เป็นเรื่องที่ได้รับผ่านมาในเมลอีกที ประทับใจไม่ลืมเลือน พอโดนสาวน้อยมหัศจรรย์ tag ความรักมา ก็เลยเก็บมาฝากต่อค่ะ สำหรับตัวเองแล้วทุกวันคือวันแห่งความรักค่ะ รักที่จะมีชีวิตอยู่ทำสิ่งดีๆให้เกิดขึ้น แม้วันละเล็กน้อยก็ยังดีค่ะ ...เรื่องมีอยู่ว่า
ชายคนหนึ่งเคยลงโทษลูกสาววัย 5 ขวบของเขา เพราะนำเงินไปซื้อกระดาษห่อของขวัญสีทองม้วนหนึ่งซึ่งมีราคาแพงในขณะที่การเงินที่บ้านฝืดเคือง
แล้วเค้าก็อารมณ์เสียอีกครั้งเมื่อลูกสาวของเขานำกระดาษสีทองราคาแพงนั้นมาห่อกล่องของขวัญเพียงเพื่อตกแต่งไว้ใต้ต้นคริสต์มาส
หากแต่ว่า...ลูกสาวตัวน้อยก็ได้มอบกล่องของขวัญนั้นให้พ่อของเธอในเช้าวันรุ่งขึ้นและพูดว่า "นี่สำหรับพ่อค่ะ"
พ่อของเธอกระอักกระอ่วนกับอาการที่ได้แสดงออกไปก่อนหน้านี้แต่แล้วความโกรธก็ได้พุ่งพล่านขึ้นอีกครั้งเมื่อเขาพบว่ามันเป็นเพียงกล่องเปล่า
เขาพูดด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราดว่า " ลูกไม่รู้จริงๆอย่างนั้นหรือว่าการจะให้ของขวัญใคร มันจะต้องมีอะไรอยู่ในกล่องของขวัญด้วย?"
เด็กน้อยมองไปที่พ่อของเธอด้วยน้ำตา และพูดว่า "โอ...พ่อจ๋า มันไม่ใช่กล่องเปล่าเลย หนูเป่าจูบเข้าไปจนเต็ม"
ชายคนนั้นสะอึกตัวชาด้วยความเสียใจ
เขาทรุดตัวลงแล้วโอบกอดลูกสาวไว้แน่น เขาขอให้ลูกสาวยกโทษให้กับท่าทางโกรธเกรี้ยวเกินเหตุของเขา
ต่อมาไม่นานอุบัติเหตุก็ได้คร่าชีวิตลูกสาวของชายคนนั้นไป
และว่ากันว่าเขาเก็บกล่องของขวัญสีทองล้ำค่านั้นไว้ข้างเตียงตลอดชีวิตของเขาเลยทีเดียว และเมื่อใดก็ตามที่เขารู้สึกท้อแท้ใจหรือต้องเผชิญกับปัญหาที่ยากเย็นแสนเข็ญ เขาจะเปิดกล่องใบนี้เพื่อหยิบจูบในจินตนาการขึ้นมาหนึ่งจูบแล้วรำลึกถึงความรักของลูกน้อยที่ได้ใส่จูบนั้นไว้ให้เขา
ในความเป็นจริง ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งพวกเราทุกคนล้วนได้รับกล่องของขวัญสีทองซึ่งบรรจุด้วยความรักที่ปราศจากเงื่อนไข และรอยจูบจากลูกๆ, ครอบครัว, เพื่อนและพระเจ้า ไม่มีสมบัติใดล้ำค่าไปกว่านี้อีกแล้ว
นอกจากนั้นช่วงสุดท้ายของเมลที่ได้รับชิ้นนี้ ก็มีข้อเตือนใจที่ขอนำมาบอกต่อเช่นกันค่ะ ไม่ตรงเป๊ะกับที่ได้มา เพื่อให้เหมาะกับการนำมาใส่ในบล็อก ส่งใจไปขอบคุณเจ้าของความคิดทั้งหลายนี้ ที่ไม่ทราบว่าใครค่ะ แต่ท่านคงยินดีให้เผยแพร่เพื่อเป็นข้อเตือนใจกับพวกเราทุกคน
เราควรขอบคุณสำหรับ....
สำหรับสามีที่นอนกรนทั้งคืนเพราะนั่นหมายถึงเขากำลังหลับอยู่ที่บ้านกับเราไม่ใช่กับผู้หญิงอื่น
สำหรับลูกวัยรุ่นที่กำลังบ่นเรื่องล้างจานอยู่ เพราะนั่นหมายถึงเธออยู่บ้าน ไม่ใช่ที่ถนน
สำหรับภาษีที่ต้องเสีย เพราะนั่นหมายถึงเรามีงานทำ
สำหรับข้าวของต่างๆที่ต้องคอยเก็บหลังงานปาร์ตี้ เพราะนั่นหมายถึงเราถูกห้อมล้อมด้วยเพื่อนฝูง
สำหรับเสื้อผ้าที่พอดีจนเกือบจะคับเกินไป เพราะนั่นหมายถึงเรามีกิน
สำหรับเงาที่คอยมองดูเราทำงาน เพราะนั่นหมายถึงเรากำลังได้รับแสงแดด
สำหรับพื้นที่ต้องคอยขัดถูและหน้าต่างที่ต้องทำความสะอาดเพราะนั่นหมายถึงเรามีบ้านอยู่
สำหรับคำบ่นต่างๆที่มีต่อรัฐบาล เพราะนั่นหมายถึงเรามีอิสระในการแสดงความคิดเห็น
สำหรับที่จอดรถที่อยู่ไกลสุดของลานจอดรถ เพราะนั่นหมายถึงเรายังสามารถเดินได้ และเรามีรถอยู่
สำหรับผ้ากองโตที่รอการซักรีด เพราะนั่นหมายถึงเรามีเสื้อผ้าสวมใส่
สำหรับความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าทุกสิ้นวัน เพราะนั่นหมายถึงเรายังสามารถทำงานหนักได้
สำหรับเสียงปลุกในทุกๆเช้า เพราะนั่นหมายถึงเรายังมีชีวิตอยู่แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ ทุกวันคือวันแห่งความรัก ได้อย่างไร จริงไหมคะ
คุณโอ๋ค่ะ
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ ทุกวันเป็นวันแห่งความรักจริง ๆ ด้วยค่ะ
ความรักเป็นสิ่งสวยงามค่ะคุณโอ๋ และทุกวันก็คือวันแห่งความรัก
แวะไปเที่ยวบ้างนะคะ ที่นี่ค่ะhttp://gotoknow.org/blog/sompornpcmu/78272
สวัสดีค่ะ สุขสันต์วันแห่งความรักและทุก ๆ วัน
การมองโลกในแง่ดี ทำให้ชีวีเป็นสุข :)
สวัสดีค่ะ
อ่านเรื่องคุณพ่อกับลูกสาวแล้วน้ำตาจะไหล ตอนแรกนึกว่าจะเป็นเรื่องความของพี่โอ๋ซะอีก แต่พอเจอเรื่องความรักเกี่ยวกับครอบครัวทีไร จะร้องไห้ทุกที ซาบซึ้งค่ะ
^____________________^
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีวันแห่งความรักอีกหนึ่งวันค่ะ
เช้า ๆ ได้อ่านเรื่องราวดี ๆ ความรู้สึกดี ๆ จากคนที่เรารู้สึกดี ๆ วันนี้ คงเป็นอีกวันที่มีความสุขเช่นกันค่ะ
ขอบคุณสำหรับสิ่งดี ๆ ที่นำมาแบ่งปันกันเสมอ ๆ
อ่านแล้วน้ำตาไหลค่ะ โดยเฉพาะเรื่องราวระหว่างพ่อกับลูก มักทำให้แป้นสะเทือนใจได้เสมอ
สวัสดีความรักนะคะ แป้นว่าสำหรับพี่โอ๋คงไม่ต้องสวัสดีกับความรักแล้วใช่มั้ยคะ เพราะพี่โอ๋เจอกับความรักทุกวัน
ซาบซึ้งในความรักกับเรื่องเล่า..ได้ประโยชน์จากข้อคิดเตือนใจมากๆ เลยค่ะ..
สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะคะพี่โอ๋..