มีหลายสิ่งที่หลายคนต่างมีความคิดที่ดูจะเหมือนกันแต่เอาเข้าจริงๆแล้วกลับต่างกันเหมือนคนละฝาคนละขั้ว เช่น
- แทนที่จะพยายามหาทางสู่ความพ้นทุกข์ แต่บางคนกลับไปดิ้นรนหาความสุข (ตามหาความสุขก็ไม่ต่างกับการไล่เงาตนเอง)
- ทุกข์คือสิ่งที่ต้องรู้ แต่บางคนบอกว่าเป็นสิ่งที่ต้องละ (ถ้าไม่ละที่เหตุเมื่อไรจะได้พบผล..)
- บางคนบอกว่าทุกข์กาย-ใจ นานๆจะเกิดที แต่จริงแล้วมันเกิดบ่อยมากจนนับไม่ทันทีเดียว (การแสดงออกทาง กาย ใจ ล้วนแล้วทำไปเพื่อแก้ทุกข์ทั้งสิ้นแล..)
- แทนที่จะมีสติระลึกรู้กาย ใจ ในปัจจุบัน แต่กลับชอบส่งใจออกไปภายนอกไปอยู่อีกโลกหนึ่ง เป็นโลกของความคิดฝัน (รู้ว่ากำลังคิด เป็นปัจจุบัน แต่จมอยู่กับอารมณ์ของความคิดเป็นความฝัน..)
- การศึกษาหรือทำวิจัยเกี่ยวกับทุกข์สามารถเรียนที่ กาย ใจ ของเรานี่เองแต่บางคนกับดิ้นรนเรียนที่ภายนอก (อย่าลืมห้องเรียนที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์การเรียนที่ทันสมัยที่สุด กว้างวายาวศอก เท่านั้นหาใช่ที่ใดไม่ก็คือกายนี้นี่เอง..)
- กาย หรือ อารมณ์ความรู้สึก เป็นเพียงสิ่งที่ถูกรู้ หาใช่ตัวเราไม่ แต่บางคนกลับคิดว่าเป็นตัวตนของเรา (เรามักใช้ความสามารถส่วนตัวในการวาดกรอบขยายวงไปรอบๆตัวเองแล้วกำหนดกรอบนั้นว่าเป็นเรา เช่น ตัวเรา ลูกเรา บ้านเรา โรงเรียของเรา ประเทศของเรา โลกของเรา แล้วแต่กำลังที่จะปั้นแต่งออกไปของแต่ละคน...)
นี้เป็นเพียงตัวอย่างของความคิดที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้แล..