การเดินทางมาทำงานที่ปูนทุ่งสงครั้งนี้ ทำให้ผมได้ประสบการณ์อีกหลายอย่างครับ ก็เรื่องของวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน ภาษา ที่แตกต่างกัน แต่ไม่ต่างชาติครับ..
เท่าที่ผมได้ยินมาบางคนบอกว่าทางใต้อันตรายนะให้ระวังตัว ..โห.. พูดกันซะน่ากลัวเกินกว่าเหตุครับผมมาจริงๆแล้วไม่ได้เป็นอย่างที่เขาร่ำลือกันเลย คนใต้ใจดีครับ...ผมได้จุดเรียนรู้จากการมาใต้ครั้งนี้อยู่อย่างหนึ่งว่า คนใต้เป็นคนขี้เกรงใจครับ..หากคนไม่รู้จักก็จะหาว่าเขาหยิ่ง เขาน่ากลัว..แต่จริงแล้วไม่ใช่ครับ..เหมือนครั้งนี้ผมมาวันแรกเหงามากครั้ง ก็ได้คุยแต่ทีม HR ด้วยกันกับพนักงานไม่มีใครคุยกับผมเลย เขามองหน้าแปลกๆ .ก็ไม่แปลกยังไงล่ะครับพอผมเดินเข้าไปในหมู่พนักงานแล้วทำให้ผมรู้สึกว่า ขาวขึ้นอีกเยอะเลย...พออีกวันผมก็เลยลองเข้าไปคุยกับพี่เขาดูครับ..ที่นี้แหละมันกันล่ะ ละอ่อนเหนือ เจอแหล่งใต้ เข้าให้หล่าว....มันส์ครับ มันตรงที่ผมฟังไม่ทัน..ถ้าพูดช้าก็พอฟังออก แต่ถ้าเมื่อไหร่เขาเพิ่ม speed แล้วล่ะก็ผม เอ๋อ เลยล่ะ .....เรื่องของความเกรงใจมีเรื่องเล่าครับ....มีน้องผู้หญิงคนหนึ่งครับ น้องเขาเป็นพนักงานใหม่ นิสัยผมก็อีกแหละถ้าเจอใครครั้งแรกนี่ผมจะเป็นเสือยิ้มยากก่อนล่ะ ยิ่งเป็นสาวๆด้วยแล้วล่ะก็ผมเล่นบทคนหยิ่งก่อน..ไม่ใช่หยิ่งจริงหรอกครับผมเกรงเขาจะหาว่าเราเจ้าชู้อะไรทำนองนั้น..ส่วนน้องเขาก็ไม่กล้าพูดกับผม บางทีผมก็เห็นน้องเขามองๆมาที่ผมเหมือนกันนะ แต่ก็คงไม่กล้าคุยกับผม..จนกระทั่งวันสุดท้ายก่อนจะกลับครับ..ผมเจอน้องเขาที่โต๊ะอาหาร นั่งกันอยู่สามคนถ้าไม่คุยก็กะไรอยู่ ผมก็เลยสอบถามน้องเขาว่า..ทำงานมานานหรือยัง..รู้สึกอย่างไรบ้าง..และอีกหลายๆคำถาม..ซึ่งก็เป็นการพูดคุยกันเรื่องทำงาน..น้องเขาบอกว่า “หนูนึกว่าจะไม่ได้คุยกับพี่ซะแล้ว เคยได้ยินแต่ชื่อพี่ (อ้าวใครมานินทาเราล่ะเนี่ย).. แต่ไม่เคยเห็นหน้า พอได้เจอกะว่าจะขอเรียนรู้เรื่องการทำงานด้าน HRD ด้วยแต่ไม่กล้าคุยด้วย” ..พอได้ยินน้องเขาพูดเช่นนั้นผมกลับมาคิดว่าเราคงทำหน้าดุมากแน่ๆเลย จนน้องเขาไม่กล้าทัก...และหลังนั้นผมก็ต้องนั่งตอบคำถามน้องเค้าอีกมากมาย..ดูเหมือนผมจะถูกสัมภาษณ์อย่างงั้นแหละ..แล้วสุดท้ายน้องเค้าบอกว่า “พี่คนใต้เวลาได้รู้จักแล้วจะเป็นกันเองมากนะ ตอนที่ยังไม่ได้คุยเค้าจะเกรงใจ แต่ถ้าได้คุยแล้วเค้าจะเชื่อใจ” ....ผมเชื่อว่าจริงครับ จากที่ผมได้เรียนรู้ครั้งนี้ พออยู่ได้วันที่สี่ เท่านั้นแหละผมรู้จักเกือบครึ่งหนึ่งของโรงงาน แม้ไม่รู้ชื่อแต่พอเดินผ่านก็ได้เห็นรอยยิ้มแล้ว ที่สำคัญคนใต้เป็นคนใจดีมีน้ำใจมากครับ มีหลักฐานยืนยันได้ครับ เพราะก่อนกลับผมได้รับ “จตุครามรามเทพ” เป็นที่ระลึกเกือบยี่สิบองค์ ครับ..ทั้งที่ผมไม่ได้เอ่ยปากขอหรือเช่า แต่พี่ๆจะถามเลยว่าชอบไหมถ้าชอบจะให้เลย โอ พระเจ้าเข้าทางโจรอย่างผมเลยครับ ที่ก็ไว้เชิง ทำเป็นกระมิดกระเมี้ยน แต่ก็รับครับ รับหมดเลย ฮาๆๆ มีอีกมั๊ยครับ..
สรุปครับ คนใต้เป็นคนใจดี มีน้ำใจ รักใครรักจริง ถึงแม้จะอยู่ต่างถิ่นต่างภาค ต่างวัฒนธรรม ต่างภาษา แต่ก็เป็นคนไทยด้วยกัน ไม่ว่าเหนือหรือใต้ รักกันไว้เถิดครับ ถ้าไม่เชื่อก็ลองเอาน้ำพริกหนุ่มมากินกับสะตอ ดูซิครับ อร่อย อย่าบอกใครเชียว ยิ่งเพิ่ม ลูกเนียงเข้าไปอีก..โอ๊ย..มันคือ แซบอีหลีเด้อครับ..เรียน คุณภูคา
ติดใจสะตอแดนใต้เข้าแล้วสิเนี่ย ว่าแต่ว่า คนแถวสระบุรี ทราบกันหมดแล้วนะคะ ว่า คุณภูคา มีจตุคามฯ เกือบ 20 องค์ กว่าคุณภูคาจะกลับ สงสัยงานนี้ มีเข้าคิวโทรมาขอกันเป็นแถว ๆ แน่
พลาดไปแล้ว งานนี้ อิ อิ
คุณเรวัตร
ได้ลองทานสะตอรึยังค่ะ แอบมาแซว เห็นชื่อบันทึกครั้งแรก นึกว่าได้ลองทานสะตอแล้ว
คนใต้ใจดีค่ะ อันนี้ขอยืนยันค่ะ ^-^
ขอบคุณทุกท่านครับ..
ยืนยันครับว่าคนใต้ใจดี..น่ารักมากๆๆ ครับ พรุ่งนี้กลับก่อน แล้วอาทิตย์จะมาใหม่ครับ...
มาคัดค้านค่ะ...หนึ่งประเด็นในบันทึกที่มิควรด่วนสรุป...คนใต้รักใครรักจริง....ในความเป็นจริง...คนทุกภาคค่ะรักใครรักจริง...หากจะยืนยันคำกล่าวข้างต้น...แนะนำให้ลองรักคนใต้ดูสักคน..แล้วทิ้งเธอไป...คุณจะพูดใหม่ค่ะ...อิ...อิ...
ขอบคุณครับคุณเมตตา....คัดค้านเสียงก้องมาถึงสระบุรีเลยครับ..จริงครับคนไทยไม่ว่าภาคไหนๆก็รักกันจริงทั้งนั้น แต่ประเด็นที่ผมพูดถึง เป็นกรณีของคนใต้ ที่ผมเคยได้ยินมาว่าน่ากลัวต่างหาก..แต่พอผมไปพบปะจริงๆแล้วไม่ใช่อย่างที่เคยได้ยินมา ก็เลยเกิดความประทับใจครับ...ซึ่งก็เหมือนกับการเรียนรู้ที่ต้องลงมือปฎิบัติให้รู้ลึกรู้จริงนั่นแหละครับ...แต่ถ้าบอกให้ไปลองรัก คง ไม่ดีกว่าครับ..เพราะว่าเรื่องรักคงมาลองเล่นๆไม่ได้...ครับ...
นั่นแน เข้าดึกนะคะวันนี้ อิอิ ^__* ไปดินเนอร์เพิ่งกลับหรือน้องบ่าว
Happy Valentine ครับ..
ไม่ได้ไปไหนเลยครับ กลับมาจากทุ่งสงก็นั่งเคลียร์งาน..ครับ..
ดีจ้า
ชอบคนใต้จัง
ไปละ
จากเด็กระยองพาณิช
ยืนยันในฐานะลูกเขยคนใต้ครับ