จริยธรรมกับการใช้ ICT


ก่อนหน้าที่จะไปฟังงานสัมมนานี้ เราก็แค่ได้ฟังข่าวไม่เคยเข้าไปดูเองจริงๆซักที แต่หลังจากกลับมาจากงานสัมมนานี้ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นก็เลยต้องมาลองใช้ดูเองซะหน่อย ว่าแล้วเราก็เลยไปจัดการดาวน์โหลดโปรแกรมมาอย่างรวดเร็วแล้วก็จัดการสมัครสมาชิก เข้าไปลองใช้งานดูเองจริงๆซะเลย

              เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม พ..2550 ได้มีโอกาสไปเข้าร่วมงานในหัวข้อ การเสวนาเชิงวิชาการเรื่องจริยธรรมของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  เรื่อง “Camfrog ตัวอย่างที่กำลังบ่งชี้ว่าสังคมไทยตกต่ำทางศีลธรรมถึงขีดสุด กับทางแก้และหาทางออก  .ห้องประชุม 1 มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ

               ก่อนอื่นอยากจะขอแนะนำก่อน เผื่อว่าคนที่เข้ามาอ่านบางคนอาจจะไม่รู้จัก Camfrog มาก่อนว่ามันคืออะไร

               แคมฟรอก (Camfrog)                 แคมฟรอก (Camfrog) เป็นซอฟต์แวร์ของบริษัทแคมแชร์ (Camshare) สามารถให้ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนภาพจากเว็บแคมและเสียงผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยโปรแกรมนี้สามารถใช้ให้มีการประชุมออนไลน์ได้หลายคนพร้อมกัน แคมฟรอกแตกต่างจากโปรแกรมทั่วไปโดยผู้ใช้สามารถใช้โปรแกรมบนเซิร์ฟเวอร์ของตัวเองได้ ในปัจจุบัน แคมฟรอกมีการพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิด และการแสดงวีดีโอ หลายอย่างรวมถึงเรื่อง การท่องเที่ยว กีฬา ภาษา วัฒนธรรม เล่นเกมตอบปัญหาออนไลน์ แม้แต่เรื่องทางเพศ หรือการร่วมเพศออนไลน์ ในแคมฟรอก 

                แคมฟรอกมีการใช้งานแบ่งออกเป็นห้องโดยแต่ละห้องจะแบ่งออกตามหัวข้อในการสนทนา เช่นห้องสำหรับพูดคุยภาษาอังกฤษ ภาษาอิตาลี ภาษาเยอรมัน สำหรับฝึกภาษา ซึ่งรวมไปถึงภาษามือสำหรับคนพิการที่มีการเปิดไว้ให้คนพิการได้มีโอกาสคุยกันออนไลน์หลายห้อง นอกจากนี้ยังมีห้องสำหรับพูดคุยเรื่องเพลง หรือเล่าเรื่องผี อย่างไรก็ตามการใช้งานส่วนใหญ่ในแคมฟรอกเป็นการใช้งานสำหรับชมและแสดงลามกทางอินเทอร์เน็ต ในประเทศไทย คนไทยเป็นกลุ่มผู้ใช้บริการโปรแกรมแคมฟรอกมากเป็นอันดับที่ 3 ของโลก

               ซึ่งจากการใช้งานที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์สูงในประเทศไทย ได้มีข่าวออกมาว่าทางกระทรวงไอซีทีพยายามห้ามการใช้งานแคมฟรอกในประเทศไทยซึ่งสามารถก่อให้เกิดปัญหาการขายตัวสำหรับเยาวชน    

              ซอฟต์แวร์ของแคมฟรอกแบ่งออกเป็นสองส่วนหลักคือซอฟต์แวร์ สำหรับการติดตั้งแคมฟรอกลงบนเซิร์ฟเวอร์ของตนเอง และซอฟต์แวร์ของไคลเอนต์ที่ใช้สำหรับเชื่อมต่อดูภาพผ่านทางเซิร์ฟเวอร์นั้น นอกจากนี้ทางแคมฟรอกยังมีซอฟต์แวร์อื่นได้

                 แคมฟรอกไคลเอนต์  แคมฟรอกไคลเอนต์เป็นซอฟต์แวร์ที่ให้ผู้ใช้ทั่วไปเชื่อมต่อเข้ากับผู้ใช้อื่นผ่านทางเซิร์ฟเวอร์ โดยผู้ใช้เมื่อดาวน์โหลดและลงทะเบียนการใช้งานสามารถใช้งานได้ทันที โดยการเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการเข้าชม โดยสามารถให้ผู้ใช้เชื่อมต่อผ่านทางเว็บแคมสำหรับแสดงผลหรือเข้าชมได้ และสามารถทำงานผ่านไฟร์วอลล์ หรือเราเตอร์ได้ แคมฟรอกไคลเอนต์แบ่งออกเป็นสองรุ่น โดยรุ่นที่ใช้งานได้ฟรีและรุ่นที่ที่ต้องเสียเงินใช้ ซึ่งมีความสามารถพิเศษเพิ่มเข้ามา เช่นสามารถดูวิดีโอขนาดใหญ่ หรือดูวิดีโอหลายหน้าจอพร้อมกันได้                  

                 แคมฟรอกเซิร์ฟเวอร์  แคมฟรอกเซิร์ฟเวอร์เป็นซอฟต์แวร์ให้ผู้ใช้ติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ของตนเองให้ผู้ใช้คนอื่นได้เข้ามาใช้งาน โดยผู้ติดตั้งสามารถเป็นผู้ควบคุมระบบของเซิร์ฟเวอร์นั้น เช่น จำกัดผู้ใช้งาน ระบุจำนวนผู้ใช้งานได้ แคมฟรอกเซิร์ฟเวอร์แบ่งออกเป็นสองรุ่นคือ รุ่นฟรีและรุ่นที่ต้องเสียเงิน                  

                 แคมฟรอกเว็บ  แคมฟรอกเว็บเป็นโปรแกรมติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์ให้ผู้ใช้สามารถประชุมออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ได้ โดยผู้ใช้งานสามารถใช้งานผ่านทางเว็บไซต์โดยตรงแตกต่างกับรุ่นแคมฟรอกเซิร์ฟเวอร์ที่ผู้ใช้จำเป็นต้องใช้งานผ่านทางซอฟต์แวร์ไคลเอนต์                  

                  แคมฟรอกทูลบาร์          แคมฟรอกทูลบาร์เป็นโปรแกรมเสริมสำหรับติดตั้งบนเว็บเบราว์เซอร์ สำหรับค้นหารายชื่อเซิร์ฟเวอร์หรือค้นหาผู้ใช้งานที่ออนไลน์อยู่ สำหรับติดตั้งกับไฟร์ฟอกซ์และอินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์

                 โปรแกรม Camfrog ที่เป็นข่าวดังในช่วงนี้ ไม่ว่าหนังสือพิมพ์ฉบับใด ทีวีหลายช่องได้ทำข่าวไปแล้ว ว่ามีการกระทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมขึ้นในการใช้งานโปรแกรมนี้ พฤติกรรมเช่นว่าก็เช่น  การที่ผู้หญิงออกมาเต้นโป๊โชว์เนื้อหนังมังสาบ้าง   โชว์การรวมเพศบ้าง ซึ่งเป็นการเปิดเผยให้ผู้เล่น Camfrog ในขณะช่วงเวลานั้นได้ดูได้ชม  จากข่าวการจัดอันดับการใช้งานโปรแกรม Camfrogที่ปรากฏพบว่าวัยรุ่นไทยได้ใช้งานโปรแกรม Camfrog เป็นอันดับ 3 ของโลก

              ก่อนหน้าที่จะไปฟังงานสัมมนานี้ เราก็แค่ได้ฟังข่าวไม่เคยเข้าไปดูเองจริงๆซักที  แต่หลังจากกลับมาจากงานสัมมนานี้ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นก็เลยต้องมาลองใช้ดูเองซะหน่อย ว่าแล้วเราก็เลยไปจัดการดาวน์โหลดโปรแกรมมาอย่างรวดเร็วแล้วก็จัดการสมัครสมาชิก เข้าไปลองใช้งานดูเองจริงๆซะเลย  ในตอนแรกเราก็คิดว่าก็เหมือนคนเล่น MSN ที่คอมพิวเตอร์มีเวบแคมแล้วก็มานั่งแชท เปิดกล้องให้คนที่เราแชทด้วยเห็นก็เท่านั้น  แต่พอได้ไปเข้าร่วมฟังงานเสวนา  แล้วก็ได้มาทดลองใช้โปรแกรมนี้เข้าไปดูตามห้องทีได้ฟังมาจากในงานเสวนานี้ก็เลยต้องเปลี่ยนความคิด ความเข้าใจใหม่เสียแล้วแหะ  เพราะว่ามันต่างกับการแชทMSN ที่มีเวบแคมก็ตรงที่  ห้องแชทของแคมฟรอกนี่มันเป็นแบบ public มากๆเลยนะนี่ ใครที่สมัครสมาชิกแล้วลอกอินเข้ามาก็สามารถจะเห็นสมาชิกคนอื่นๆได้หมดเลย (ถ้าเค้ามีกล้องอะนะ) แต่ถ้าเล่นเอมเอสเอนนะ ต่างคนต่างต้องมี e-mail ของกันและกันถึงจะสามารถเห็นกันได้  เพราะฉะนั้นไอ้เจ้าโปรแกรมแคมฟรอกนี่มันเลยทำให้การที่เราลอกอินเข้าไปสามารถเห็นคนอื่นๆได้มากมายโดยที่เราไม่ต้องมี e-mail เค้าเลย  และแล้วก็ได้เห็นเค้าเต้นโชว์กัน  ซักตอนประมาณเที่ยงคืนนี่เต้นแข่งกันใหญ่เลย ที่น่าแปลกใจก็คือคนเหล่านี้มองดูดีๆแล้วก็จัดว่าหน้าตาใช้ได้ อยู่ในเกณฑ์ดีเลยทีเดียวแหล่ะ แต่ทำไมหนอ เค้าถึงอยากมาอวดคนอื่นให้ดูผ่านเจ้ากล้องแวบแคมนี่ด้วยแหะ ไม่รู้เพราะมันทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นดาราหรือป่าวหว่า เค้าถึงได้แข่งกันอวดใหญ่เลย  แต่นอกจากห้องเหล่าชอบโชว์แล้ว  ก็ลองเข้าไปดูห้องอื่นๆอีก มันก็มีห้องที่ทำมาในทางวิชาการด้วยเหมือนกันนะ มีห้องที่สอนสิ่งที่มีสาระก็มีนะ ไม่ได้มีแต่ห้องที่โชว์เท่านั้นหรอก  เพียงแต่จำนวนสมาชิกที่ออนไลน์แล้วเข้ามาใช้งานในห้องเหล่านี้จำนวนมันแตก      ต่างจากสมาชิกที่เข้าใช้งานในห้องที่มักจะเป็นห้องที่มีการโชว์ (น้อยกว่ามากๆ)

               ในงานเสวนาก็พูดถึงปัญหาที่เกิดตามมาของเจ้าโปรแกรมแคมฟรอกนี่ล่ะ  เพราะว่าวัยรุ่นไทยของเราๆนี่ล่ะ  นำโปรแกรมที่จริงๆแล้วน่าจะมีประโยชน์ในทางบวกมากกว่าจะเป็นโปรแกรมที่ก่อให้เกิดปัญหามาใช้ไปในทางลบซะนี่ ปัญหาที่ว่าก็คือปัญหาที่วัยรุ่นไทยเราใช้เจ้าโปรแกรมนี้ในการอวดให้ดูเนื้อตัว เต้นโชว์เนื้อหนังมังสา โชว์เรือนร่าง สัดส่วน  หรือแม้กระทั่งบางคน โชว์การร่วมเพศให้เห็นกันจะๆ  โดยแต่ละวันมีคนเข้ามาใช้โปรแกรมแคมฟรอกนี่จำนวนมากและที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือคนที่ใช้ส่วนใหญ่แล้วจะยังเป็นบุคคลในวัยเด็ก ซึ่งเป็นวัยที่ง่ายต่อการถูกชักจูงได้ง่าย และอาจจะถูกหลอก หรือถูกใช้ไปในทางที่ผิดได้ จึงถือเป็นปัญหาสำคัญในสังคมปัจจุบันที่เป็นโลกของการสื่อสารที่ไร้พรมแดนนี้เป็นอย่างมาก 

               ในการแก้ปัญหาดังกล่าวคงจะต้องใช้ความร่วมมือจากทุกๆฝ่ายไม่ว่าจะจากทางภาครัฐ ภาคเอกชน ตัวบุคคลที่ใช้เทคโนโลยีสื่อสารเหล่านี้ และ ผู้ปกครองที่จะต้องดูแลบุตรหลานตัวเองในการใช้เทคโนโลยีการสื่อสารที่อยู่ในยุคไร้พรมแดนนี้  การสร้างจิตสำนึกต่อตนเองให้กับเด็กเยาวชนตั้งแต่ยังเล็กๆ และให้เด็กรู้ถึงโทษ ถึงปัญหา  ให้เด็กรู้จักเลือกใช้โปรแกรมในทางที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง ก็น่าจะเป็นทางป้องกันที่ดีต่อปัญหาเหล่านี้ได้  ทั้งนี้เพราะโปรแกรมประเภทนี้ ไม่ว่าจะเป็น Camfrog , MSN , ICQ , Yahoo ล้วนแต่เป็นโปรแกรมการสื่อสาร ที่มีทั้งคุณและโทษในการใช้ ข้อดีของโปรแกรมเหล่านี้ก็คือจะช่วยสร้างให้เกิดความรวดเร็วในการสื่อสารมากขึ้น สามารถสือสารได้ทั้งทางสายตา เสียงพูด และมองเห็นหน้ากันได้  ส่วนข้อเสียส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดจากการใช้งานไปในทางที่ไม่ถูกไม่ควร ซึ่งตรงนี้ก็อยู่ที่ตัวของบุคคลแต่ละบุคคลในการที่จะเลือกทำเลือกใช้และเลือกที่จะนำสิ่งนั้นมาก่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง
คำสำคัญ (Tags): #จริยธรรมกับ#it
หมายเลขบันทึก: 78341เขียนเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2007 23:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2012 21:37 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่นำมาเล่าให้อ่านนะคะ  เป็นสมาชิกหน้าใหม่ ขอทำความรู้จักด้วยคนนะคะ

ทำงานอยู่ในแวดวงไอที และอยู่ฝ่ายสารสนเทศ   ขอสารภาพว่า ไม่เคยรู้จักแคมฟรอกมาก่อน จนมาเป็นข่าวแล้วก็เที่ยวค้นหาว่า  ไอ้เจ้านี่มันเป็นยังงัย และเล่นยังงัย

ทุกอย่างมีด้านดีและด้านลบทั้งนั้น  มีดใช้หั่นหมู  ขณะเดียวกัน ก็เอามาเป็นอาวุธฆ่าคนได้

เมื่อไม่กี่วันนี้ เพิ่งทำเวปไซต์ให้กับวัดแห่งหนึ่ง  ด้วยความตั้งใจจะทำบุญ เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์กิจกรรมของวัด

บางคนเข้าใจ บางคนไม่เข้าใจ "

หันกลับมาถามว่า  วัด ต้องมีเวปไซต์ด้วยเหรอ 

เคยฟังข่าวไหม พระเล่นอินเตอร์เน็ต เข้าไปแชทกับผู้หญิง  ซึ่งอาจหมายรวมถึงการเข้าเวปที่ไม่เหมาะสมต่าง ๆ "

จริงๆ แล้วปัญหาไม่ได้อยู่ที่เทคโนโลยี  แต่ปัญหาน่าจะอยู่ที่จริยธรรม วิจารณญาณของผู้ใช้มากกว่า

ด้วยความรู้อันน้อยนิด ของแจมเท่านี้ละกัน

ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ :)

ในความคิดผมนะ Camfrog เป็นเพียงจุดเล็กๆ ในสังคมอินเตอร์เนตนะ ถ้าให้ดีลองดูข้อมูลคีย์เวิร์ด (keyword) ใน search engine ต่างๆดูสิ (เช่น google)  คำที่สื่อไปในทางลามกอนาจาร จะต้องติดอันดับต้นๆ แน่นอน นั่นก็หมายความว่า คนใช้บริการอินเตอร์เนตใช้ search engine เป็นช่องทางในการนำไปสู่ website ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งผมว่าตรงนี้น่ากลัวกว่าอีก เพราะไม่ต้องมีการ download โปรแกรมใดๆ ให้วุ่นวายก็สามารถไปเวปที่ต้องการได้แล้ว

และหากวิเคราะห์ให้ดี Keyword ในการ search หาข้อมูลก็สามารถบ่งบอกอะไรๆ หลายๆ อย่างในสังคมไทยได้นะ ผมว่าน่าจะลองศึกษาดูนะคับ

คุณโยมปานจิตร

เข้ามาอ่าน...(มีตัวอักษรเล็ก อ่านไม่ออก)

มีอาจารย์ที่เคารพท่านหนึ่ง เสนองานวิจัยระดับปริญญาเอกด้านปรัชญา ประเด็นเรื่องจริยธรรมในการใช้ ICT (จำชื่อหัวข้อได้ไม่ชัดเจน) ประมาณ ๔-๕ ก่อน ซึ่งอาตมาก็ติดตามว่าจะอ่านผลงานของท่าน...

เสียดาย ท่านมีปัญหาเรื่องการวิจัย จึงพักเรื่องนี้ไว้..

สังคมเปลี่ยนแปลงเร็วเหลือเกิน รู้สึกว่านักคิดตามไม่ทัน (ทั้งๆ ที่พยายามทำตัวให้ทันสมัยแล้ว)

เจริญพร

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท