KMธรรมชาติคือเส้นทางเดินของ “ความรู้ที่มีชีวิต”


ชุดความรู้แบบธรรมชาติ จะมีหลากหลายมาก ทั้งชนิด ปริมาณ ระดับ และทั้งความใหม่และความล้าสมัย

เพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างสอดคล้องกัน และต่อเนื่องกัน ผมขอเสนอแนวคิดที่ผมคิดดังๆ ออกมาแลกเปลี่ยนให้พันธมิตรได้เกิดแนวคิด หรือข้อสงสัย เพื่อจะได้กระตุ้นการเรียนรู้กันอย่างต่อเนื่อง

  

ในระบบการดำรงชีวิตอย่างสอดคล้องกับทรัพยากร และระบบสังคมนั้น จะมีระบบการสร้างและพัฒนาความรู้เพื่อการใช้งานอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เป็นประเภทของรูปแบบการดำรงชีวิต วิถีชีวิต จริต ช่วงชีวิต รายปี รายฤดู รายเดือน รายวัน รายชั่วโมง รายนาที รายกิจกรรม ที่ยังมีความแตกต่างไปตามเงื่อนไขที่แวดล้อมและวัตถุประสงค์ในการทำงาน

  

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ชุดความรู้แบบธรรมชาติ จะมีหลากหลายมาก ทั้งชนิด ปริมาณ ระดับ และทั้งความใหม่และความล้าสมัย

  

ดังนั้นการระบบความรู้แบบธรรมชาติ จึงเปรียบเสมือนอีกชีวิตหนึ่งที่เปรียบเสมือนเป็นเงาที่คู่อยู่กับชีวิตของทุกคน

  

และการจัดการความรู้แบบธรรมชาติ จึงเป็นความจำเป็นของทุกคนที่จะต้องทำให้ทันสมัย ทุกวัน ทุกเวลา เช่นเดียวกับการรับประทานอาหาร อาบน้ำ แต่งตัว ใส่เสื้อผ้า

  

แต่ไม่ได้หมายความว่า เราจะต้องทำทุกประเด็นพร้อมๆกัน

  

วิธีการก็เช่นเดียวกับการดำรงชีวิต

  

เราจะจัดการเฉพาะที่เป็นขีดจำกัดในการทำงาน และการดำรงชีวิตปกติ

  

ดังนั้น การวิเคราะห์ประเด็นก็คือการใช้อริยสัจ ๔ เพื่อค้นหาประเด็นในการพัฒนา ค้นหาความรู้ เพื่อแก้ไขประเด็นที่เป็นขีดจำกัดในการดำรงชีวิต

  

การผสมผสานความรู้ใหม่ หรือนำความรู้เดิมมาแก้ไข ก็เป็นไปตามความเหมาะสม กับการดำรงชีวิตที่เป็นจริง

  

ดังนั้นการจัดการความรู้แบบธรรมชาติ หรือ KMธรรมชาติ จึงเป็นเรื่องที่ทำแล้วประเมินผลได้ทันที ปรับเปลี่ยนได้ทันที แบบวิจัยและพัฒนาเชิงปฏิบัติการ

 ที่ทำให้เกิดผลการพัฒนาได้เร็ว ปรับแผนได้เร็ว และมีประสิทธิภาพสูงในการใช้ทรัพยากร งบประมาณ และเวลาในการทำงาน

  

นักวิจัยทั้งหลายครับเรามาทำงานวิจัยและพัฒนาเพื่อสนับสนุน KMธรรมชาติ เพื่อทั้งชีวิตของตนเอง ภาคีและพันธมิตรวิจัย และสมาชิกทั่วไปในสังคม

  

เราน่าจะมีชีวิตที่มีความหมายและคุ้มค่ากว่ากันนะครับ

  ลองคิดดูนะครับ ทำงานเพื่อสังคมทั้งที รอสิบปีก็ยังไม่สายครับ

 

หมายเลขบันทึก: 78284เขียนเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2007 18:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 มีนาคม 2012 11:03 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ทำงานเพื่อสังคมทั้งที รอสิบปีก็ยังไม่สายครับ

ชอบคำนี้ครับอาจารย์  สมัครเป็นลูกศิษย์อาจารย์ด้วยคนครับ

คุณวันพิชิต

คำนี้ผมได้มาจากชีวิตจริงผมครับ

หลายเรื่องมากเลยครับที่ผมสอนนักศึกษาหรืพูดไว้แล้ว

พบว่า

สังคมจะเริ่มนำมาใช้หลังจากเวลาผ่านไปแล้วประมาณ ๑๐ ปี ครับ

ผมก็ไม่ทราบสาเหตุครับ ว่าทำไม ผมก็อยากรู้เหมือนกัน แต่ไม่รู้จะถามใคร

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท