วันนี้ มหาชีวาลัยอีสานต้อนรับ ดร.สิน วัชโรบล แห่งสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) จะมาหารือการจัดตั้งโครงการวิจัยท้องถิ่น
ในแวดลงวิชาการคงจะหนีเรื่องการวิจัยไปไม่พ้น อย่างน้อยแต่ละท่านก็ต้องเผชิญวิบากกรรมเรื่องนี้มาแล้วไม่มากก็น้อย ผมเองเป็นตาบอดบอดมีคนจูงให้เข้าไปในสนามแห่งนี้หลายครั้ง เกือบยี่สิบปีแล้วมังที่อาจเอื้อมไปขายความบ้องตื้นเรื่องการวิจัย ในการประชุมนักวิจัยในที่ต่างๆ รวมทั้งที่มหาวิทยาลัยมหาสารครามร่วมกับท่านอาจารย์ใหญ่ แห่งสคส. เมื่อสัก7-8 ปีที่แล้ว รวมทั้งในเวทีประชุมใหญ่วิชาการประจำปีของ สำนักงานกองทุนส่งเสริมสนับสนุนการวิจัย(สกว.) และทำการวิจัยด้วยตนเองหลายเรื่อง ยกตัวอย่างก็ได้ วิจัยเรื่องการสร้างเตาอบถ่าน
มาจากต้องการแก้ไขปัญหาเรื่องเศษไม้ปลายไม้ที่ทิ้งจำนวนมาก ในการตัดไม้แต่ละครั้ง ปลายไม้ขนาดข้อมือโรงงานจะไม่รับ ถูกซื้อทิ้งเรี่ยราดแต่ละครั้งนับร้อยตัน
จะเอาปลายไม้พวกนี้ไปทำอะไร ทำฟืน ทำไม้ใช้สอย ทำปุ๋ย ฯลฯ ใช่หรือไม่ พอหรือไม่ เหมาะแล้วหรือไม่ ต้องผ่านกระบวนการเลือก การตัดสินใจเป็นชั้นๆ ในชั้นนี้ฟันธงลงมาว่าเราจะตั้งเตาอบถ่าน
ในการตั้งเตาเผาถ่าน ความรู้อยู่ที่ไหน สร้างแบบไหน เทคนิคอะไร ลงมือทดลองทำ ตั้งเตาถ่านขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ทดลองเผาๆๆ ได้ถ่านดิบ ถ่านกึ่งสุกกึ่ง ดิบ ถ่านหัวหงอก และถ่านมีคุณภาพดี
ในการควบคุมการผลิต คุณภาพ มาตรฐาน ปริมาณ โจทย์รอง4 เข้าสู่ระบบการจำหน่าย การตลาด ใช้เอง จำหน่ายในท้องถิ่น ผลิตเพื่อการส่งออก ทดลองส่งไปจำหน่ายที่ญี่ปุ่น
ผลที่เกิดที่ได้ข้างเคียง น้ำควันไม้ ผงถ่าน การกลั่นน้ำมัน แปลงเพาะชำ การปลูกและตัดไม้
<ul style="margin-top: 0cm"><li class="MsoNormal" style="text-justify: inter-ideograph; margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify; tab-stops: list 36.0pt">
โจทย์รอง5
</li></ul><p align="justify">สรุปผลดำเนินงาน ร่องรอย ชุดความรู้เกี่ยวกับวงจรถ่าน สำหรับเกษตรกรรายย่อยที่ต้องการตั้งเตาเผาถ่านเพื่อสร้างรายได้เสริม การพึ่งตนเองด้านพลังงานหุงต้ม ถามว่า ผมเป็นคนป่า อาศัยอยู่ในสำนักแห่งนี้ ไม่มีสถาบันวิชาการอะไรเลย ทำไมมาคลุกคลีตีโมงกับเรื่องนี้ด้วย ผมคิดอย่างนี้ครับ ผู้จัดเขาคงจะอยากได้คนที่ไม่อยู่ในกรอบหรือทฤษฎีวิจัยขึ้นสมอง ผมเป็นพวกเพียวๆไม่เกี่ยวกับระบงระเบียบวิธีวิจัย แต่ถ้าเราค้นหาสมุติฐานของความจริง </p><p align="justify">ค้นหาคำตอบคำอธิบายให้มันทะลุทะลวง ตอบข้อสงสัยได้กระจ่าง ก็มีวิธีของตนเองจะเล่าให้ฟังได้ เส้นทางที่ดำเนินการโดยระเบียบวิธีวิจัย กับไม่มีระเบียบแต่มีอิสระวิธีที่จะไปแสวงหาความจริง พลิกแพลงยังไงก็ได้ สุดท้ายผลลัพธ์ตรงกัน ก็คือได้ความจริงมาตอบปัญหาครบถ้วนทุกขั้นตอน ถ้าใครถามหรือให้อธิบายวิธีวิจัยแบบไทบ้าน ผมคิดว่าตัวเองพอที่จะพูดเป็นตุเป็นตะได้จากประสบการณ์ตรง </p><ul style="margin-top: 0cm">
<li class="MsoNormal" style="text-justify: inter-ideograph; margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify; tab-stops: list 36.0pt">
ทำแค่ไหน
</li>
<li class="MsoNormal" style="text-justify: inter-ideograph; margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify; tab-stops: list 36.0pt">
ทำอย่างไร
</li>
<li class="MsoNormal" style="text-justify: inter-ideograph; margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify; tab-stops: list 36.0pt">
ได้อะไร
</li>
<li class="MsoNormal" style="text-justify: inter-ideograph; margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify; tab-stops: list 36.0pt">
เอาไปใช้อย่างไร
</li>
<li class="MsoNormal" style="text-justify: inter-ideograph; margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify; tab-stops: list 36.0pt">
จะต่อยอดยอดอย่างไร
</li>
</ul><p align="justify"> ตรงนี้ไม่น่าจะยาก เพราะทำแค่ไหนก็พูดแค่นั้น อย่าเลยเถิด อย่าบ้าจี้ อย่าล้ำเส้น ให้อยู่ในกรอบพอดี พอประมาณ และมีภูมิคุ้มกัน มันก็แค่นี้ ถ้าเห็นว่าไม่ดีไม่ถูกต้องก็แนะนำมา เราพร้อมที่จะปรับให้มันดีมันถูกต้องก็แค่นั้นแหล่ะ เมื่อรัยทั้งถูกและผิดได้อย่างเต็มใจมันก็จบ เพราะงานวิจัยทุกเรื่องยืนอยู่บนกระดานหก พร้อมที่จะหกหน้าหกหลัง ถ้าทำให้มันนิ่งเที่ยงตรงอยู่ตรงกลางได้มันก็จบ </p><p align="justify">วันนี้ มหาชีวาลัยอีสานต้อนรับ ดร.สิน วัชโรบล แห่งสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) จะมาหารือการจัดตั้งโครงการวิจัยท้องถิ่น เครื่องบินจะร่อนลงเวลา 14.00 น.หลังจากนั้นก็จะได้หารือกัน รวมเวลาเบ็ดเสร็จครึ่งวันกับอีกหนึ่งคืน</p><p align="justify">ญาติมิตรชาวบล็อกที่มีประสบการณ์งานวิจัยดีๆ เล่ามาให้ฟังในเรื่องนี้ดีไหมครับ เราจะได้เรียนรู้ร่วมกัน ผมมีขอเสนออย่างนี้ครับ ถ้าเพื่อนชาวบล็อกจะแสดงทัศนะลงในบล็อก ก็อย่าห่วงว่าเรื่องนั้นเรื่องนี้จะตรงกับวิชาการหรือหน้าที่การงานหรือเปล่า เราไม่ต้องไปลงรายละเอียดเคร่งเครียดขนาดนั้นก็ได้ ออกความเห็นในเชิงทัศนะส่วนตัว ไม่ต้องวิชากงวิชาการอะไร ทำเหมือนปรับทุกข์ แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน เอาแบบกันเอง แบบเพื่อน ดีไหมครับ ไม่อย่างนี้ความรู้ (สึก) ของท่านก็อยู่ในอีกโลกหนึ่ง ไม่ได้มาแชร์ความรู้กัน ที่จริงมีตัวอย่างดีมากๆเช่น อ.ขจิต อ.หนิง อ.ลูกหว้า อ.จันทรรัตน์ อ.รัตติยา อ.กิติยา อ.บีแมน อ.จตุพร อ.อ้อย อ.รานี อ.เจนจิต อ.IS อ.วันพิชิต อ.แป๋ว ฯลฯ อ.ขจิต ลงรายชื่อต่อให้หน่อย (อย่าเพิ่งน้อยใจนะครับ ) </p>