น ในองค์กรและสังคม
,
การเจริญสติในการกระทำหรือการรู้ตัว การทำอะไร และฟังอย่างเงียบนิ่ง จะเป็นการเจริญสติ เมื่อเข้าใจละปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง จะทำให้เป็นการเจริญสติ ซึ่งพระพุทธเจ้า เรียกว่า
เอกะมรรคโค
เขียนใน
GotoKnow
โดย
กาญจนา
ใน
มารายงานตัว
คำสำคัญ (Tags):
#สม.4
หมายเลขบันทึก: 78362
เขียนเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2007 00:02 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:24 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
กาญจนา
สมุด
มารายงานตัว
a-kanjana
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท